วันนี้ (31 ก.ค.2568) นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง (ข้อ 3-5) ในการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศว่าด้วยการระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธีและการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ
1. ไทยขอขอบคุณต่อความพยายามและความมุ่งมั่นร่วมกันในการจัดการประชุมครั้งนี้ เพื่อยืนยันเจตจำนงทางการเมืองร่วมกัน และความมุ่งมั่นต่อสันติภาพและเสถียรภาพที่ยั่งยืนในตะวันออกกลาง
2. การประชุมครั้งสำคัญที่รอคอยมาอย่างยาวนานนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากนานาชาติในการหาข้อยุติอย่างเป็นธรรม ยั่งยืน และครอบคลุม ต่อความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ผ่านการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐด้วยสันติวิธี
3. น่าเสียใจที่มีผู้แทนคนหนึ่งหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นในที่ประชุมนี้ ผมไม่ได้ตั้งใจจะนำประเด็นทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญนี้ แต่จำเป็นต้องชี้แจงข้อเท็จจริงโดยสังเขปเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด
4. เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ภายใต้ความพยายามของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียน ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง อย่างไรก็ตาม ไม่นานหลังจากข้อตกลงดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ในวันที่ 29 ก.ค. ประเทศเพื่อนบ้านของเรากลับยิงข้ามพรมแดนและรุกรานดินแดนซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง
5. ไทยขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นที่จะดำเนินการผ่านช่องทางทวิภาคีที่มีอยู่ หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือบิดเบือน และดำเนินการด้วยความสุจริตใจ
6. สถานการณ์เลวร้ายในกาซายังคงดำเนินต่อไป พร้อมกับการสู้รบ ความทุกข์ยากด้านมนุษยธรรม และการพลัดถิ่น รวมถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลางโดยรวม ล้วนต้องการการเจรจาและความพยายามครั้งใหม่อย่างเร่งด่วนเพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพ
7. ผมขอเน้นย้ำประเด็นสำคัญดังต่อไปนี้
8. ประการแรก ไทยขอยืนยันการสนับสนุนแนวทางสองรัฐในฐานะหนทางเดียวที่เป็นไปได้สู่สันติภาพที่ยั่งยืน ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและมติที่เกี่ยวข้องของสหประชาชาติ โดยให้อิสราเอลและปาเลสไตน์ดำรงอยู่อย่างสงบสุขและมั่นคงเคียงข้างกัน
9. การมีส่วนร่วมอย่างครอบคลุมเป็นสิ่งสำคัญ ไทยสนับสนุนความพยายามทั้งหมดของสหประชาชาติ หุ้นส่วนระดับภูมิภาคและนานาชาติ รวมถึงสันนิบาตอาหรับ องค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) และประเทศรักสันติ เพื่อส่งเสริมการเจรจาอย่างมีความหมายและสร้างเงื่อนไขสำหรับสันติภาพ ความไว้วางใจต้องได้รับการฟื้นฟูผ่านมาตรการสร้างความเชื่อมั่น การมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ และการทูตที่ครอบคลุม เพื่อตอบสนองต่อความกังวลและความมุ่งหวังของทุกฝ่าย
10. ประการที่ 2 เราขอย้ำเรียกร้องให้มีการหยุดยิงที่ยั่งยืน และการปล่อยตัวตัวประกันที่ยังคงถูกคุมขังทั้งหมดโดยทันทีและโดยไม่มีเงื่อนไข โดยมีพลเมืองไทยบางส่วนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เราได้เห็นผลกระทบด้านมนุษยธรรมที่ลุกลามเกินขอบเขตในระดับภูมิภาค ความสงบสุขในตะวันออกกลางจึงเป็นความรับผิดชอบร่วมของพวกเราทุกคน
11. ประการที่ 3 การคุ้มครองพลเรือนยังคงเป็นลำดับความสำคัญของเรา เราสนับสนุนการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่ปลอดภัย โดยไม่ถูกขัดขวาง และทันเวลา ตามหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
12. วันนี้ ขอให้พวกเราร่วมกันยืนยันความมุ่งมั่นที่จะยุติความขัดแย้งนี้อย่างถาวร ผ่านการเจรจาอย่างสร้างสรรค์และแนวทางที่มุ่งเน้นการปฏิบัติ ขอให้ประวัติศาสตร์จดจำพวกเราจากความกล้าหาญที่จะลงมือทำเพื่อสันติภาพ มิใช่ความเพิกเฉย
อ่านข่าว :
รพ.สรรพสิทธิประสงค์ ประกาศงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา ถึง 10 ส.ค.
กต.ฟาดกัมพูชาสื่อสารโลกบิดเบือนข้อมูลละเมิดหยุดยิง
ผบ.ทสส.มาเลเซีย เข้าหารือ "มทภ.1 - มทภ.2" รับทราบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาชายแดนไทย - กัมพูชา