ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"มนุษยธรรม" จุดยืนไทย "ม้าอารี" กลางสมรภูมิรบไทย-กัมพูชา

การเมือง
17:21
357
"มนุษยธรรม" จุดยืนไทย "ม้าอารี" กลางสมรภูมิรบไทย-กัมพูชา
อ่านให้ฟัง
07:58อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

เหลี่ยมทุกดอก แล้วบอกคุยกัน เมื่อข้อตกลง "หยุดยิง - ห้ามเพิ่มกำลังเข้าพื้นที่" ไม่ได้บรรลุผลจริง ท่ามกลางสัญญาของผู้นำกัมพูชา 2 พ่อลูก "ฮุน เซน-ฮุน มาเนต" ร้องหาตัวช่วยสร้างสันติภาพ ดึง "โดนัล ทรัมป์" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัวช่วย "ทูตสันติภาพ" ลงนามในข้อตกลง เพียงข้ามคืน เขมรละเมิดทุกอย่าง ไม่เคยจดจำ "มนุษยธรรม" และความเป็น "ม้าอารี" ที่ได้รับจากไทย แม้แต่น้อย

การปล่อยข้อมูลเท็จ ของ พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมโจมตีรัฐบาลไทยใช้อาวุธเคมีโจมตีกัมพูชา ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ทำให้อินฟลูเอนเซอร์ชาวกัมพูชาแชร์ข้อความ-ภาพ ดังกล่าว ลักษณะเดียวกัน และมีการแชร์ข้อความระบุว่า ทหารไทยใช้อาวุธเคมีโจมตีทหารเขมรซึ่งเป็น "อาชญากรรมสงคราม" และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

ไม่ต่างจาก แพทย์หญิง ปึจ จันท์โมนี ภรรยา ฮุน มาเนต ได้แชร์รูปและข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชาวกัมพูชาใช้ชื่อ Chan Daravuth เป็นภาพเครื่องบินโปรยสารเคมีสีแดง พร้อมข้อความ "ทหารไทยใช้สารเคมีโจมตีกัมพูชา ไทยใช้แก๊สพิษ"

ทั้ง ๆ ที่ภาพดังกล่าวเป็นภาพเครื่องบินโปรยสารเคมีดับไฟป่าอีตัน ในมลรัฐแคลิฟอร์เนีย เผยแพร่ผ่านสำนักข่าว USAToday เมื่อวันที่ 13 ม.ค 2025

หรือข้อกล่าวหา ทหารไทยลักพาตัว 20 ทหารเขมร เป็นการถูกจับหลังมีข้อตกลงหยุดยิง ของ พล.ต.จันทร์ โสภักตรา ผบ.กองกำลังปราสารเขาพระวิหารยังฟ้องผู้แทนนานาชาติ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.2568)

แต่ไม่ว่าจะถูกโจมตีอย่างไร ทว่า ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมของทหารไทย และประชาชนที่มีกับชาวกัมพูชา ท่ามกลางสมรภูมิรบดุเดือดที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ยังมีให้อย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่มีการเปิดฉากยิงนัดแรกที่ "ปราสาทตาควาย" และจนถึงวันนี้

หากไล่เรียงเหตุการณ์ หลังคลิปวัยรุ่นกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในไทย ออกมาระบุว่า "ประเทศผม ผมก็รัก ประเทศพี่ ผมก็รัก" และตอบของลูกจ้างเขมรที่บอกกับนายจ้างชาวไทย "ไม่อยากกลับเขมร เพราะที่นั่นไม่มีอะไรทำ อยู่ไทยมานานคุ้นเคยกับคนที่นี่มากกว่า...หากนายจ้างไม่ไล่ให้กลับ ก็จะอยู่ต่อไป"

ไม่เพียงทำให้รัฐบาลและกองทัพ ต้องออกมาเตือนให้คนไทย ตั้งสติและรักษาความมี "มนุษยธรรม" ไม่ให้ทำร้ายชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่ในไทย เพื่อป้องกันไม่ให้ชาวเขมรบิดเบือนข้อมูล หรือนำไปขยายผลต่อ

ครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2568 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาเตือนให้กลุ่มวัยรุ่นหยุดทำคอนเทนต์ใช้กำลังทำร้ายร่างกายชาวกัมพูชาที่อยู่ในประเทศไทย เนื่องจากไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น และขอให้คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ดูแลความปลอดภัย โดยเฉพาะในพื้นที่แรงงานชาวกัมพูชาอาศัยอยู่

นายอนุกูล ยังกำชับอีกว่า ว่า หากพบพฤติกรรมกลุ่มวัยรุ่นไทยเข้าไปทำร้ายร่างกายชาวกัมพูชา จะต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด รัฐบาล กองทัพ มุ่งแก้ไขปัญหาโดยยึดหลักนิติธรรมและคุณค่าสากลของมนุษยธรรม ไม่ส่งเสริมให้ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะกับประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และให้ประณามการกระทำที่รุนแรงส่งผลให้ประชาชนต้องเสียชีวิต

ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ก.ค.2568 หลังเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทย-กัมพูชา บริเวณแนวรบพระวิหาร เสียงปืนและกระสุนยังไม่ทันสิ้นควัน ในช่วงเย็น กองทัพบก รายงานว่า ทหารไทยได้ส่งศพทหารกัมพูชาจำนวน 12 นาย ซึ่งเสียชีวิตจากการสู้รบในพื้นที่บริเวณภูมะเขือ ให้กัมพูชา บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อให้นำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาในภูมิลำเนา

โดยชี้แจงว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามหลักมนุษยธรรมสากล และถือเป็นการให้เกียรติทหารที่เสียชีวิตในสมรภูมิ ไม่ว่าจะสังกัดฝ่ายใด สะท้อนถึงจิตวิญญาณของความเป็นทหารที่มีเกียรติและศักดิ์ศรี ซึ่งเข้าใจถึงหัวอกของผู้ปฏิบัติหน้าที่ในสถานการณ์ความขัดแย้ง ซึ่งล้วนปฏิบัติหน้าที่ตามบทบาทเพื่อประเทศของตน

หลังส่งศพทหารเขมรกลับคืนแล้ว ในค่ำวันเดียวกันไทยยังมีการเลี้ยงดูปูเสื่อทหารกัมพูชาที่ถูกกองทัพภาค 2 ควบคุมตัวจำนวน 18 นาย ในจุดปะทะใกล้พื้นที่ซำแต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังฝ่ายไทยใช้หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา

พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุว่า ผลปฏิบัติดังกล่าวทำให้ทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนและไม่ได้มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอนโดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด

ทหารทั้ง 18 นาย มีตั้งแต่ระดับสัญญาบัตรและชั้นประทวน จำนวนนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย คือ ส.อ.มอม ริด ถูกกระสุนบริเวณสะโพกข้างขวาและแขนซ้าย ซึ่งไทยได้ส่งเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาล ส่วนผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่ 2 นายยังอยู่ในพื้นที่

"ทหารกัมพูชาทั้งหมดอยู่ภายใต้การควบคุม ในพื้นที่ปลอดภัยของกองทัพภาคที่ 2 และมีการจัดเตรียมการดูแลขั้นพื้นฐานไว้ให้ ทั้งเสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม และการรักษาพยาบาลตามความจำเป็น ดูแลให้เป็นไปตามแบบปฏิบัติในทางทหารของสากล และยึดหลักมนุษยธรรมสากล" พล.ต. วินธัย กล่าว

ท่ามกลางความหมาย "มนุษยธรรม" ค้ำคอ เจ้าหน้าที่ไทย "ฮุน มาเนต" นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความขอให้ไทยเร่งรัดให้ส่งตัวทหารกัมพูชา 18 นาย กลับประเทศ ขณะที่ฝ่ายไทยก็ไม่ได้รอช้า หลังดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายเสร็จสิ้นแล้ว ในวันพรุ่งนี้ (1 ส.ค.2568) กองทัพภาคที่ 2 จะส่งตัวทหารเขมรทั้งหมดกลับประเทศต้นทางที่บริเวณจุดผ่านแดนช่องจอม จ.สุรินทร์ 

เหลี่ยมทุกดอก บอกคุยแล้ว กับทุก ๆ การกระทำของ "ฮุน มาเนต" กัมพูชา สงครามการสู้รบด้วยกองทัพยังไม่จบ ...แต่การใช้สงครามโซเชียลขับเคลื่อนเขมรทำทุกทิศทาง ขณะที่กองทัพไทยและคนไทยยังคงรักษาจุดยืน "มนุษยธรรม"ท่ามกลางสมรภูมิรบ ที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือทุกทิศทาง

อ่านข่าว

 ศึก"ไทย-กัมพูชา" ศูนย์วิจัยกรุงไทย ชี้ กระทบเศรษฐกิจ 1.7 หมื่นล้าน

สังเวย 3 ชีวิต “บิ๊กทหารเขมร” ตรวจแนวรบพระวิหารไทย-กัมพูชา

ไม่เป็นสุภาพบุรุษ- "แพทองธาร" ตำหนิกัมพูชาละเมิดหยุดยิง