วันนี้ (9 ส.ค.2568) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการเข้าไปเก็บกู้ทุ่นระเบิด "PMN 2" หรือ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หลังเกิดเหตุ "ปะทะ" ของกำลังทหารฝ่ายไทยและกัมพูชา ช่วง 5 วันที่ผ่านมา คือวันที่ 24 - 28 ก.8.ที่ผ่านมา นอกเหนือจากนี้ ยังมีกระสุนปืนใหญ่ "ปืน ค.", จรวด "ฺBM-21"
ถ้าไล่เรียง ตามแผนปฏิบัติงานเก็บกู้ ตั้งแต่วันที่ 1 - 9 ส.ค.นี้ สามารถเก็บกู้กระสุนปืนได้หลายชนิด และหลากหลายขนาด มีทั้งที่เป็นปลอกกระสุน และหัวกระสุนที่ยังไม่ทำงาน รวมแล้วมากกว่า 500 ลูก
ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ หน่วยปฏิบัติการเข้าไปเก็บกู้แล้ว จำนวน 69 พื้นที่ ร่วม 70 ลูก ทั้งกระสุนปืนใหญ่ "ปืน ค." ลูปปืนใหญ่ และ ลูกจรวด "BM-21"
ส่วนที่บริเวณภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พบทุ่นระเบิด "PMN-2" จำนวน 18 ทุ่น ซึ่งทั้งหมดอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน นอกจากนี้ ยังมี ลูกกระสุนหลายขนาด และหัวจรวด"RPG" จำนวนมาก และยังมี หัวจรวด "PG-7" ตกค้าง 1 หัว ซึ่ง (EOD และ ตชด.22) ได้ลงพื้นที่เก็บกู้ ที่บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

ขณะที่ จ.สุรินทร์ อ.กาบเชิง พบหลุมที่เกิดจากแรงระเบิดของจรวด "BM-21" มากกว่า 20 ลูก, หลุมระเบิดที่เกิดจากกระสุนปืนใหญ่อีก 2 จุด และมีจุดกระสุนตกมากกว่า 100 หลุม ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจ
สำหรับ จ.อุบลราชธานี อ.น้ำยืน ซึ่งเป็นพื้นที่มีเหตุปะทะกันมากที่สุด เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบและทำลายหัวกระสุนและลูกระเบิด โดยเฉพาะลูกจรวด "BM-21" ทำลายไปแล้ว 10 จุด หรือ 10 ลูก แต่ก็เป็นเพียง 1 ใน 5 จุด ที่ต้องสำรวจ รวมทั้งสิ้น 24 จุด
แต่ภาพรวมทั้งหมด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกฯ เปิดเผยว่า กัมพูชาฝั่งทุ่นระเบิดสังหารบุคคลซึ่งต้องฟ้องละเมิดอนุสัญญาออตตาวา มากกว่า 400 ลูก
อ่านข่าว :
กต.ประณาม "กัมพูชา" ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชี้ละเมิดอนุสัญญาครั้งที่ 3 ในรอบเกือบ 1 เดือน
ไทยเดินหน้าเก็บหลักฐานฟ้อง "กัมพูชา" เทียบเคส ตปท.เอาผิด
สั่งเก็บหลักฐานทหารไทยเหยียบกับระเบิด ร้องเขมรผิดอนุสัญญาฯ