“เขากระโดง” กลายเป็นคดีมหากาพย์ที่ดินการฟ้องร้องยาวนาน 55 ปี ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และผู้ครอบครองพื้นที่ในบริเวณวนอุทยานเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีทั้งบุคคลและนิติบุคคลจำนวน 5,083 ไร่ จำนวนนี้เป็นข้อพิพาทเรื่องกรรมสิทธิ์และการออกเอกสารสิทธิทับที่ดินของการรถไฟฯ มี 10 นิติบุคคล-คนทั่วไปถือครองรวม 670 ไร่

มีรายงานจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ระบุว่า ในพื้นที่พิพาทบริเวณที่ดินเขากระโดง 5,083 ไร่ มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 7,600 ราย มี 7 หมู่บ้าน 4,700 ครัวเรือน จำนวนนี้มีผู้ครอบครองโฉนดที่ดิน 484 แปลง หนังสือรับรองการทำประโยชน์ 511 แปลง รวมทั้งหมด 995 แปลง
แม้ “ภูมิธรรม เวชยชัย” รมว.มหาดไทยจะมอบหมายให้ “เดชอิศม์ ทองขาว” รมช.มหาดไทยในฐานะผู้กำกับดูแลกรมที่ดินมีคำสั่งให้เพิกถอนที่ดินเขากระโดงในพื้นที่ ต.อีสาณ และต.เสม็ด อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ให้แล้วเสร็จภายใน 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.2568 ทำให้ “พรพจน์ เพ็ญพาส” อธิบดีกรมที่ดินยื่นใบขอย้ายออกจากกรมที่ดินทันที โดยระบุว่าเพื่อให้สามารถพิจารณาเรื่องต่างๆได้ชัดเจนไม่ต้องคำนึงถึงว่าจะเป็นคนกลางที่มีส่วนได้เสีย

นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.มหาดไทย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รมว.มหาดไทย
ข้อเท็จจริง คือ ข้อพิพาทดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการรถไฟแห่งประเทศไทยและกรมที่ดิน แม้อำนาจในการเพิกถอนโฉนดเขากระโดงถือเป็นสิทธิของอธิบดีกรมที่ดิน แต่ที่ดินส่วนใหญ่มีเอกสารสิทธิและมีผู้ครอบครองโฉนดหมดแล้ว ล่าสุดข้อมูลจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ระบุว่า มี 12 หน่วยงานรัฐเข้าไปครอบครองที่ดินดังกล่าวจำนวนกว่า 1,000 ไร่
โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าอยู่ในที่ดินเขตราชพัสดุหรือไม่ ประกอบด้วย 1.อบต.เสม็ด 2. กรมทางหลวง 3.ธนารักษ์พื้นที่บุรีรัมย์(ที่ทำการ อบจ.บุรีรัมย์-อบจ.บุรีรัมย์,โรงเรียนบ้านเสม็ดโคกตาล, เรือนจำจังหวัดบุรีรัมย์-ราชทัณฑ์ จ.บุรีรัมย์,คลองชลประทาน-ชลประทานจ.บุรีรัมย์)4.เทศบาลตำบลอีสาณ 5.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.บุรีรัมย์ (วัดไทยเจริญ)

นายเดชอิศม์ ทองขาว รมช.มหาดไทย
นายเดชอิศม์ ทองขาว รมช.มหาดไทย
6. อำเภอเมืองบุรีรัมย์(ที่สาธารณประโยชน์) 7.สถานีตำรวจทางหลวง2 8.สำนักงานขนส่งจังหวัดบุรีรัมย์ 9.สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จ.บุรีรัมย์ 10.การประปาส่วนภูมิภาค จ.บุรีรัมย์ 11.องค์การโทรศัพท์ (NT) 12.เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ นอกจากนี้พบว่าธนาคารกรุงไทย จำกัดมหาชน มีการถือครองที่ดินเขากระโดงจำนวน 62 ไร่ 3 งานอีกด้วย
ตามประวัติที่ดินเขากระโดง เป็นพื้นที่รัฐ เมื่อปีพ.ศ. 2462 โดยรัฐได้ทำการเวนคืนที่ดินจากราษฎร 18 รายในพื้นที่จำนวน 5,083 ไร่ เพื่อสร้างทางรถไฟสายนครราชสีมา - บุรีรัมย์ - อุบลราชธานี เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นจุดที่มีหินซึ่งจะต้องทำทางรถไฟเพื่อที่จะได้เข้าไปเอาหินออกมา
ต่อในภายหลังพบว่า มีชาวบ้านเข้ามาบุกรุกครอบครองที่ดินเขากระโดงกว่า 850 ครัวเรือน บางรายได้เข้ามาเช่าที่ของการรถไฟซึ่งการรถไฟก็ได้ให้เช่าที่ ขณะที่บางรายก็เข้ามายึดถือครอบครองจำนวนนี้มี “ตระกูลชิดชอบ” และบริษัทในเครือที่ถือครองที่ดิน 12 แปลงรวมเนื้อที่กว่า 170 ไร่มีเอกสารสิทธิหรือโฉนดชัดเจน
ข้อมูลระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวได้มีการปลูกสร้างบ้านพักของตระกูลชิดชอบและเป็นสนามฟุตบอลช้างอารีนา สนามแข่งรถ และโรงแรม แต่ในภายหลังทางการรถไฟฯได้เข้ามาตรวจสอบและพบว่าเป็นการตั้งอยู่ในที่ของการรถไฟจริงจึงมีการฟ้องขับไล่รื้อถอน
ในปี 2541 คณะกรรมการกฤษฎีกาเคยให้ความเห็นว่า โฉนด 3466 (ในชื่อ บ.ศิลาชัย บุรีรัมย์ 1991) และโฉนด 8564 เป็นที่ดินของการรถไฟ
ปี 2544 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เคยทำหนังสือแจ้งผู้ว่าการรถไฟขณะนั้นให้เพิกถอนโฉนดและขับไล่ที่ดิน 2 แปลงนี้
ปี 2561 ศาลฎีกามีคำพิพากษาที่ 842-876/ 2560 และ 8027/2561 ของชาวบ้าน 35 ราย ข้างบ้านนายเนวิน ชิดชอบและบ้านนายวิรัตน์กับพวก 4 ราย ระบุเป็นที่ดินของการรถไฟ และให้รฟท.ทำการขับไล่รื้อถอน

นายเนวิน ชิดชอบ
นายเนวิน ชิดชอบ
ขณะที่ รายงานข่าวจากดีเอสไอ ระบุว่า จากคดีการฟ้องร้องที่เกิดขึ้น เบื้องต้นพบว่า การรถไฟชนะทั้งหมด จึงเป็นสาเหตุสำคัญให้การรถไฟต้องการเอาที่ดินทั้งหมดที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ เอาคืนกลับมา โดยก่อนหน้านี้ได้มีการขับไล่รื้อถอนอาคารที่พักของชาวบ้านที่มาบุกรุกในพื้นที่ของการรถไฟไปบ้างแล้ว โดยการบุกรุกโดยไม่มีเอกสารสิทธิ
“ส่วนผู้ที่แพ้คดีการรถไฟไปแล้วตามคำสั่งศาล มีจำนวน 41 ราย ก็ต้องมีการใช้อำนาจบังคับคดีปิดหมายไปตามกฎหมาย และเสียค่าเสียหายให้แก่การรถไฟด้วย ...ปัจจุบัน พบคนบางกลุ่มยังมีเอกสารสิทธิ และตราบใดที่มีเอกสารสิทธิ ก็ยังสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้ตามกฎหมาย เนื่องจากยังไม่ได้เพิกถอนโฉนด” แหล่งข่าวระบุ
อย่างไรก็ตาม หลังอธิบดีกรมที่ดินคนเก่าชิงขอย้ายตัวเอง พ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2568 ที่ผ่านมาครม.มีมติแต่งตั้ง “ขจรเกียรติ รักพานิชมณี” ผู้ว่าราชการจ.ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดินคนใหม่แล้วก็ตาม แต่ยังต้องรอให้มีการโปรดเกล้าฯก่อนจึงจะเข้ามาทำหน้าที่ได้
ดังนั้นขั้นตอนต่อไปจะต้องดูว่าอธิบดีกรมที่ดินฯจะสามารถลงนามคำสั่งเพิกถอนที่ดินเขากระโดงได้เมื่อไหร่จึงจะมีผลตามกฎหมาย หรือต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาก่อนจะมีคำสั่งเพิกถอนหรือไม่เพื่อป้องกันปัญหาที่จะตามมา
แหล่งข่าวจากกระทรวงมหาดไทยระบุว่า หากทีมที่ปรึกษาหรือคณะทำงานของอธิบดีกรมที่ดินมีความเห็นตรงกันว่าอธิบดีฯควรลงนามเพิกถอนที่ดินก็จะต้องประกาศให้รับทราบและยืนยันว่าจะต้องมีการเพิกถอนที่ดินทั้งหมดที่เขากระโดง ขณะที่ผู้ครอบครองโฉนดที่ดินก็มีสิทธิที่จะยื่นหนังสืออุทธรณ์ไปที่อธิบดีกรมที่ดินเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของ
ทั้งนี้ ในกรณีที่อธิบดีกรมที่ดินมีคำสั่งเพื่อยืนยันกลับไปว่าจะต้องมีการเพิกถอน ทางผู้ครอบครองที่ดินก็สามารถยื่นเรื่องต่อศาลปกครองภายในกำหนดระยะ 90 วัน ได้เช่นกันซึ่งการฟ้องร้องต่อศาลปกครองจะต้องแนบคำร้อง และการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อศาลปกครองด้วย และคาดว่ากว่าได้ข้อสรุปว่าจะมีการเพิกถอนที่ดินให้กลับมาเป็นของการรถไฟได้หรือไม่นั้นอาจะต้องใช้เวลาอีกยาวนานกว่าจะได้ข้อสรุป
ที่ผ่านมาการฟ้องร้องที่ดินเขากระโดงระหว่างการรถไฟฯชาวบ้านและนิติ บุคคล ยืดเยื้อยาวนานถึง 55 ปี แม้คดีดังกล่าว ศาลฎีกาจะเคยมีคำตัดสินเฉพาะที่ดินที่ถูกเพิกถอนกลับไปเป็นที่ของการรถไฟ จากผู้ร้องจำนวน 35 ราย แต่มีการตีความว่าคำพิพากษาดังกล่าวไม่สามารถนำไปใช้ครอบคลุมอีก 900 กว่ารายที่เหลือ
อีกทั้งพบข้อมูลว่าในช่วงที่มีการฟ้องร้องทางการรถไฟเองก็ไม่มีแผนที่มายืนยัน ดังนั้นผู้เสียหายจึงหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาต่อสู้ได้ในชั้นศาลด้วย
จึงต้องจับตาดูว่าศึกที่ดินเขากระโดงที่เป็นสงครามตัวแทนระหว่างเพื่อไทยและภูมิใจไทยจะจบลงในปีนี้หรือไม่หรือจะยื้อต่ออีกยาว
อ่านข่าว
ไร้ทางรอด-หมดตัวเลือก "อวสาน" เพื่อไทย "แพทองธาร-ชัยเกษม"