วันนี้ ( 13 ส.ค.2568) นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงสถานการณ์ การส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทย เดือนมิ.ย. 2568 ขยายตัวต่อเนื่อง 6.1% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า โดยปริมาณการส่งออกมันเส้นและมันอัดเม็ดเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด
โดยช่วง 6 เดือนแรกพบว่าไทยส่งออกมันเส้นและมันอัดเม็ดแล้ว 2.7 ล้านตัน ปริมาณการส่งออกขยายตัว92.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ส่วนผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ปริมาณ 5 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 38.9% จากปีก่อนหน้าที่มีปริมาณส่งออก 3.6 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1,634.7 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 54,648 ล้านบาท
โดยมีตลาดสำคัญคือจีน รองลงมาเป็น ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา
ส่วนของมันเส้นและมันอัดเม็ด มีมูลค่าการส่งออก 503.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ16,763 ล้านบา ขยายตัว 49.8% ขณะที่แป้งมันดิบ มีมูลค่าการส่งออก 665.5 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 22,296 ล้านบาท) ลดลง25.2% และแป้งมันดัดแปร มีมูลค่าการส่งออก 655.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ21,958 ล้านบาท) ลดลง 25.1%
จีนยังคงครองตำแหน่งตลาดส่งออกหลักของผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย โดยการส่งออกไปจีนคิดเป็นสัดส่วนกว่า 58% ของมูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ จากความต้องการมันเส้นในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และเอทานอลของจีนที่เพิ่มขึ้น
ผอ.สนค. กล่าวอีกว่า จีนเป็นตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังที่สำคัญของไทย แต่ในระยะยาวจีนมีแนวโน้มที่จะลดการนำเข้ามันสำปะหลัง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจ และพยายามผลักดันการเปิดตลาดใหม่ ๆ เพิ่มเติม เช่น การเจรจากับกลุ่มประเทศตะวันออกกลางอย่างซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีศักยภาพในการนำมันสำปะหลังเพื่อไปใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์
โดยที่ผ่านมากรมการค้าต่างประเทศได้ส่งคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปพบผู้ประกอบการโรงงานอาหารสัตว์ที่กรุงริยาดและเมืองเจดดาห์ในช่วงเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และเอกชนไทยสามารถปิดดีลการส่งออกมันอัดเม็ดไปซาอุดีอาระเบีย ล็อตทดลองได้ 20,000 ตัน เพื่อใช้ในโรงงานผลิตอาหารสัตว์ของซาอุฯ
นอกจากนี้ มีความพยายามขยายตลาดไปยังเม็กซิโก ชิลี และฟิลิปปินส์ โดยได้มีการหารือกับผู้ส่งออกเพื่อกำหนดเป็นตลาดเป้าหมายใหม่ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทย เช่น การใช้งานด้านพลังงานทดแทนและพลาสติกชีวภาพที่กำลังเป็นที่สนใจในหลายประเทศ
อ่านข่าว:
มติ กนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายเหลือ 1.5% มีผลทันที
เศรษฐกิจชะลอตัว เอกชนหวัง กนง. ลดดอกเบี้ย หนุนผู้ประกอบการ
ตลาด coffee โตสวนเศรษฐกิจ "คอกาแฟ" ดื่มทะลุปีละ 180 แก้ว