ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เดินหน้าสู้คดีคลิปเสียง 29 ส.ค. หรือชิง “ลาออก” ก่อนวันพิพากษา

การเมือง
14:59
99
เดินหน้าสู้คดีคลิปเสียง 29 ส.ค. หรือชิง “ลาออก” ก่อนวันพิพากษา
คำร้องของ 36 สว. ที่ยื่นถอดถอน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากตำแหน่งนายกฯ ปมคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน ไม่ต่างจาก สว.ชุดก่อน ที่ยื่นถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน จากตำแหน่งนายกฯ

เนื่องจากเป็นยื่นถอดถอนด้วยข้อหล่าวหา ขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี ตามมาตรา 160 (4) และ (5) คือไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง

แต่ที่ต่างกัน คือคำร้องนายเศรษฐา ปรากฎว่าเสียงข้างมากของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่าไม่ต้องยุติการทำหน้าที่นายกฯ แต่กรณี น.ส.แพทองธาร เสียงข้างมากให้ยุติการทำหน้าที่นายกฯไว้ก่อน และสุดท้าย ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5-4 ให้นายเศรษฐาพ้นจากตำแหน่งนายกฯ

แล้วสำหรับ น.ส.แพทองธาร จะออกหน้าไหน และมติจะออกมาเท่าไหร่ คือประเด็นคำถามที่จะได้คำตอบชัดเจน ในวันศุกร์ที่ 29 ส.ค.2568

กูรูส่วนหนึ่งจะอ้างการเปรียบเทียบ 2 กรณี คือคดีซุกหุ้น ภาคแรก ของนายทักษิณ ชินวัตร เมื่อครั้งเป็นนายกฯ สมัยแรก ปี 2544 ก่อนที่ 3 ส.ค.2544 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเฉียดฉิว 8 ต่อ 7 เสียง ให้นายทักษิณพ้นผิดคดีซุกหุ้น ภาค 1 พร้อมกับวลีสุดฮ็อตในตำนาน “บกพร่องโดยสุจริต” คือไม่ได้จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ ท่ามกลางศาลรัฐธรรมนูญที่ถูกทัวร์ลงอย่างหนัก

จะด้วยเหตุปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย หรือปัจจัยอื่นใดก็ตาม ถือคดีประวัติศาสตร์ที่กูรูทางการเมืองบางคน หยิบมาเทียบกับเคียง น.ส.แพทองธาร โดยอ้างถึงเสียงของศาลรัฐธรรมนูญในคำร้องคดีนี้ จากเดิม 9:0 เสียง ที่รับคำร้องไว้วินิจฉัย และ 7:2 ให้ น.ส.แพทองธาร ยุติการทำหน้าที่นายกฯ และสุดท้าย คือ 5:4 ที่ให้ขยายเวลาส่งคำชี้แจงครั้งที่ 2 ที่ขยายให้ถึงวันที่ 4 ส.ค.2568

ส่วนหนึ่งพยายามชี้ว่า เสียงข้างมากของศาลรัฐธรรมนูญ ได้เปลี่ยนมาสนับสนุน น.ส.แพทองธารแล้ว แต่อีกส่วนหนึ่ง ที่แย้งว่า หากจะวัดกันตรงนั้น ดูจะเป็นการจับแพะชนแกะมากไป เพราะเป็นความเห็นเรื่องขยายเวลาส่งเอกสารชี้แจง ไม่ใช่เรื่องความเห็นต่อคำร้องในคดี

สอดคล้องกับความเห็นของแกนนำในพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่นายภูมิธรรม เวชยชัย นายชูศักดิ์ ศิรินิล นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และอีกหลายคน ที่เชื่อว่า น.ส.แพทองธาร สามารถชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ เพราะคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน มีเจตนาดี ต้องการแก้ปัญหาและลดความตึงเครียดระหว่าง 2 ประเทศ

ทั้งยังประสานเสียง ปฏิเสธข่าว น.ส.แพทองธาร จะชิงลาออกจากนายกฯ ก่อนวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัย แค่รอให้ร่าง พ.ร.บ.งบปี 2569 ผ่านรัฐสภาออกมาบังคับใช้ก่อน เพราะจะทำให้คำร้องถอดถอนตกไป เหมือนกรณีนายพิชิต ชื่นบาน ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักฯ จนเป็นเหตุให้นายเศรษฐาถูกยื่นถอดจากตำแหน่ง

เพราะเมื่อนายพิชิตลาออกจากรัฐมนตรี ศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีมติ 8:1 ยกคำร้องกรณีนายพิชิต

นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งเชื่อว่า จะเป็นทางเดียวที่จะสลัดบ่วงที่กำลังรัดคอน.ส.แพทองธาร ไม่ให้ต้องมลทินในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ถึงขั้นถูกสั่งถอดถอนจากเก้าอี้นายกฯ ตาม ม.160 หากผลวินิจฉัยออกมาเป็นลบ

จะทำให้ น.ส.แพทองธาร ยังไปต่อบนเส้นทางทางการเมืองได้ ทั้งยังจะเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เพราะหากถูกวินิจฉัยว่ากระทำการตามคำร้อง เชื่อว่าจะมีการขยายผลต่อไปถึงคดีอาญา เพราะคำร้องเดียวกันนี้ มีส่งไปยัง ป.ป.ช.ด้วย

คำร้องถอดถอน น.ส.แพทองธาร จึงจะส่งผลสะเทือนต่อรัฐบาลพรรคเพื่อไทย รวมทั้งการเป็นทายาททางการเมืองของนายทักษิณ ในช่วงเวลาที่นายทักษิณ กำลังต้องลุ้นคำตัดสินของศาล ทั้งคดี มาตรา 112 วันที่ 22 ส.ค.2568 ก่อนถึงวันชี้ชะตาลูกสาวเพียงสัปดาห์เดียว และคดีรักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ วันที่ 9 ก.ย.2568

จึงเป็นช่วงเวลาที่ 2 พ่อลูกตระกูลชินวัตร ที่ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุด ว่าจะเดินหน้าต่อถึงที่สุด ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่ออนาคตทายาทบนเส้นทางการเมือง หรือจะเลือกชิงลาออกเพื่อลดความเสี่ยง อีกไม่กี่วัน น่าจะได้คำตอบ

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : วิบากกรรมกฎหมายของ “แพทองธาร” กับปลายทางที่ตีบตัน

"แพทองธาร" บนทางสองแพร่ง ชิงลาออก หรือ สู้รอวันพิพากษา 29 ส.ค.

"สม รังสี" ใช้เหตุปะทะชายแดนเขย่าเก้าอี้ "ฮุน เซน"