ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

กต.เปิด 6 ข้อชี้แจงคณะทูต ยันหลักฐานชัด "กัมพูชา" ใช้ทุ่นระเบิดใหม่

การเมือง
15:55
105
กต.เปิด 6 ข้อชี้แจงคณะทูต ยันหลักฐานชัด "กัมพูชา" ใช้ทุ่นระเบิดใหม่
อ่านให้ฟัง
09:01อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
กต.เปิด 6 ข้อบรรยายชี้แจงคณะทูต องค์การระหว่างประเทศ ยืนยันหลักฐานชัด "กัมพูชา" ใช้ทุ่นระเบิดใหม่ PMN-2 ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ร้องทบทวนให้ความช่วยเหลือเหตุไม่จริงใจเก็บกู้ หวังคุยปมทุ่นระเบิดในวงประชุม RBC และ GBC

วันนี้ (15 ส.ค.2568) นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) แถลงข่าวการบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศกรอบอนุสัญญาออตตาวา เกี่ยวกับเหตุการณ์การใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลโดยกัมพูชา

นายนิกรเดช กล่าวว่า การบรรยายสรุปในวันนี้ เพื่อให้ข้อเท็จจริงกรณีที่กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้ทหารไทยหลายคนได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพถาวร และสร้างความเสี่ยงต่อชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดน

นอกจากนี้ ได้ชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริง และเหตุผลเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยในเรื่องนี้ ซึ่ง กต.ได้เชิญคณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียน และภาคีอนุสัญญาออตตาวา รวมทั้งผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ และองค์กรภาคประชาสังคมด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟังการบรรยาย ได้แก่ เอกอัคราชทูต หรือผู้แทนจาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การระหว่างประเทศ รวม 67 คน ซึ่งมีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.กต กล่าวเปิดการบรรยายผ่านทางวิดีโอคอล เนื่องจากติดภารกิจที่จีน จากนั้นเป็นการบรรยายสรุปโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

รมว.กต.กล่าวย้ำว่า การบรรยายเพื่อชี้แจงให้ประชาคมโลกทราบข้อเท็จจริง ซึ่งกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา และไม่ใจจริงในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด แม้ฝ่ายไทยได้เสนอให้เก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกันในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมย้ำถึงความมุ่งมั่นของไทยในการปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา และข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด

นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ได้สรุปผลลัพธ์สำคัญของการประชุม GBC เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยชี้ให้เห็นถึงผลกระทบของทุ่นระเบิด ซึ่งฝ่ายไทยเสนอให้ฝ่ายกัมพูชาเก็บกู้ทุ่นระเบิด และปราบปรามการหลอกลวงออนไลน์ร่วมกัน แต่กัมพูชาไม่ได้ตอบสนองข้อเสนอทั้ง 2 ข้อดังกล่าว

นอกจากนี้ นายรัศม์ได้ย้ำความโปร่งใสของไทยที่ได้จัดให้คณะทูตลงพื้นที่สังเกตการณ์ผลกระทบจากการโจมตีอย่างไม่เลือกเป้าของฝ่ายกัมพูชาเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค.2568) จะจัดให้มีการลงพื้นที่สังเกตการณ์การใช้ทุ่นระเบิดโดยฝ่ายกัมพูชา

ขณะที่ พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมด้วยผู้แทนหน่วยงานปฏิบัติงานทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม ได้ให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดที่วางโดยฝ่ายกัมพูชา เริ่มตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 16 ก.ค.2568 ในพื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี จนถึงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ส.ค.2568 พร้อมให้ข้อมูลภารกิจการตรวจสอบและเก็บกู้ทุ่นระเบิดของไทย และบทบาทของหน่วยงานในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ด้านนายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ได้ให้ข้อมูลความพยายามของไทยในช่วงที่ผ่านมา เพื่อผลักดันให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันในเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิดร่วมกัน แต่เหตุการณ์ทหารเหยียบทุ่นระเบิด สะท้อนว่ากัมพูชาไม่ให้ความสำคัญในการกวาดล้างทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม โดยไทยได้ประท้วงกัมพูชาในช่องทางการทูตต่าง ๆ และผลักดันเรื่องนี้ในการประชุม RBC และ GBC ที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้

ขณะที่ น.ส.พินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ให้ข้อมูลการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ และอนุสัญญาออตตาวาโดยฝ่ายกัมพูชา จากการลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล นอกจากนี้ยังได้ชี้แจงการนำเสนอข้อเท็จจริง และการประท้วงของไทยในเวทีพหุภาคีต่าง ๆ

เปิด 6 ข้อสรุปการบรรยาย

1.ประเทศไทยยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศ และพร้อมปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด รวมถึงพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาออตตาวา ในการกำจัดทุ่นระเบิดให้หมดไป จนถึงปัจจุบันไทยได้เก็บกู้พื้นที่ปนเปื้อนทุ่นระเบิดไปแล้วกว่า 99.5% ครอบคลุมพื้นที่ 2,500 ตารางกิโลเมตร และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้สามารถดำรงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี

2.ช่วงเวลาไม่ถึง 1 เดือน ทหารฝ่ายไทยได้เหยียบทุ่นระเบิดที่วางโดยกัมพูชา ถึง 5 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้ทุพพลภาพถาวร 5 คน และบาดเจ็บหลักสิบคน โดยฝ่ายไทยมีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าเป็นทุ่นระเบิดประเภท PMN-2 ที่ถูกนำมาวางใหม่ ไม่ใช่ระเบิดจากสงครามในอดีตตามที่กัมพูชากล่าวอ้าง อีกทั้งไทยไม่มีทุ่นระเบิดในครอบครองแล้ว

3.ไทยได้ประท้วงกัมพูชาตามช่องทางต่าง ๆ ทั้งกรอบอนุสัญญาออตตาวา หนังสือประท้วงไปยังเลขาธิการสหประชาชาติ และประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยไทยประณามอย่างรุนแรงที่สุดในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจากฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดอธิปไตย ละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดน ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งหลักการพื้นฐานของกฎบัตรสหประชาชาติ และละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ขัดต่อพันธกรณีอนุสัญญาออตตาวา และละเมิดข้อตกลงหยุดยิง

4.กัมพูชาปฏิเสธที่จะหารือเก็บกู้ทุ่นระเบิด และปราบปรามการหลอกลวงออนไลน์ สะท้อนให้ความไม่สุจริตใจและไม่จริงใจของกัมพูชา ซึ่งไทยเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดการกระทำที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา และข้อตกลงหยุดยิงโดยทันที พร้อมแสดงความจริงใจที่จะฟื้นฟูสันติภาพบริเวณชายแดน และร่วมมือกับไทยในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด

5.ไทยหวังว่าประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิด จะได้รับการพิจารณาในการประชุม RBC และ GBC

6.ในวันพรุ่งนี้ กต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดให้คณะทูตจากประเทศสมาชิกอาเซียน รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคม สื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ ลงพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อสังเกตการณ์ความเสียหายที่เกิดจากการใช้ทุ่นระเบิดของกัมพูชา เพื่อนำหลักฐานกลับไปพิจารณาและทบทวนการให้ความช่วยเหลือแก่ฝ่ายกัมพูชาในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างรอบคอบ รวมทั้งกดดันให้กัมพูชาแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้

ไทยยืนยันใช้กลไกทวิภาคีและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงด้วยความจริงใจ โดยคาดหวังว่ากัมพูชาแสดงความจริงใจเช่นเดียวกัน และเรียกร้องให้ยุติการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร

นายนิกรเดช กล่าวว่า การร้องเรียนเรื่องการใช้ทุ่นระเบิดนั้น ในการประชุมออตตาวาอย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นช่วงเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งไทยได้พูดถึงความเร่งด่วนของปัญหา แต่อยู่ที่ประธานฯ จะเรียกร้องให้กัมพูชาดำเนินการอย่างไร เช่น ให้กัมพูชาชี้แจงข้อเท็จจริง โดยหวังว่าจะเกิดขึ้นเร็วว่าวันประชุมทางการ

อ่านข่าว : "ภูมิธรรม" รอวงเจรจา RBC ถกปมเปิดด่าน-ล้อมรั้วชายแดน  

จับตาเจรจาสันติภาพ "ทรัมป์" ชี้คุย "ปูติน" มีโอกาสล้มเหลว 25% 

"สม รังสี" ใช้เหตุปะทะชายแดนเขย่าเก้าอี้ "ฮุน เซน"