วันนี้ (22 ส.ค.2568) นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) มีประกาศฉบับที่ 18/2568 เรื่องเฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา ระบุว่า ได้ติดตามการคาดการร์สภาพอากาศพบว่า จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ และได้ประเมิน วิเคราะห์สภาพอากาศ สถานการณ์น้ำ พบว่า มีพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำ เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง จึงขอแจ้งพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ระหว่างวันที่ 24 – 28 ส.ค.2568 แยกเป็น
พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินโคลนถล่ม
ภาคเหนือ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่
จ.แม่ฮ่องสอน (อ.เมืองแม่ฮ่องสอน อ.ปาย อ.ขุนยวม อ.แม่สะเรียง และ อ.สบเมย , จ.เชียงใหม่ (อ.ฝาง อ.แม่อาย และ อ.อมก๋อย) , จ.เชียงราย (อ.เมืองเชียงราย อ.แม่สาย อ.เชียงของ อ.เชียงแสน อ.เวียงชัย อ.เวียงเชียงรุ้ง อ.พญาเม็งราย อ.เทิง อ.แม่จัน และ อ.ดอยหลวง , จ.ลำพูน (อ.เมืองลำพูน อ.แม่ทา และ อ.บ้านธิ) , จ.ลำปาง (อ.เมืองลำปาง อ.แม่ทะ อ.ห้างฉัตร และ อ.เมืองปาน) , จ.พะเยา (อ.เมืองพะเยา อ.ปง และ อ.เชียงคำ) , จ.น่าน (อ.ทุ่งช้าง อ.แม่จริม และ อ.เวียงสา) , จ.อุตรดิตถ์ (อ.ท่าปลา และ อ.น้ำปาด) , จ.ตาก (อ.ท่าสองยาง อ.แม่ระมาด อ.แม่สอด และ อ.อุ้มผาง) , จ.พิษณุโลก (อ.เมืองพิษณุโลก อ.ชาติตระการ อ.นครไทย อ.บางระกำ อ.เนินมะปราง และ อ.วังทอง) , จ.เพชรบูรณ์ (อ.เมืองเพชรบูรณ์ อ.วังโป่ง และ อ.ศรีเทพ)
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่
จ.เลย (อ.เมืองเลย อ.เชียงคาน อ.นาแห้ง และ อ.วังสะพุง) จ.หนองคาย (อ.เมืองหนองคาย อ.ท่าบ่อ และ อ.สระใคร) จ.บึงกาฬ (อ.เมืองบึงกาฬ) จ.อุดรธานี (อ.เมืองอุดรธานี อ.บ้านดุง อ.กุดจับ อ.น้ำโสม อ.บ้านผือ และ อ.เพ็ญ) จ.สกลนคร (อ.วานรนิวาส และ อ.อากาศอำนวย) จ.ชัยภูมิ (อ.คอนสาร อ.จัตุรัส และ อ.หนองบัวแดง) จ.ยโสธร (อ.ไทยเจริญ และ อ.เลิงนกทา) จ.อำนาจเจริญ (อ.เมืองอำนาจเจริญ อ.เสนางคนิคม และ อ.ชานุมาน) จ.นครราชสีมา (อ.คง อ.ครบุรี อ.ชุมพวง อ.ด่านขุนทด อ.โนนสูง อ.บัวใหญ่ อ.ปากช่อง อ.พิมาย อ.วังน้ำเขียว อ.สีคิ้ว และ อ.สูงเนิน) และ จ.อุบลราชธานี (อ.เมืองอุบลราชธานี อ.เขมราฐ อ.นาตาล อ.เดชอุดม อ.นาจะหลวย อ.นาเยีย อ.น้ำยืน อ.บุณฑริก อ.พิบูลมังสาหาร อ.วารินชาบ และ อ.สำโรง)
ภาคกลาง จำนวน 7 จังหวัด ได้แก่
จ.นครนายก (อ.เมืองนครนายก และ อ.ปากพลี) จ.ปราจีนบุรี (อ.เมืองปราจีนบุรี อ.กบินทร์บุรี อ.นาดี อ.ประจันตคาม และอ.ศรีมหาโพธิ์) จ.สระแก้ว (อ.เมืองสระแก้ว อ.โคกสูง อ.ตาพระยา และ อ.วัฒนานคร) จ.ชลบุรี (อ.บางละมุง และ อ.ศรีราชา) จ.ระยอง (อ.เมืองระยอง อ.บ้านค่าย อ.ปลวกแดง และ อ.นิคมพัฒนา) จ.จันทบุรี (อ.เมืองจันทบุรี อ.แก่งหางแมว อ.เขาคิชฌกูฏ อ.ท่าใหม่ อ.โป่งน้ำร้อน อ.มะขาม อ.สอยดาว อ.แหลมสิงห์ และ อ.ขลุง) และ จ.ตราด (ทุกอำเภอ)
ภาคใต้ จำนวน 5 จังหวัด ได้แก่
จ.ชุมพร (อ.เมืองชุมพร อ.พะโต๊ะ และ อ.หลังสวน) จ.สุราษฎร์ธานี (อ.บ้านตาขุน) จ.ระนอง (ทุกอำเภอ) จ.พังงา (อ.เมืองพังงา อ.คุระบุรี และ อ.กะปง) และ จ.ภูเก็ต (ทุกอำเภอ)
พื้นที่เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ของความจุเก็บกัก บริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ ตาก บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี นครพนม มุกดาหาร นครราชสีมา ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สุราษฎร์ธานี และ กระบี่
พื้นที่เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันและระดับน้ำล้นตลิ่งและท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำยม บริเวณ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก แม่น้ำแควน้อย บริเวณ อ.นครไทย และ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก
พื้นที่เฝ้าระวังกิจกรรมการใช้น้ำและการสัญจรทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณ จังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และจังหวัดสมุทรปราการ
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัยได้ โดยได้กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ใน 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมบ่อยครั้ง เพื่อลดผลกระทบจากเหตุอุทกภัยให้ได้มากที่สุด
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัยให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่ ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ขอให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกประกาศหรือติดตั้งสัญญาณแจ้งเตือนบริเวณชายฝั่งทะเลห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำโดยเด็ดขาด และให้แจ้งชาวเรือ ผู้บังคับเรือ และผู้ประกอบการเดินเรือโดยสารเพิ่มความระมัดระวัง ในการเดินเรือหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง ให้พิจารณาห้ามเดินเรือเด็ดขาด พร้อมกันนี้ให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัย และพร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีหากเกิดสถานการณ์ขึ้น ตลอด 24 ชั่วโมง และขอให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด
อ่านข่าว :
สภาพอากาศวันนี้ เตือน 5 จังหวัด ฝนตกหนักถึงหนักมาก
แผ่นดินไหว 5.4 นอกชายฝั่งเมียนมา ตึกสูงใน กทม.รับรู้แรงสั่นไหว