น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ร่วมประชุม ครม.เมื่อวานนี้ (26 ส.ค.) ผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ ด้วยสีหน้าแจ่มใส ไม่มีอาการเครียด หรือแสดงความกังวลใด หนำซ้ำ ยังแสดงความมั่นใจถึงขั้นบอกว่า วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคมนี้ คงได้กลับมาทำงานที่ทำเนียบ ในฐานะนายกรัฐมนตรี
ทำให้บรรยากาศการประชุมครม.ดูคึกครื้นชื่นมื่นกว่าหลายครั้งที่ผ่านมา และช่วงท้าย ก่อนปิดการประชุม นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกฯ เป็นตัวแทน ครม.กล่าวอวยพรและให้กำลังใจนายกฯ ขอให้วันศุกร์นี้ได้รับข่าวดี โดยมีรัฐมนตรีที่ร่วมประชุม ปรบมือให้กำลังใจพร้อมกัน
ถือเป็นไฮไลท์ของการประชุม ครม.นัดสุดท้าย ของเดือนสิงหาคม 2568 จนหลายคนไม่รู้ว่า วาระและมติการประชุม ครม.วันนั้น มีอะไรบ้าง เพราะใจจดจ่ออยู่กับเรื่องนายกฯ แต่ถือเป็นการสะท้อนถึงความมั่นใจต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ
แต่ปัจจัยที่ถูกพูดถึงกันมากในวงกว้าง คือศักยภาพการประสานเจรจากับส่วนต่าง ๆ ของผู้มีอำนาจตัวจริงในพรรคและรัฐบาล ที่ว่ากันว่า ต้องใช้ทุกช่องทาง เพื่อให้ผลออกมาตามที่คาดหวัง สามารถไปต่อบนเก้าอี้ นายกฯ ถึงขั้นเหน็บว่า ครั้งนี้ทุ่มเททุกสรรพกำลัง ยิ่งกว่าเมื่อครั้งนายเศรษฐา ทวีสิน ถูกยื่นสอยจากนายกฯ
เพราะจะมีผลต่อบริบทและทิศทางการเมืองไทย ในกรณีที่ น.ส.แพทองธาร รอดพ้นข้อร้องเรียน
ความมั่นใจดังกล่าว ยังสะท้อนผ่านการเตรียมเลือกสถานที่สำหรับ น.ส.แพทองธาร ติดตามการถ่ายทอดคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ว่าจะเลือกที่ไหนดี เพราะหากเป็นไปตามคาดหวัง เท่ากับเป็นสถานที่ประกาศชัยชนะ และความเป็นไทของ น.ส.แพทองธาร
ทั้งนี้ เชื่อว่า จะมีนักการเมือง สส. รัฐมนตรี แกนนำพรรค รวมทั้งมวลชนหลั่งไหลไปร่วมยินดีอย่างเนืองแน่น จึงจะปล่อยให้พลาดไม่ได้ เพราะเป็นสัญลักษณ์แสดงให้ชาวโลกเห็นว่า ยังมีคนให้การสนับสนุนรัฐบาลและนายกฯ
ล่าสุดคาดการณ์ไว้ 2 แห่ง ที่ทำการพรรคเพื่อไทย และที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งกรณีหลัง สามารถรองรับมวลชนได้เต็มที่ และยังเป็นการฉลองการกลับคืนสู่ทำเนียบรัฐบาล ในฐานะนายกฯ ของประเทศ
ความจริง ภาพความเป็นเอกภาพของพรรคร่วมรัฐบาล ที่เคยถูกตั้งข้อสังเกตก่อนหน้านี้ ว่ากำลังเป็นปัญหา พรรคร่วมต้องสงวนท่าที ป้องกัน “ปืนลั่น” โดยใช่เหตุ จนแทบจะสมบูรณ์ เรียกเสียงเชียร์เพิ่มได้อยู่แล้ว หากไม่เกิดการถก และตัดชื่อ รศ.ธนพร ศรียากูล ออกจากรายชื่อนักศึกษา วปอ. หรือ “วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร” รุ่น ปี 69
ข่าวว่า น.ส.แพทองธาร เป็นคนสอบถามเรื่องนี้ต่อที่ประชุม ครม. ปมรายชื่อนักศึกษา วปอ.บางคน และได้รับคำชี้แจงจากรัฐมนตรีใน ครม. ว่า มีผู้ร้องว่า รศ.ธนพร ไม่มีความเหมาะสมที่จะเข้าเรียนหลักสูตรดังกล่าว เพราะเคยให้คำแนะนำเรื่องแก้ปัญหาประมง แต่ไม่สามารถแก้ไขได้ และกลายเป็นปัญหาต่อเนื่องถึงปัจจุบัน
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์ว่า เป็นการจับแพะชนแกะหรือไม่ เพราะเป็นคนละเรื่องเดียวกัน หรือเพียงแค่จะหาข้ออ้าง เพราะที่ผ่านมา เคยมีคนที่มีตำแหน่งทางงการเมือง ให้คำแนะนำหรือชี้แนะการแก้ไขปัญหาสาระพัดเรื่อง แต่แก้ไม่ได้ ก็มีให้เห็นมากมาย
จึงถูกมองว่าเป็นการเอาคืน รศ.ธนพร ที่ชอบวิจารณ์ทั้งรัฐบาล “นายใหญ่-นายน้อย” ตามสไตล์ตัวตึง และล่าสุด ถูกนายภูมิธรรม แจ้งเอาผิดข้อหาหมิ่นประมาท กรณี ไล่นายภูมิธรรม ไปตัดขา จะได้เข้าใจความรู้สึกทหารที่ต้องสูญเสียขาจากการเหยียบทุ่นระเบิดที่ชายแดน
ทั้งที่เพื่อหวังเป็นกระตุกเตือนให้ควรระมัดระวัง เรื่องการให้สัมภาษณ์ ในฐานะผู้รักษาราชการแทนนายกฯ
การเรื่องตัดชื่อ รศ.ธนพร ด้านหนึ่งจึงปฏิเสธไม่ได้ว่า อาจถูกมองว่าเป็นเสมือนคนใจแคบ ไม่เปิดกว้างรับฟังเสียงวิจารณ์จากผู้ที่มีความเห็นแตกต่าง และอาจทำให้รัฐบาลเสียมากกว่าได้ ในช่วงเวลาที่มีสาระพันปัญหารุมเร้า และยุ่งยากมากพออยู่แล้ว
หากทำอะไรบุ่มบ่ามตามอำเภอใจแล้ว ผลวันที่ 29 สิงหาคม ออกมาไม่เป็นไปตามที่ฝ่ายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยคาดหวัง จะกลายเป็นว่า ครม.หรรษาชื่นมื่นเมื่อวันอังคาร จะถูกขยี้เอาคืนว่า แท้จริงแล้ว เป็นเพียง ครม.ทิ้งทวนนัดสุดท้ายเท่านั้น
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : "ภูมิธรรม" เชื่อปม "บ้านหนองจาน" ไม่บานปลายสู่การปะทะรอบใหม่