วันนี้ (28 ส.ค.2568) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการเพิกถอนที่ดินเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ว่าขณะนี้อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง ยังไม่ได้ลงนามเพิกถอน แต่คาดว่าภายในสิ้นเดือนกันยายน ทุกอย่างจะชัดเจน หลังจากประชุมและตรวจสอบปัญหาทั้งหมดแล้ว โดยยึดหลักการทำตามกฎหมายอย่างรอบคอบ ไม่รีบร้อน คาดว่าจะมีข่าวดีช่วงสิ้นเดือน
เมื่อถามถึงความชัดเจนของพื้นที่สนามฟุตบอลและสนามแข่งรถว่าจะต้องรื้อถอนหรือไม่ นายภูมิธรรมระบุว่า ต้องยึดตามคำพิพากษาของศาล โดยได้ประชุมกับทุกฝ่ายแล้ว และกำหนดแนวทางให้มีการทักท้วงได้ตามขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งหากมีการคัดค้านให้ไปดำเนินการที่ศาล
เมื่อถูกถามย้ำว่า จะเพิกถอนโฉนดก่อนแล้วค่อยให้ทักท้วง หรือเปลี่ยนเป็นการเช่าที่ดินได้หรือไม่ นายภูมิธรรมชี้แจงว่า เป็นคนละขั้นตอน ไม่สามารถตัดสินใจทันทีได้ หากที่ดินเป็นของหลวง เจ้าของที่ดินตัวจริงคือผู้มีอำนาจตัดสินใจ ผู้ที่ต้องการเยียวยาหรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขต้องยื่นเรื่องตามกฎหมาย ใครที่มีหลักฐานการได้ที่ดินมาก่อน พ.ร.ฎ.กำหนดเขตสร้างทางรถไฟหลวง หรือก่อนพระราชทานจากพระเจ้าอยู่หัว สามารถใช้สิทธิ์ได้
แต่หากได้มาหลังจากนั้น ถือว่าผิดกฎหมายทั้งหมด ส่วนการดำเนินการต่อไปขึ้นอยู่กับขั้นตอนของความผิดนั้น ๆ โดยย้ำว่าที่ดินนี้เป็นของหลวงตั้งแต่สมัย ร.5 และมี พ.ร.ฎ. ใน ร.6 ระบุชัดเจน
นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า สิ่งที่ศาลสั่งคือให้กรมที่ดินและการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ปรับมาตราสส่วนแผนที่ให้ตรงกัน ซึ่งขณะนี้เกือบเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้จะมีการรังวัดใหม่และแจ้งให้ผู้ครอบครองที่ดินทราบว่าโฉนดที่ได้มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย หากทุกอย่างชัดเจน กรมที่ดินจะยกเลิกโฉนดเดิม และให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบไปเรียกร้องตามขั้นตอน
เมื่อถามถึงช่องทางการร้องเรียนหลังการเพิกถอน นายภูมิธรรมระบุว่า มีหลายช่องทาง รวมถึง ม.61 ของประมวลกฎหมายที่ดิน และยังมีคณะกรรมการ รวมถึงการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยตนมีหน้าที่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามคำพิพากษาศาล ส่วนขั้นตอนต่อไปเป็นความรับผิดชอบของกรมที่ดิน รฟท. และผู้ที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวอื่น :
TMAC ซัดกัมพูชาไม่จริงใจ วางทุ่นระเบิดโจมตีทหารไทย รอบ 3 หลังหยุดยิง