วันนี้ ( 28 ส.ค.2568) นายธนภัทร ธนชาต ผู้ช่วยนักวิจัย ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) เปิดเผยว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.50% ภายในปี 2568 เพื่อรองรับกับความเสี่ยงด้านต่ำของตลาดแรงงาน โดยคาดว่าจะทยอยลดในเดือนก.ย.และเดือนธ.ค. และอาจปรับลดลงอีก 0.25-0.50% ในปี 2569 หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย และไม่มีการเลิกจ้างงานอย่างรุนแรง

นายธนภัทร ธนชาต ผู้ช่วยนักวิจัย ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU)
นายธนภัทร ธนชาต ผู้ช่วยนักวิจัย ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU)
หลังจากที่เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.25–4.50% มาตั้งแต่ต้นปี 2568 เพื่อควบคุมเงินเฟ้อ แต่สัญญาณจากตลาดแรงงานเริ่มสะท้อนถึงความเปราะบาง โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญ
ประกอบกับท่าทีของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ในการประชุม Jackson Hole Economic Policy Symposium ล่าสุด ที่เริ่มโน้มเอียงไปทางผ่อนคลาย (Dovish) ส่งผลให้มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 16-17 ก.ย. นี้

ด้านตลาดการเงินตอบรับด้วยการคาดการณ์ว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับประมาณ 3.0% ภายในไตรมาส 3 ปี 2569 ซึ่งเทียบเท่ากับการลดดอกเบี้ยรวมกว่า 1.25–1.50% จากระดับปัจจุบัน
ขณะที่ ศูนย์วิเคราะห์ทิสโก้ มองว่าเฟดอาจลดดอกเบี้ยนโยบายได้น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ เนื่องจาก โครงสร้างตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงไป เงินเฟ้อที่ยังมีแนวโน้มสูงกว่าระดับเป้าหมาย และ ตลาดตีความท่าทีการสื่อสารของนายพาเวลล์ว่ามีความผ่อนคลายมากเกินไป
สำหรับการจ้างงานในสหรัฐฯ แม้จะชะลอลง แต่อัตราการว่างงานยังทรงตัวในระดับต่ำ เป็นผลจากอุปทานแรงงานที่ชะลอตัวลงพร้อม ๆ กับอุปสงค์แรงงาน หลังประธานาธิบดีทรัมป์ดำเนินมาตรการกีดกันผู้อพยพอย่างเข้มงวด ทำให้จำนวนการเข้ามาของผู้อพยพแบบผิดกฎหมายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งผลให้ระดับการจ้างงานที่ไม่ทำให้อัตราการว่างงานปรับตัวเพิ่มขึ้น (Breakeven Employment) ลดลงอย่างรวดเร็ว

ขณะที่ตัวชี้วัดตลาดแรงงานอื่น ๆ เช่น อัตราการลาออกแบบสมัครใจ อัตราการเลิกจ้าง สัดส่วนงานว่างเปิดใหม่เมื่อเทียบกับจำนวนผู้ว่างงาน และค่าจ้างแรงงานยังสะท้อนถึงภาวะตลาดแรงงานที่อยู่ในระดับค่อนข้างสมดุล
ขณะที่ราคาสินค้าบางหมวดเริ่มเผชิญกับผลของการส่งผ่านต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการตั้งกำแพงภาษีศุลกากร ทั้งนี้ แม้ในภาพรวมยังไม่น่ากังวลเท่าที่เฟดเคยประเมินไว้ เพราะการส่งผ่านต้นทุนจากผู้ผลผลิตไปสู่ผู้บริโภคยังเกิดขึ้นน้อยและช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า แต่มีแนวโน้มว่าผู้ประกอบการจะยังทยอยส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคในช่วงที่เหลือของปี หลังต้นทุนการนำเข้าปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังเผชิญกับความเสี่ยงด้านสูงในระยะข้างหน้า
“ แม้นายพาวเวลล์จะเริ่มมีท่าทีผ่อนคลายมากขึ้น ในการประชุม Jackson Hole ล่าสุด แต่การสื่อสารยังผสมไปด้วยความระมัดระวัง โดยระบุว่า เงินเฟ้อเผชิญความเสี่ยงด้านสูง ขณะที่ตลาดแรงงานเผชิญความเสี่ยงด้านต่ำ ดังนั้นการลดดอกเบี้ยแบบต่อเนื่องยังไม่น่าจะเกิดขึ้น เว้นแต่ตลาดแรงงานจะชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง”
อ่านข่าว:
ต่างชาติลงทุนไทย 7 เดือน ขนเงินเข้าปท. 1.59แสนล้าน ญี่ปุ่นลงทุนมากสุด
“ไทย”รับมือวิกฤตโลกเปลี่ยน “จตุพร” จี้ยกระดับ e-Government
พณ.ดัน FTAไทย-ยูเค หวังกระจายความเสี่ยงลดพึ่งพิงตลาดเดิม