วันนี้ (28 ส.ค.2568) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน และรองหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณี การติดตาม การอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ปมคลิปเสียงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.วัฒนธรรม สนทนากับฮุน เซน ในวันพรุ่งนี้ ว่า
ยอมรับตรงไปตรงมา ผลคำวินิจฉัยจะส่งผลทางการเมืองอยู่มาก ในฐานะที่เป็นนักการเมืองฝ่ายค้าน จะติดตามอย่างใกล้ชิด และได้มีการพูดคุยกับ สส.ของพรรค ว่า เรื่องนี้ติดตามและเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถเพิกเฉยได้ เพราะอาจจะส่งผลทางการเมืองมากอย่างแน่นอน
ส่วนพรรคฝ่ายค้านจะมีการวางแผนเตรียมการเปิดอภิปรายรัฐบาล หลังมีคำวินิจฉัยหรือไม่นั้น นายรังสิมันต์กล่าวว่า สำหรับประเด็นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องแยกออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่หนึ่งในกรณีที่สถานการณ์ทุกอย่างกลับสู่ภาวะปกติ การตรวจสอบของฝ่ายค้าน ก็ต้องเดินหน้าต่อไป
ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ถึงแนวทางในการสอบและการใช้มาตรการที่สำคัญ เช่น การอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 แต่มีเหตุแทรกแซงกรณีของศาลรัฐธรรมนูญเข้ามา พรรคฝ่ายค้านจึงต้องพิจารณาใคร่ครวญ เพราะใช้ได้เพียงปีละครั้งจึงต้องพิจารณาในจุดนี้
หากเข้าสู่ภาวะปกติและมีคำตัดสินของศาล ให้นายกรัฐมนตรีรอด พรรคประชาชนก็จะพูดคุยกับภูมิใจไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่น ๆ อย่างเป็นกิจจะลักษณะว่า จะมีการดำเนินการเมื่อไหร่
หากเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝัน ก็คงต้องรอดูว่า สุดท้ายแล้วจะเกิดอะไรขึ้น แต่พรรคประชาชนเคยเสนอไปก่อนหน้านี้ว่า ไม่อยากให้ประเทศไทยถึงทางตัน และไม่ควรมีใครพาไปถึงจุดนั้น พรรคประชาชน ขอย้ำเหมือนเดิมว่า มีข้อตกลงและมีการเสนอรูปแบบไปแล้วว่า ไม่ได้มีจุดประสงค์ในการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาลอย่างแน่นอน พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และไม่เกิดทางตัน
สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศคือ การคืนอำนาจให้กับประชาชน และไม่ว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ต้องยอมรับว่า จะมีข้อครหาจากประชาชน ดังนั้นการเลือกตั้งใหม่ คือทางออกที่ดีที่สุด แต่ทางพรรคประชาชนก็ไม่สามารถที่จะไปกำหนดทุกอย่างได้
อ่านข่าว : "โรม" ชี้สร้างกำแพงกั้นเขมร ต้องตอบโจทย์ทั้งหนีเข้าเมือง-สิ่งผิดกฎหมาย
นักวิชาการชี้จับเด็กกัมพูชา 13 ปี ผิดอนุสัญญาสิทธิเด็ก-กม.สากล
จตุพร ย้ำ ข้าราชการไม่เกียร์ว่าง หวังพรุ่งนี้ "นายกฯ"จะผ่านไปได้