วันนี้ (28 ส.ค.2568) จากกรณีตำรวจเข้าจับกุมเด็กชายวัย 13 ปี ชาวกัมพูชา และมารดา ในข้อหาเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
ล่าสุดในช่วงเช้าวันเดียวกัน พ.ต.อ.สราวุธ ศรีวิฑูลย์ศักดิ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบัวเชด ได้เชิญครูผู้โพสต์และคณะครูของโรงเรียน รวมถึงนายใบ เภาว์เพ็ง อายุ 67 ปี พ่อเลี้ยงของเด็ก มาพูดคุยเพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ โดยระบุว่า การจับกุมเกิดจากมีผู้ร้องเรียนว่ามีบุคคลต่างด้าวในพื้นที่ หลังตรวจสอบพบว่าแม่และลูกไม่มีเอกสารที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงต้องดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง
นางสูพล หงปัญญา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ต.โนนสังข์ อ.บัวเชด กล่าวว่า นายใบ เภาว์เพ็ง ชาวบ้านในพื้นที่อยู่กินกับนางมอม ชาวกัมพูชา อายุประมาณ 40 ปี โดยนางมอมนำลูกชายติดตัวมาด้วยตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เด็กได้เข้าเรียนจนจบชั้นประถมและปัจจุบันเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้ใหญ่บ้านเผยว่าเคยสอบถามนางมอมเรื่องเอกสาร แต่ได้รับคำตอบว่ามีพาสปอร์ตและต่ออายุตลอด แต่เมื่อถูกจับกุม นางมอมระบุว่าพาสปอร์ตขาดอายุมา 4-5 ปีแล้ว และไม่มีเอกสารตัวจริงให้ตรวจสอบ
พ.ต.อ.สราวุธ ระบุเพิ่มเติมว่า หลังพบว่าแม่และลูกไม่มีเอกสารที่ถูกต้อง ตำรวจได้นำตัวทั้งสองจากโรงเรียนมาที่สถานีตำรวจภูธรบัวเชด พร้อมอธิบายถึงสถานการณ์ชายแดนที่ต้องเข้มงวด และแนะนำให้ทั้งคู่กลับไปจัดการเอกสารให้ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น เข้าเมืองผ่านช่องทางที่เหมาะสม เพื่อให้เด็กสามารถกลับมาเรียนต่อได้ในอนาคต โดยครูและทั้งสองแม่ลูกเข้าใจสถานการณ์แล้ว
ขณะนี้ทั้งคู่ถูกส่งตัวไปยังสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสุรินทร์ อ.กาบเชิง และจะถูกนำตัวไปยังจุดผ่านแดนอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อผลักดันกลับกัมพูชาภายในวันที่ 29 ส.ค.2568
ทั้งนี้ ตำรวจยืนยันว่าได้แจ้งขั้นตอนและแนวทางแก้ไขให้แม่และลูกทราบ โดยระบุว่าทาง จ.สุรินทร์ มีการตรวจสอบและกวาดล้างบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ชายแดนที่ไม่ปกติ แม้จะเห็นใจเด็ก แต่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมแนะนำให้จัดการเอกสารให้ถูกต้องเพื่อให้เด็กได้กลับมาเรียนต่อในอนาคต
อ่านข่าวอื่น :
นักวิชาการชี้จับเด็กกัมพูชา 13 ปี ผิดอนุสัญญาสิทธิเด็ก-กม.สากล
นร.ชายวัย 13 ใช้ชีวิตในไทยตั้งแต่ทารก ถูกจับ-อาจถูกส่งกลับกัมพูชา