พรรคประชาชนร่นเวลาแถลงเร็วขึ้นเป็น 08.45 น. ว่า มีมติหนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค เป็นนายกฯในการประชุมสภาผู้แทนฯโหวตเสียง
เวลาไล่เลี่ยกัน นายชูศักดิ์ ศิรินิล มือกฎหมายคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ย้ำว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย ในฐานะรักษาการนายกฯ มีอำนาจในการถวายพระราชกฤษฎีกา ทูลเกล้าฯ ยุบสภา และรับสนองพระบรมราชโองการ หลังจากทูลเกล้าฯ จะเป็นพระราชอำนาจ
ก่อนตามด้วยข่าวนายภูมิธรรม ได้ยื่นถวายพระราชกฤษฎีกายุบสภา ขึ้นทูลเกล้าฯแล้ว ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. โดยให้เหตุผลว่า ประชาธิปไตยกำลังบิดเบี้ยว เพราะพรรคประชาชนตกลงประกาศจะโหวตให้พรรคภูมิใจไทย แต่ไม่ร่วมรัฐบาล เท่ากับยังเป็น 3 กลุ่มเหมือนเดิม จึงไม่ใช่ทางออกของประเทศ
ความจริงประเด็นการยุบสภา แกนนำพรรคเพื่อไทย อย่างนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค ได้พลั้งหลุดปากตั้งแต่วันก่อน (2 ก.ย.) ว่า ได้เริ่มต้นกระบวนการยุบสภาแล้ว ก่อนจะมาปฏิเสธผ่านการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กช่วงกลางคืนว่า การยุบสภาเป็นพระราชอำนาจ ขอให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ เป็นผู้ดำเนินการ ย้ำว่า ยังไม่มีการทูลเกล้าฯ ใด ๆ ทั้งสิ้น
สะท้อนว่า พรรคเพื่อไทยก็จับตาดูความเคลื่อนไหวของพรรคประชาชน ที่จะพิจารณาว่า จะเลือกสนับสนุนพรรคเพื่อไทยหรือพรรคภูมิใจไทย ในการประชุมหารือ สส. วันที่ 2 ก.ย. ก่อนจะยืดเวลาการตัดสินของพรรค เป็นวันที่ 3 ก.ย.
เพราะหากพรรคค่ายสีส้ม เคาะเลือกตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. แกนนำพรรคเพื่อไทย อาจออกมาแจ้งเรื่องยื่นถวายพระราชกฤษฎีกายุบสภา ในช่วงเวลานั้นแล้ว
ทั้งนี้เพื่อป้องกันข้อครหา เนื่องจากพรรคเพื่อไทยได้เข้าสู่กระบวนการเจรจากับพรรคประชาชน ไม่ต่างจากพรรคภูมิใจไทย ที่เดินทางไปเจรจารับเงื่อนไข 3 ข้อ ตั้งแต่วันแรกที่พรรคประชาชน แถลง หาไม่แล้ว อาจถูกโจมตีได้ว่า เป็นเพราะไม่ได้ถูกเลือก จึงยื่นถวายพระราชกฤษฎีกายุบสภา เท่ากับไม่ยอมรับการตัดสินใจของค่ายสีส้มอยู่ในที
นั่นหมายถึง ต่างฝ่ายต่างเลือกเดินบนเส้นทางของตนเอง พรรคภูมิไจไทย เลือกเดินตามขั้นตอนในรัฐธรรมนูญ รอวันเปิดประชุมสภาผู้แทนฯ ที่ประธานสภาฯ จะกำหนดเพื่อโหวตเสียงสส.ทั้งสภาผู้แทนฯ เลือกนายกฯคนใหม่ แม้จะเปิดตัวเลขสนับสนุนจากพรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองต่าง ๆ รวมกันแล้ว 146 เสียง
แต่จะได้อีก 143 เสียงจากพรรคประชาชน ก่อนที่จะถอยไปทำหน้าที่ฝ่ายค้าน คอยกำกับให้รัฐบาลเสียงข้างน้อย ภายใต้การนำของนายอนุทิน ที่จะต้องฟอร์มรัฐบาลบริหารประเทศ ทำตามกติกา 5 ข้อที่ร่วมกันลงนาม หนึ่งในนั้น คือเป็นรัฐบาลเพียง 4 เดือน ต้องยุบสภาเตรียมการเลือกตั้งใหม่
ขณะที่พรรคเพื่อไทย เมื่อทูลเกล้าฯ แล้ว ก็ต้องรอลุ้นว่า จะสำเร็จหรือไม่ เพราะเป็นพระราชอำนาจ มีขั้นตอนต้องผ่านตามกระบวนการ อาทิ สำนักราชเลขาฯ องคมนตรี ที่จะพิจารณาว่า สามารถยื่นถวายได้หรือไม่ อย่างไร
หากทูลเกล้าฯ ขึ้นไปแล้ว ไม่มีพระราชทานลงมา เท่ากับในหลวงไม่เห็นด้วย หรือรักษาการนายกฯไม่มีอำนาจยุบสภา หรือในกรณี มีคนไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยว่า รักษาการนายกฯ มีอำนาจยุสภาฯหรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่มีคนแสดงความคิดเห็นหลากหลายในช่วงที่ผ่านมา ก็ต้องรอคำวินิจฉัยจากศาล
การชิงไหวพริบและคูเหลี่ยมทางการเมือง ที่ทำให้ฝุ่นตลบมาหลายวัน ถึงตอนนี้ น่าจะสงบลงแล้ว และอาจสงบถาวร หากได้ข้อสรุปชัดเจนว่า แนวทางฝ่ายใดถูกต้อง
ประชาชนจะได้ไม่ต้องมาห่วงพะวงว่า นักการเมืองที่อาสามาเป็นตัวแทนประชาชนตามกติกาประชาธิปไตยนั้น จะเลิกทะเลาะ เลิกหวังเอาชนะคะคานกัน ตอนกี่โมง
วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส
อ่านข่าว : ศบ.ทก.เห็นชอบแผนสร้างรั้ว 16 กม. "บ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว"
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "การยุบสภา" คืนอำนาจให้ประชาชน
"อนุทิน" ยึด 5 เงื่อนไข ปชน. เดินหน้าตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย