ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จบไม่ลง วิป 2 ฝ่ายเคาะวันโหวตนายกฯ คนใหม่ไม่ได้ โยน “วันนอร์” ตัดสินใจ

การเมือง
17:06
196
จบไม่ลง วิป 2 ฝ่ายเคาะวันโหวตนายกฯ คนใหม่ไม่ได้ โยน “วันนอร์” ตัดสินใจ
อ่านให้ฟัง
10:18อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
จบไม่ลง วิป 2 ฝ่ายเคาะวันโหวตนายกฯ คนใหม่ไม่ได้ โยนให้ “วันนอร์” ตัดสินใจเอง เหตุมีเรื่องยื่นยุบสภา “ฉลาด” ปัดเล่นเกมถ่วงเวลา อ้างเดินตามกระบวนการ ขณะ “ภราดร” อัด “รองประธานสภาฯ คนที่ 2” ไม่เป็นกลาง หวัง “ประธานสภา” บรรจุวาระเร่งด่วนทัน 5 ก.ย.นี้

วันนี้ (3 ก.ย.2568) ที่รัฐสภา ในการประชุมวิป 2 ฝ่าย เพื่อหารือกำหนดวันโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่มีนายฉลาด ขามช่วง รองประธานสภาคนที่ 2 รับผิดชอบเรื่องนี้ โดยทำหน้าที่ประธานในการประชุม ซึ่งการประชุมดังกล่าวถูกเลื่อนจากเมื่อช่วงเช้า เนื่องจากยังหาข้อสรุปไม่ได้ และมาประชุมในเวลา 15.00 น. โดยมี สส.จากทั้งวิปรัฐบาลและฝ่ายค้าน เข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง แต่บรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง

ภายหลังการประชุม นายฉลาด ให้สัมภาษณ์ว่า หากมีมติก่อนเวลา 16.30 น.ในวันนี้ จะสามารถเสนอให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุระเบียบวาระโหวตนายกรัฐมนตรีได้ภายในวันที่ 5 ก.ย.นี้ แต่เนื่องจากฝ่ายรัฐบาลเดิม ชี้แจงว่า ขณะนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้ยื่นเสนอพระราชกฤษฎีกาทูลเกล้าฯ เพื่อยุบสภา และอยู่ในกระบวนการ แต่เพื่อไม่ให้เป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจ ตนจึงขอที่ประชุมว่า อำนาจในการบรรจุระเบียบวาระเป็นของประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยในวันนี้นายวันมูหะมัดนอร์ จะลงจากการทำหน้าที่บนบัลลังก์ในเวลา 16.30 น. โดยตนได้หารือกับประธานสภาฯ ให้ลงจากการทำหน้าที่บนบัลลังก์ก่อน เพื่อจะได้เดินทางมาหารือกับวิป 2 ฝ่าย แบบนอกรอบ

นายฉลาด กล่าวว่า วันนี้ได้ยืนยันกับที่ประชุมว่า ประเทศไทยจะต้องมีนายกรัฐมนตรีบนพื้นฐานของความสง่างาม ไม่ให้เกิดข้อครหาภายหลัง และบุคคลที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีควรรอได้ เพราะใช้เวลาไม่กี่วัน ยืนยันไม่ใช่การถ่วงเวลา แต่เป็นกระบวนการตามกฎหมาย เพราะมีเรื่องที่สำคัญ คือ เรื่องของพระราชอำนาจ

เมื่อถามว่าแต่ละฝ่ายถกเถียงกันอย่างไรบ้าง นายฉลาด กล่าวว่า ฝ่ายที่อ้างว่าเป็นเสียงข้างมากก็อยากให้มีการประชุม และมีมติภายในวันนี้ เพื่อเสนอให้ประธานสภาฯ บรรจุระเบียบวาระ ทั้งนี้หากไม่ดำเนินการภายในวันนี้ ก็สามารถที่จะประชุมได้ แต่ต้องต้องแจ้งสมาชิกล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน

รองประธานสภาฯ คนที่ 2 กล่าวว่า หลายคนเสนอมาว่าให้เป็นสัปดาห์ถัดไป ซึ่งทำได้ทุกวัน แต่ต้องแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้า 1 วัน หรือหากขยันจะเป็นการประชุมในวันเสาร์ วันอาทิตย์ ก็ได้

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าขณะนี้มีการส่งเรื่องที่ได้รอศาลรัฐธรรมนูญตีความ กับเรื่องการยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา น้ำหนักเรื่องใดมากกว่ากัน นายฉลาด กล่าวว่า เรื่องทูลเกล้าฯ ส่วนเรื่องศาลรัฐธรรมนูญ จะมีผลมากน้อยเพียงใดนั้น ก็อยู่ที่คำวินิจฉัย ซึ่งออกมาอย่างไรก็น้อมรับ เพราะเคารพความเห็นขององค์กรอิสระ และเคารพความเห็นของทุกฝ่าย แต่เพื่อให้เกิดความกระจ่าง ตนขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ต้องรอการประกาศยุบสภาฯ อย่างเป็นทางการ

ส่วนที่ทางพรรคภูมิใจไทย ยื่นต่อนายวันมูหะมัดนอร์ เพื่อขอให้บรรจุระเบียบวาระโหวตเลือกนายกฯ นั้น เป็นดุลยพินิจของประธานฯ ว่าจะดำเนินอย่างไร อย่างรอบด้าน รอบคอบ

ด้านนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ แจ้งความ บก.ปปป เอาผิดนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในความผิดตามมาตรา 112 กรณีไม่มีอำนาจในการกราบบังคมทูลยุบสภา ว่า รักษาการแทนนายกรัฐมนตรี ถือว่าทำหน้าที่เต็มในการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งก่อนหน้าหน้านั้น ทำหน้าที่รักษาการขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ

แต่ในขณะนี้อำนาจเต็มอยู่กับนายภูมิธรรม ถือว่าสามารถถวายฎีกาได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แม้จะมีนักวิชาการหลายคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งก็รับฟังในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงนายภูมิธรรมก็ได้รับฟัง จึงได้ข้อสรุปและเชื่อมั่นว่า ทำได้ถูกต้อง และมีการถวายฎีกาได้ จึงไม่ได้กังวลที่มีผู้จะไปแจ้งความ

เรามีทีมนักกฎหมายเตรียมการไว้อยู่แล้ว มั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดอะไร

ต่อมา นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ ว่า ตนขอตำหนิการทำหน้าที่นายฉลาด ซึ่งได้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งเคยปฏิญาณตนไว้ว่าจะทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง แต่ในที่ประชุมวิป กลับไม่ได้ทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง และเข้าข้างพรรคการเมืองที่สังกัดอยู่

นายภราดร กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมฝ่ายตนเห็นว่า ในช่วงเช้าพรรคประชาชนได้แถลงการณ์อย่างชัดเจนว่าพรรคมีมติอย่างไร และในช่วงสายนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ได้เซ็น MOA กับพรรคประชาชนเรียบร้อย ตนในฐานะ สส. จึงได้ยื่นหนังสือให้กับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ตามกติกามารยาท ว่าได้รวบรวมเสียงเพียงพอแล้ว สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีในวันที่ 5 ก.ย.นี้ได้

แต่ในที่ประชุมวิปทางพรรคเพื่อไทย หยิบยก 2 เหตุผล คือ เรื่องวันประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และภายหลังราชกิจจานุเบกษาประกาศลงวันที่ 30 ส.ค.2568 ฉะนั้นข้อสงสัยว่าจะเกิดปัญหากับคำวินิจฉัยหรือไม่ จึงไม่สมควรที่จะเป็นข้อสงสัยอีกต่อไป แต่ทางพรรคเพื่อไทยได้รวบรวม 20 รายชื่อ สส. ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ และอ้างว่ายังอยู่ในกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นเหตุให้ยังไม่สามารถเลือกนายกฯ ในวันที่ 5 ก.ย.นี้ได้

นายภราดร กล่าวว่า ส่วนอีกหนึ่งเหตุผล เรื่องการยุบสภา ซึ่งตนเห็นว่าการประกาศยุบสภาต่อสาธารณะ เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ไม่สมควร และไม่บังควรเป็นอย่างยิ่ง ที่ผ่านมาไม่เคยมีการประกาศยุบสภาต่อหน้าสาธารณชน เพราะอำนาจยุบสภาเป็นอำนาจขององค์พระมหากษัตริย์ ตน และ น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย ได้ทักท้วงในที่ประชุมว่าหนังสือที่เชิญมาประชุม คือ ให้พิจารณาการบรรจุวาระเลือกนายกฯ ในวันที่ 5 ก.ย.นี้หรือไม่ แต่ในที่ประชุมไม่มีการพูดถึง มีเพียง 2 เรื่องที่นำมากล่าวอ้าง

ขณะที่พวกตนได้แสดงเหตุผลว่าในฝ่ายนิติบัญญัติไม่มีหน้าที่ต้องรอคำวินิจฉัยของฝ่ายตุลาการ หรือฝ่ายบริหารจะมีความคิดเห็นว่าจะยุบสภาก็เป็นอำนาจของฝ่ายบริหาร ส่วนฝ่ายนิติบัญญัติก็ดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ เมื่อนายกฯ พ้นจากตำแหน่ง ทางสภาฯ จำเป็นต้องเลือกนายกฯ โดยด่วน และเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วก็ควรดำเนินการตามข้อบังคับ

“ผมก็เข้าตามตรอกออกตามประตู วันนี้ยื่นหนังสือ 24 ชม. หรือ 1 วันตามข้อบังคับ ประธานสภาฯ สามารถบรรจุระเบียบวาระเร่งด่วนเพื่อให้สภาฯได้มีการประชุมหารือกันได้ แต่ในที่ประชุมวิป ไม่มีข้อสรุป และได้นำข้อเสนอของทั้ง 2 ฝ่าย คือ พรรคภูมิใจไทยได้เสนอว่าให้เลือกนายกฯ วันที่ 5 ก.ย. และทางพรรคเพื่อไทยเสนอให้เลื่อนไปก่อน โดยไปแจ้งต่อประธานสภาฯ ซึ่งอำนาจในการบรรจุระเบียบวาระเป็นอำนาจของประธานสภาฯ โดยแท้ ก็อยู่ที่ประธานสภาฯ ว่าจะให้ความสำคัญกับองค์กรนิติบัญญัติหรือไม่ และจะเดินหน้าทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติหรือไม่”

เมื่อถามว่าประธานสภาฯ จะบรรจุทันภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ นายภราดร กล่าวว่า ทันครับ ตามข้อบังคับ ประธานสภาฯ สามารถบรรจุเป็นวาระเร่งด่วนได้ และหวังว่าประธานจะปฏิบัติหน้าที่ในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ อย่างตรงไปตรงมา และเราในฝ่ายนิติบัญญัติต้องแยกอำนาจให้ชัด ซึ่งมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ คือ การเลือกนายกฯ คนใหม่โดยเร็ว

ตนเชื่อมั่นว่าประธานรัฐสภาเป็นผู้ใหญ่ และในช่วงที่ไปยื่นหนังสือ ท่านบอกจะทำตามรัฐธรรมนูญและทำตามข้อบังคับ ซึ่งมั่นใจว่าประธานจะทำหน้าที่เพื่อความเป็นกลางและบรรจุระเบียบวาระในวันศุกร์ที่ 5 ก.ย.นี้

อ่านข่าว : "ภูมิใจไทย" ร้องเอาผิด "ภูมิธรรม" ม.157 ปมยื่นทูลเกล้าฯ "ยุบสภา" 

"ภูมิธรรม" เผย ทูลเกล้าฯ ยุบสภาแล้ว คืนอำนาจประชาชน 

ภูมิใจไทยยื่น "วันนอร์" ขอบรรจุวาระโหวตนายกฯ คนใหม่