แม้จะเป็นการชิงไหว-ชิงพริบทางการเมือง แต่จะกระบวนการตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ เพื่อเลือกตั้งทั่วไป หรือการเดินหน้า รวบรวมเสียงโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่างเกิดขึ้นภายใต้กลไกรัฐสภา และบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ปี 2560
และเมื่อวันที่ 3 ก.ย. เวลา 21.00 น.ประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรจุวาระ เรียกประชุมสภาฯ เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ในวันศุกร์ที่ 5 ก.ย.นี้ จากนี้ไป ขึ้นอยู่กับเสียงที่พรรคภูมิใจไทย รวบรวมได้จะโหวตออกมา "มากกว่ากึ่งหนึ่ง" ตามหลักเกณฑ์ของรัฐธรรมนูญหรือไม่
อ่านข่าว : พรรคประชาชนแถลงโหวต "อนุทิน" เป็นนายกฯ คนที่ 32

ภูมิธรรม เวชยชัย
ภูมิธรรม เวชยชัย
ก่อนจะถึงฉากเริ่มต้นของนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ไปดูฉากสุดท้ายของเมื่อวานนี้ (3 ก.ย.) เมื่อรักษาการนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ปิดวาจา ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธ กับการตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ เพื่อเลือกตั้งใหม่ ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย มั่นใจว่าจะได้เปิดสภาฯ โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32
แต่ยังไม่จบ ยังต้องลุ้นกันอีกและยังต้องย้ำกันว่าทั้งกระบวนการ "ยุบสภาฯ" และกระบวนการเดินหน้า "เลือกนายกฯ คนที่ 32" เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
ปี 2560 ทั้ง 2 ทาง และต่างก็ต้องรอผลตามรัฐธรรมนูญรับรองกระบวนการ ตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ เพื่อเลือกตั้งทั่วไป เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 103
เช่นเดียวกับการเลือกนายกรัฐมนตรี ก็เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 โดยประธานสภาฯ เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ แต่งตั้ง

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน
ถึงเวลานี้ลุ้นเปิดประชุมสภาตามที่ประธานสภาฯ "วันมูหะมัดนอร์ มะทา" บรรจุวาระ และเรียกประชุมสภาฯ เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 5 ก.ย.นี้ และทั้งมิติของการเปิดโหวตหรือเสียงที่จะต้องโหวต พรรคภูมิใจไทยเตรียมแผนรองรับไว้เหตุฉุกเฉินไว้ด้วย นั่นคือการเสนอเป็นญัตติด้วยวาจาและเสียง สส.ที่จะสนับสนุนเพิ่ม
ท่ามกลางข้อถกเถียง "ยุบสภาฯ" สภาผู้แทนราษฎร ก็อยู่ประชุมกันต่อเนื่อง และปิดประชุมไปเมื่อเวลา 18.00 น. ค้างโหวตร่างกฎหมายการรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารพิษสู่สิ่งแวดล้อมไว้
และวันศุกร์ที่ 5 ก.ย.ก็นัดประชุมต่อ และนี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนรองรับเหตุฉุกเฉิน พริกเกมโดย สส.พรรคภูมิใจไทย เตรียมเสนอเป็นญัตติด้วยวาจา เรื่องโหวตเลือกนายกฯ คนใหม่

ส่วนเสียงโหวตพรรคภูมิใจไทย ก็เตรียมแผนไว้แม้เปิดหน้ามาแล้ว 289 เสียง โดยเป็น สส.ที่รวบรวมได้แล้ว 146 เสียง ขณะที่พรรคประชาชน ก็ลงมติสนับสนุนอีก 143 เสียง และมั่นใจว่าเปิดโหวตก็จะได้เสียงตามนี้ก็ตาม
ภูมิใจไทย 68 คน , กล้าธรรม (พร้อม สส.พรรคเล็กที่หอบหิ้วมาด้วย) 31 คน , พลังประชารัฐ 17 คน (มาไม่หมดพรรค หายไป 3 คน) , รวมไทยสร้างชาติ 16 คน (เท่าเดิม คือกลุ่มของนายสุชาติ ชมกลิ่น) , ไทยสร้างไทย 3 คน , ประชาธิปัตย์ 3 คน และเพื่อไทย สรุป 8 คน
โดยมีรายงานว่า แผน 2 ของ ภูมิใจไทย รองรับเสียงที่จะเปลี่ยนใจไว้ ด้วย สส.พรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มเพื่อนต่อ (นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อีกด้วย) แม้จะเชื่อว่า ไม่มีใครคิดเปลี่ยนใจก็ตาม
ทั้งนี้ก็มีรายงานว่า "ภูมิใจไทย" ยกร่างโรดแมปเตรียมไว้แล้ว เป็นรัฐบาลเฉพาะกิจ 4 เดือน เป็นรัฐบาลรักษาการอีก 3-4 เดือน กางไทม์ไลน์แล้ว ถ้าได้เลือกนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรี ก็น่าจะมี ครม.ใหม่ ภายในสัปดาห์หน้า และกลางเดือนน่าจะได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา
และนับแต่วันแถลงนโยบาย คือ วันนับหนึ่งอายุรัฐบาล 4 เดือน ไปถึง 16 ม.ค.2569 เพื่อยุบสภาฯ ตามข้อตกลง ซึ่งก็จะเลือกตั้งกลางเดือน มี.ค.ปีหน้า กว่าจะรับรองผล-เปิดประชุมรัฐสภา น่าจะเดือน เม.ย.และจะมีรัฐบาล-นายกฯ และ ครม.ใหม่ มิ.ย.-พ.ค.น่าจะได้
อ่านข่าว :
เพื่อไทยลั่นโหวต "ชัยเกษม" นั่งนายกฯ ยุบสภาทันทีหลังแถลงนโยบาย
"เท้ง" ขอ "ภูมิธรรม" ชัดเจนปมทูลเกล้าฯ ยุบสภา จี้ "ศุภชัย-สุรทิน" ถอนแจ้งความ