วันนี้ (5 ก.ย.2568) สถานการณ์ราคาข้าวในประเทศไทยกำลังอยู่ในภาวะวิกฤต โดยราคาข้าวเปลือกสดที่มีความชื้นร้อยละ 30-50 ลดลงเหลือเพียงตันละ 3,500-3,600 บาท ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 20 ปี สร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรทั่วประเทศ สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยระบุว่า สาเหตุหลักมาจากการที่อินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาวและเตรียมระบายสต็อกข้าวกว่า 20 ล้านตันในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาข้าวไทยและปากีสถานให้ลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับผลผลิตข้าวทั่วโลกที่มีปริมาณมาก ทำให้เกิดภาวะข้าวล้นตลาด
นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า แม้รัฐบาลจะมีนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรด้วยเงินสนับสนุนไร่ละ 1,000 บาท แต่เงินจำนวนนี้ไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาในระยะยาว ชาวนาจึงเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่ที่กำลังจะจัดตั้ง ครม. คัดเลือกผู้ที่มีความสามารถและเข้าใจปัญหาเกษตรกร เข้ามาดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายที่ช่วยเหลือชาวนาอย่างยั่งยืน
ข้อเรียกร้องหลักของชาวนาคือ การลดต้นทุนการผลิต เช่น ค่าปุ๋ยและยาฆ่าแมลง การพัฒนาเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ให้ผลผลิตสูงและเป็นที่ต้องการของตลาด รวมถึงการแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเพาะปลูก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เกษตรกรลดการพึ่งพาเงินเยียวยาจากรัฐในอนาคต นายปราโมทย์ย้ำว่า หากรัฐบาลสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ ชาวนาจะสามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องขอเงินสนับสนุนไร่ละ 1,000 บาท
ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่อาจนำไปสู่การยุบสภาหรือการเลือกนายกรัฐมนตรีใหม่ว่า การบริหารราชการจะยังคงเดินหน้าต่อไปได้โดยไม่หยุดชะงัก เนื่องจากข้าราชการจะนำนโยบายที่วางไว้ไปปฏิบัติต่อ แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง กระทรวงพาณิชย์ได้กำหนดนโยบายไว้ล่วงหน้าแล้ว และขอให้ทุกฝ่ายทำงานเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเมือง
เพื่อแก้ปัญหาการส่งออกข้าวไทยที่ได้รับผลกระทบ นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ มีแผนผลักดันการส่งออกข้าวให้ได้ตามเป้าหมาย 7,500,000 ตัน ภายในปีนี้ โดยจะเร่งเจรจาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับจีนในส่วนที่เหลืออีก 280,000 ตัน จากสัญญาทั้งหมด 1,000,000 ตัน พร้อมทั้งขยายตลาดข้าวขาวและข้าวนึ่งไปยังประเทศที่มีศักยภาพ เช่น ซาอุดีอาระเบียและอิรัก นอกจากนี้ จะมีการส่งเสริมภาพลักษณ์ข้าวไทยในงานแสดงสินค้านานาชาติ เพื่อเพิ่มโอกาสและช่องทางการค้าในตลาดต่างประเทศ
ชาวนาและเกษตรกรหวังว่ารัฐบาลใหม่จะให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาราคาพืชผลเกษตรที่ตกต่ำ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต และลดปัญหาหนี้สินที่กำลังขยายวงกว้าง
อ่านข่าวเพิ่ม :
วิเคราะห์ "ครม.อนุทิน" สัดส่วน 4 : 1
"ทักษิณ" ถึงดูไบ แจงเปลี่ยนแผนหลังลงจอดสิงคโปร์ไม่ได้ ยัน 9 ก.ย.ไปศาล