เมื่อวันที่ 4 ก.ย.2568 เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว Bombardier Global 7500 เที่ยวบิน T7GTS ได้กลายเป็นจุดสนใจเมื่อพา นายทักษิณ ชินวัตร และผู้ติดตามอีก 4 คน ออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง ประเทศไทย ข้อมูลที่มีการรายงานครั้งแรกคือ เครื่องบินมุ่งหน้าสู่สิงคโปร์ เทค-ออฟจากสนามบินดอนเมืองในเวลา 19.17 น.
แต่ในเวลา 20.59 น. ข้อมูลจากแอปพลิเคชัน Flightradar24 เผยว่าเครื่องบินได้เปลี่ยนเส้นทาง บินผ่านน่านฟ้าสากลเหนือทะเลอันดามัน มุ่งสู่หมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ของอินเดีย ต่อมาเวลา 21.09 น. เครื่องบินเคลื่อนผ่านทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา และในเวลา 21.25 น. ได้บินวน 2 รอบเหนือทะเลอันดามัน คาดว่าเพื่อรอการอนุญาตผ่านน่านฟ้าอินเดีย ก่อนจะมุ่งหน้าสู่ทะเลอาหรับและอ่าวเบงกอลในเวลา 21.45 น. ด้วยความเร็ว 533 น็อต ที่ระดับความสูง 43,100 ฟุต
จุดหมายปลายทางสุดท้ายได้รับการยืนยันว่าเป็นนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คาดว่าเครื่องลงจอดราว 02.31 น. วันที่ 5 กันยายน ตามเวลาประเทศไทย การเดินทางครั้งนี้เกิดขึ้นก่อนกำหนดพิจารณาคดีของนายทักษิณในวันที่ 9 ก.ย. ทำให้เครื่องบินลำนี้ยิ่งได้รับความสนใจ เป็นที่ถกเถียงของสังคมว่า สามารถบินได้ไกลและเร็วมากแค่ไหน และค่าใช้จ่ายในการบินแต่ละครั้งมีมูลค่าเท่าไหร่
Bombardier Global 7500 สุดยอดแห่งวิศวกรรมการบิน
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Bombardier ระบุว่า Bombardier Global 7500 ถูกพัฒนาโดย Bombardier Aviation จากแคนาดา Global 7500 คือหนึ่งในเจ็ตธุรกิจที่ใหญ่และทันสมัยที่สุดในโลก เดิมชื่อ Global 7000 ถูกเปิดตัวในปี 2553 และบินครั้งแรกในปี 2559 ก่อนเข้าประจำการในปี 2561 แม้จะเผชิญความล่าช้าในการพัฒนาเนื่องจากการออกแบบปีกใหม่ แต่ผลลัพธ์คือเครื่องบินที่ผสานความหรูหราและสมรรถนะอย่างลงตัว
Global 7500 มีห้องโดยสารยาว 16.59 เมตร กว้าง 2.44 เมตร สูง 1.88 เมตร แบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่ Club Suite, Conference Suite, Entertainment Suite และ Private Suite พร้อมเตียงนอน สามารถรองรับผู้โดยสารสูงสุด 19 คน และมีเตียงสำหรับ 8 คน มีห้องน้ำส่วนตัว 2 ห้อง รวมถึง ห้องครัว พร้อมเตาอบ ตู้เย็น และเครื่องชงกาแฟ
เพื่อความสบายของสายตา มีหน้าต่างขนาดใหญ่พิเศษให้แสงธรรมชาติมากขึ้นร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ระบบแสง Soleil ปรับตามวงจรชีวภาพช่วยลดอาการ Jet Lag และระบบฟอกอากาศ Pũr Air ด้วยตัวกรอง HEPA ระดับโรงพยาบาล เปลี่ยนอากาศบริสุทธิ์ร้อยละ 100 ทุก 90 วินาที ระดับความดันในห้องโดยสารถูกควบคุมให้ต่ำเพียง 4,500 ฟุต แม้บินที่ความสูงสูงสุด และระดับเสียงในห้องโดยสารเงียบเพียง 52 เดซิเบล
ความเร็ว-พิสัยการบินที่ไร้คู่แข่ง
Global 7500 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ GE Passport 20 จำนวน 2 เครื่องยนต์ ที่มีแรงขับ 18,920 ปอนด์ สามารถทำความเร็วได้สูงสุด Mach 0.925 หรือ 982.7 กม./ชม. พิสัยการบินสูงสุด 7,700 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 14,300 กม. ทำให้บินจากกรุงเทพไปดูไบ ระยะทางประมาณ 4,900 กม. ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงเส้นทางยาวอย่างนิวยอร์ก-ฮ่องกง หรือ สิงคโปร์-ซานฟรานซิสโก โดยไม่ต้องแวะเติมน้ำมัน
Lunajets ให้ข้อมูลว่า เครื่องบินลำนี้ทำลายสถิติความเร็วมากกว่า 100 รายการ และภารกิจยาวที่สุดที่ 15,098 กิโลเมตร เส้นทาง สิงคโปร์-ทูซอน เมืองที่ตั้งอยู่ใน รัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้ชั่วโมงบิน 16 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังเป็นเจ็ตธุรกิจแรกที่ได้รับ Environmental Product Declaration (EPD) ในปี 2563 แสดงถึงความมุ่งมั่นด้านความยั่งยืน
ความหรูหรามาพร้อมกับราคาที่สูง
Simple Flying เว็บไซต์ที่รวบรวมข่าวสารของเครื่องพาณิชย์อันดัยต้น ๆ ของโลก ให้รายละเอียดราคา Global 7500 เครื่องใหม่อยู่ที่ประมาณ 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2,700 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อชั่วโมงประมาณ 9,456 ดอลลาร์ หรือประมาณ 340,000 บาท รวมค่าน้ำมัน บำรุงรักษา และลูกเรือ ค่าเช่าเหมาลำอยู่ที่ 12,000-18,000 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง หรือ 430,000-650,000 บาท
โดยเฉพาะค่าน้ำมัน เครื่องบินลำนี้ใช้น้ำมัน Jet A ประมาณ 486 แกลลอน/ชั่วโมง คิดเป็นค่าใช้จ่ายประมาณ 2,400 - 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 87,000 - 108,000 บาท สำหรับเที่ยวบินระยะไกล 6,000 ไมล์ทะเล หรือ 11,112 กิโลเมตร อาจต้องใช้น้ำมันถึง 25,000 แกลลอน จะมีราคาสูงกว่า 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ ประมาณ 5,400,000 บาท
สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสความหรูหราของ Global 7500 โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของ ก็มีบริการเช่าเหมาลำ โดยมี อัตราค่าเช่าต่อชั่วโมงอยู่ระหว่าง 12,000 - 18,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 430,000 - 650,000 บาท) ซึ่งราคาจะแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความพร้อมของเครื่องบิน เส้นทาง และบริการเพิ่มเติม
ที่มาข้อมูล : Simple Flying, Lunajets, Bombardier, Jet-A-fuel.com
อ่านข่าวอื่น :
ไทม์ไลน์ "ทักษิณ" แจ้งไปสิงคโปร์ ก่อนเปลี่ยนเส้นทางลงจอดดูไบใช้เวลาบิน 7.21 ชม.