ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ทวี" อ้าง MOA ปชน.-ภท.ทำลายประชาธิปไตย โหวตนายกฯ ขัด รธน.

การเมือง
11:15
566
"ทวี" อ้าง MOA ปชน.-ภท.ทำลายประชาธิปไตย โหวตนายกฯ ขัด รธน.
อ่านให้ฟัง
04:51อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"พ.ต.อ.ทวี" อ้าง MOA ระหว่างพรรคประชาชน และ ภูมิใจไทย ครอบงำและเป็นผลประโยชน์ของสองพรรคการเมือง ทำลายระบอบประชาธิปไตย ส่อทำให้การโหวตนายกฯ ขัดรัฐธรรมนูญ ชี้ต้องยื่นศาลฯ ตีความเรื่องการยุบพรรคการเมือง

วันนี้ (5 ก.ย.2568) เวลา 09.40 น.การประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในที่ประชุม ในการประชุมนัดพิเศษ

น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.พรรคภูมิใจไทยเสนอญัตติ ให้เลื่อนวาระการโหวตให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 159 ขึ้นมาพิจารณาก่อน

แต่นายวัชรพล ขาวขำ สส. พรรคเพื่อไทยเห็นแย้งเนื่องจากมีระเบียบวาระสำคัญที่จะต้องพิจารณา และอ้างอิงว่าการพิจารณาโหวตนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่สำคัญจึงต้องมีเวลาให้สมาชิกได้ตัดสินใจ

จากนั้นประธานสภาฯ ได้เรียกให้สมาชิกโหวตว่าจะเห็นด้วยให้เลื่อนระเบียบวาระ หรือจะให้พิจารณาตามระเบียบวาระ

ส่วนนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกระทรวงการ ลุกขึ้นเสนอว่าจะจำเป็นต้องให้มีสมาชิกได้อภิปรายหารือถึงการเลื่อนวาระ ก่อนที่จะหลุดพูดว่า "ทางฝ่ายค้าน" เป็นฝั่งนี้มี สส.เตรียมความพร้อมอภิปรายญัตติของนายวัชรพล ขาวขำ ซึ่งมี สส.หลายคนขึ้นมาสนับสนุนความเห็นของนายจุลพันธ์ จากนั้นมี สส.จากพรรคร่วมรัฐบาลเดิม มาร่วมอภิปรายเสนอความเห็นเกี่ยวกับการเลื่อนญัตติ เช่น นายณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ สส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา

ขณะที่ ช่วงหนึ่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง สส.พรรคประชาชาติ ลุกขึ้นอภิปราย หยิบยกว่ารัฐสภาจะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่าการที่จะเลือกนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมีข้อตกลงระหว่างพรรคประชาชน กับพรรคภูมิใจไทย กรณีการเลือกบุคคลดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นข้อตกลงทางการเมืองที่กร่อนเซาะระบอบประชาธิปไตยและทำลายรัฐธรรมนูญ เป็นการสกัดการตั้งรัฐบาลโดยเสรี

"เนื่องจากข้อตกลงดังกล่าวมีในข้อ 4 เพื่อสร้างหลักประกันว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่จะยุบสภาภายใน 4 เดือนจริง พรรคภูมิใจไทยต้องดำเนินการด้วยวิธีใดๆ เพื่อให้รัฐบาลเป็นเสียงข้างน้อย เพื่อไม่ให้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก และลงชื่อนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงทางการเมืองที่สะท้อนให้เห็นการบิดเบือนรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายกรัฐมนตรีถือเป็นเสาหลักนายอนุทินอาจจะมาด้วยพรรคการเมือง เมื่อมีข้อตกลงดังกล่าว จะทำให้ขัดต่อรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะในมาตรา 49"

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่าหากมีการพูดถึงเรื่องคุณสมบัติแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจะอภิปรายต่อไป ว่าเป็นอาชญากรรมหรืออาชญากรทางประชาธิปไตยทางการเมืองอย่างไร ชี้ว่าหากจะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีขอให้มีการพิจารณาข้อตกลงที่ได้อภิปรายไว้ โดยพรรคประชาชาติเห็นว่าควรจะยื่นเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ข้อตกลงของทั้ง 2 พรรคการเมือง เนื่องจากอ้างว่าข้อตกลงจะนำไปสู่เหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง

โดยเห็นว่า ตามรัฐธรรมนูญกำหนดให้สมาชิกถูกครอบงำ โดยการลง MOA ดังกล่าวเป็นการครอบงำและเป็นผลประโยชน์ของสองพรรคการเมือง ฝ่ายหนึ่งได้เป็นรัฐบาลอีกฝ่ายหนึ่งได้เป็นฝ่ายค้านแต่ได้แก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือว่าเป็นการไม่เห็นหัวประชาชน จึงเห็นควรว่าการเลือกนายกรัฐมนตรีต้องมีการวินิจฉัยให้ถ่องแท้ เพราะเริ่มต้นก็เป็นการกระทำที่ผิดต่อรัฐธรรมนูญเป็นการทำลายประชาธิปไตย และเป็นพรรคการเมืองที่ประกาศว่าพรรคตัวเองยึดมั่นในประชาธิปไตย

อ่านข่าว : 

"อนุทิน" รับ​ตื่นเต้นโหวตนายกฯ​ เชื่อทุกอย่างจะเรียบร้อย

โฆษก​ภูมิใจไทยยก รธน.ชี้โหวตนายกฯ เป็นวาระด่วนที่สุด

"สรวงศ์" เดินหน้าเสนอชื่อ "ชัยเกษม" โหวตนายกฯ โยน กก.บห. ขับ 8 สส.งูเห่า