วันนี้ (6 ก.ย.2568) เมื่อเวลาประมาณ 15.25 น.ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล ผู้ที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี พานายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีต ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอน และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึง นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดื่มกาแฟร่วมกัน ที่ร้านจานิสตาร์ ชั้น 1 ที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ภายหลังหารือร่วมกัน
จากนั้น นายอนุทิน แนะนำว่า นายสีหศักดิ์ จะมาดำรงตำแหน่ง รมว.การต่างประเทศ ขณะที่นายเอกนิติ จะมาดำรงตำแหน่ง รมว.คลัง จากนั้นนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีต ปธ.จนท.บห.และ กก.ผจก.ใหญ่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้เดินทางมาสมทบ โดยนายอนุทินแนะนำว่านายอรรถพล จะได้รับการเสนอชื่อเป็น รมว.พลังงาน
นายอนุทิน ให้เหตุผลว่า ทุกคนที่เลือกมานั้นเลือกมาจากความสามารถ ประสบการณ์ ความทุ่มเทเสียสละ ซึ่งเมื่อทั้งหมดตอบรับชัดเจน หลังเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก็จะได้ทำงานได้เลย

เมื่อถามความคาดหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจ จากกระทรวงการคลัง ในระยะสั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ในระดับจุลภาคและมหภาค นายเอกนิติ ว่าที่ รมว.คลัง อยู่ใน ก.การคลัง มาโดยตลอด มีประสบการณ์การทำงานทั้งต่างประเทศและในประเทศ เป็นอธิบดีมาหลายกรม เป็นผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ผู้อำนวยการรัฐวิสาหกิจ อธิบดีกรมสรรพากร อธิบดีกรมสรรพสามิต และอธิบดีกรมธนารักษ์ มีความรู้ความสามารถ ที่จะประสานงานกับฝ่ายประจำทำงานต่อเนื่องได้อย่างไม่มีปัญหา
ส่วนการฟื้นโครงการคนละครึ่ง นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปได้ หากเป็นประโยชน์และเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน วันนี้ก็ดูเต็มฟีดในสื่อสังคมออนไลน์ก็จะเร่งมอบหมายให้ว่าที่ รมว.คลัง พิจารณา เมื่อปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แล้วก็จะได้ดำเนินการต่อไปเพราะเวลามีน้อย ส่วนจะมีการสานต่อจาก Application เดิมหรือไม่ นายอนุทิน ยืนยันว่า อะไรที่ดีก็ทำต่อ

นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ว่าที่ รมว.การต่างประเทศ
นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ว่าที่ รมว.การต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวยังถามว่า ในกรณีข้อพิพาทไทยกัมพูชา และการแก้ไข MOU 43 และ 44 นั้นจะดำเนินการอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าพูดถึงชื่อนายสีหศักดิ์ เชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในวงการการทูตความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเศรษฐกิจ น่าจะมีความพึงพอใจและมั่นใจรัฐบาลนี้เข้ามาท่ามกลางปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว เพราะฉะนั้นต้องน ผู้ที่มีประสบการณ์และต้องได้รับการยอมรับจากนานาชาติแก้ไขปัญหาโดยเร็ว
ผู้สื่อข่าวจึงถามนายสีหศักดิ์ มั่นใจว่าจะแก้ไขปัญหาชายแดนได้ใช่หรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องสำคัญ ต้องวางพื้นฐานให้เป็นระยะยาว ส่วนมองว่าเป็นเผือกร้อนหรือไม่ ยืนยันว่า ทุกอย่างต้องให้ความสำคัญ
นายอนุทิน ยังยอมรับว่า กว่าที่ว่าที่รัฐมนตรีโควตาคนนอกจะตอบรับ ใช้เวลาหลายวันหลายคืน เพราะนายเอกนิติ มีอายุราชการเหลืออีก 6 ปี ซึ่งความรู้ความสามารถ ยังมีอนาคตในทางราชการ สามารถก้าวหน้าไปได้มากกว่านี้อีก แต่ท่านก็เสียสละ เราเห็นพ้องต้องกันว่าเรื่องประเทศชาติ เรื่องพี่น้องประชาชนมีความสำคัญ ซึ่งคุณสมบัติความรู้ความสามารถของท่านขณะนี้ต่อให้พ้นวาระนี้ไป คงจะมีเส้นทางในอาชีพของท่านได้มากมาย ซึ่งท่านขอเวลาคิด 2-3 คืนก็ตัดสินใจมาร่วมทำงาน ต้องถือว่าเป็นสิ่งที่ท่านตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต โดยมุ่งมั่นถึงประเทศของเราและพี่น้องประชาชน
นายอนุทิน ยังยืนยันว่า หน้าตา ครม.ไม่ขี้เหร่แน่นอน ต้องเป็น ครม.ที่เข้ามาแล้วทำงานได้เลย "สโลแกน ทำวันนี้เสร็จเมื่อวาน ของตนเองก็ยังอยู่ ถือว่าเป็นแนวทางการทำงานของพวกเรา"
ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลจะให้แล้วเสร็จภายใน 1-2 วันนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จะทำให้เร็วที่สุดซึ่งต้องคำถึงกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ทางการเมือง และเรื่องทางการเมือง คิดว่า มีความชัดเจนแล้วอีก 4 เดือนก็ต้องยุบสภา ดังนั้น ต้องทำทุกอย่างภายในอีก 4 เดือนให้เกิดผลงานให้เกิดความคืบหน้าและการแก้ปัญหาให้มากที่สุด

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ว่าที่ รมว.พลังงาน
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ว่าที่ รมว.พลังงาน
เมื่อถามว่า มีโครงการใดที่ ครม.ชุดใหม่ ต้องการทำเพิ่มอีกบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า ให้ใจเย็น ๆ ให้รัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายในแต่ละกระทรวงมีอำนาจเต็ม ในการกำหนดนโยบาย ด้วยความรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอว่าหัวหน้ารัฐบาลจะเอาด้วยหรือไม่ เดี๋ยวจะขัดกับพรรคโน้นพรรคนี้หรือไม่ ตนเองรับรองว่า ไม่มี จะเอาประสบการณ์ที่มีของรัฐบาล 2-3 ชุดที่ผ่านมา ที่เห็นจุดอ่อนของการมีปัญหาและไม่ทำงาน ที่กังวลเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบกัน
ส่วนเหตุผลที่ท่าทางนายอรรถพล นั้น นายอนุทินกล่าวว่า เป็นรัฐบาลที่มีภารกิจแน่นอน ต้องได้ผู้ที่เข้ามาแล้วทำงานได้เลย ไม่ต้องมาเรียนรู้งาน แต่ละท่านที่เข้ามาก็ล้วนแต่เป็นผู้บริหารสูงสุด ในองค์กรที่ท่านกำลังจะเข้าไปรับผิดชอบ ดังนั้นจะเป็นการสร้างความมั่นใจว่าจะสามารถเดินหน้าได้ดี ไม่ต้องรำมวย
เมื่อถามว่า ก.กลาโหม ควรจะเป็นทหารเข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็ต้องการให้เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพ
ส่วนกระแสข่าวที่จะเป็น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม แข่งกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า หากตรงไหนมีความชัดเจน ก็จะพามาเปิดตัวเช่นนี้ เพื่อให้พี่น้องประชาชนรับทราบโดยไม่ต้องคาดเดา ดังนั้นการที่ยังไม่พาคนอื่นมาแสดงว่ายังไม่แล้วเสร็จหรือมีคำถามที่จะต้องเคลียร์กันก่อน
ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ จำเป็นจะต้องเป็น พล.อ.ประวิตร หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อย่าถามแบบนี้ อะไรที่ตอบได้ก็ตอบ เพราะสไตล์การทำงานของตนไม่ต้องการให้ประชาชน มาคาดการณ์ใด ๆ ถ้ามีความชัดเจนแล้ว ก็จะนำมาแนะนำตัว ต่อพี่น้องประชาชนทุกคน ให้รับรู้ รับทราบ ว่ารัฐบาลจะเป็นไปในทางใด พยายามจะทำงานให้ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ให้ทำเหมือนว่ามีส่วนร่วมในการบริหารประเทศร่วมกัน ฝ่ายการเมืองอย่างพวกเราฟังเสียงของพี่น้องประชาชนเป็นหลักอยู่แล้ว

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่ รมว.คลัง
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่ รมว.คลัง
เมื่อถามว่าภาพของ ครม.อนุทิน จะออกมาเป็นแบบใด นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นภาพมืออาชีพที่ทำงาน ผู้ที่ร่วมทำงานทุกคนมีความเป็นพี่น้องสมัครสมาน สามัคคี เพราะตนเป็นสมาชิกใน 36 คนมาหลายสมัย มีความรู้สึกว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวแทบจะไม่เลย คุยแต่เรื่องที่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ไม่เคยมีการตัดสินใจร่วมกันเลย ภาพแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น ในรัฐบาลของตนแน่นอน เนื่องจากทุกคนจะต้องเข้าใจเป้าหมายเดียวกันและเข้าใจภารกิจที่เรามีอย่างจำเพาะต้องให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน ไม่ใช่พรรคนี้เสนอ พรรคนี้ค้าน หัวหน้ารัฐบาลไม่ใช่มองว่า อันนี้ไม่เกิดประโยชน์กับพรรคตนเองก็ให้เรื่องช้าหน่อย สิ่งเหล่านี้จะไม่มี
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม ถึงตำแหน่งของนายสันติ พร้อมพัฒน์ ที่จะมานั่งเก้าอี้รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข นายอนุทิน รีบปัดตอบว่า ฝ่ายการเมืองเดี๋ยวมาพูดคุยกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ว่าชื่อ รัฐมนตรีป้ายแดงทั้ง 3 คน ได้นั่งพูดคุยกับนายอนุทิน ด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง และมีการเสิร์ฟเมนูเค้กส้ม พร้อมยืนยัน รัฐมนตรีในสัดส่วนคนนอกยังมีอีกหลังจากนี้ ก็จะทยอยแนะนำให้พี่น้องประชาชนรับทราบ
อ่านข่าว : ฉลุย! สภาฯ โหวต "อนุทิน ชาญวีรกูล" นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32
เปิดโผ ครม.อนุทิน 1 "ภท." ได้ 12 เก้าอี้ คนนอก 5 เก้าอี้ ชื่อ “เศรษฐพุฒิ” โผล่นั่ง "ขุนคลัง"
"สิริพงศ์" รับจ่อฟื้นนโยบายคนละครึ่ง หวังกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น