ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"บางจาก" ชี้แจงเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นตามกลไกตลาด

สังคม
15:51
152
"บางจาก" ชี้แจงเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นตามกลไกตลาด
กรณีสื่อต่างชาติเผยแพร่บทความระบุถึงความสัมพันธ์และผลประโยชน์ทับซ้อนระหว่างอดีตผู้นำไทย-กัมพูชา อ้างว่ามีการใช้นายหน้าต่างชาติตั้งบริษัทเข้ามาซื้อหุ้นบริษัทบางจาก และพยายามเข้ามาลงทุนผ่านกองทุนประกันสังคม ล่าสุดบางจากชี้แจงการซื้อขายหุ้นเป็นไปตามกลไกตลาด

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ออกหนังสือชี้แจงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้น ระบุว่า บางจากฯ เป็นบริษัทบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การซื้อขายหุ้นเป็นไปตามกลไกตลาด ภายใต้กฏเกณฑ์และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

สำหรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ล่าสุด ผู้ถือหุ้นรายใหม่แต่งตั้งผู้แทนกรรมการตามสัดส่วนจำนวน 2 คน จากกรรมการทั้งหมด 15 คน โดยกรรมการผู้แทน ล้วนมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายและมีประสบการณ์การทำงานกับบริษัทที่ปรึกษาระดับโลก

นอกจากนี้ บริษัทฯ และคณะกรรมการอยู่ระหว่างการจัดทำแผนธุรกิจระยะกลางถึงระยะยะยาว และยืนยันถึงความเป็นมืออาชีพของคณะกรรมการและผู้บริหาร การยึดมั่นในจริยธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจตามมาตรฐานสากล

การชี้แจงของบริษัทบางจาก มีขึ้นหลังจากที่นายทอมไรท์ นักข่าวสืบสวน ออกมาเปิดเผยภาพการเจรจาธุรกิจระหว่างนายทักษิณ ชินวัตร นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ นายหน้าธุรกิจที่มีประวัติพัวพันคดีหลอกลงทุน พร้อมตั้งคำถามถึงสายสัมพันธ์ระหว่างนายทักษิณ กับนายเบนจามิน และภรรยานายเบนจามิน อาจเชื่อมโยงกับการดำเนินธุรกรรม ทยอยรวบรวมหุ้น “บริษัทบางจาก”

รวมทั้งรายงานข่าวของ Asia Sentinel อ้างถึงบุคคลลึกลับที่ทำหน้าที่เป็นนอมินี พยายามเข้าซื้อหุ้นบริษัทบางจากฯ กว่า 31 ล้านหุ้น ตั้งแต่เดือน ก.ย.2567

กรณีที่ทีมข่าวไทยพีบีเอส นำเสนอความเห็นจากนักวิชาการอิสระด้านการเงิน ที่ตั้งข้อสังเกตถึงความเชื่อมโยงของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ใช้บริษัทลูกเข้ามาทำธุรกรรม รวมทั้งลงทุนในกองทุนประกันสังคมและกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งมีสัดส่วนการถือครองหุ้นบริษัทบางจาก รวมกันเกินกว่าร้อยละ 51 ซึ่งสามารถเข้าควบคุมการบริหารกิจการได้อย่างสมบูรณ์

บอร์ด ปกส.ฝ่ายผู้ประกันตน เสนอ 4 มาตรการป้องกันครอบงำหุ้น

รศ.ษัษฐรัมย์ ธรรมบุษดี กรรมการผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน คณะกรรมการประกันสังคม ระบุว่า ที่ผ่านมากรรมการและอนุกรรมการพยายามตรวจสอบและป้องกันการลงทุนของประกันสังคมให้มีธรรมาภิบาล แต่ยังต้องการที่จะเสนอมาตรการป้องกันปัญหาความไม่โปร่งใสในอนาคตต่อรัฐบาลใหม่ ดังนี้

1. จำกัดการลงทุนนอกยุทธศาสตร์ มูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาท (Non-SAA) ต้องเป็นการลงทุนที่สร้างผลประโยชน์โดยตรงแก่ผู้ประกันตนเท่านั้น

2. การซื้อขาย Big Lot ต้องกำหนดให้มีการแสดงรายละเอียดผู้ถือหุ้นชั้นสุดท้าย (Ultimate Beneficial Owner) ไม่ให้ใช้นอมินี หรือบริษัทจดทะเบียน ที่อาจอยู่นอกเขตอำนาจศาลไทยเป็นผู้ซื้อ การประเมินราคาและมูลค่าอย่างเข้มงวด และห้ามขายให้กับกลุ่มที่มีปัญหาด้านธรรมาภิบาล

3. ต้องเป็นกระบวนการขายแบบมีการเสนอราคาที่โปร่งใส หรือ Auction Process

4. หากเป็นการขายในลักษณะที่สามารถเข้าควบคุมกิจการ ต้องป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกันตนและผลประโยชน์สาธารณะ

ทั้งหมดนี้ควรทำให้เสร็จภายใน 4 เดือน ก่อนเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง

"เช่น เรื่องนอมินีมาขอซื้อหุ้นของประกันสังคม แม้ว่ากรรมยังไม่เกิด แต่เห็นความพยายามหลายอย่าง สิ่งเหล่านี้ประชาชนก็สงสัย จำเป็นที่จะต้องมีการเปิดเผยอะไรต่างๆ รวมถึงกระบวนการสอบสวนการทุจริตต่างๆ มองว่า 4 เดือนคือช่วงเวลาที่จำเป็นจะต้องทำให้เสร็จ เพื่อให้ประชาชนมีความสบายใจก่อนที่จะเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง" รศ.ษัษฐรัมย์ กล่าว

รศ.ษัษฐรัมย์ ระบุอีกว่า ตราบใดที่ประกันสังคมยังอยู่ภายใต้ระบบราชการ ยึดโยงกับสายบังคับบัญชา ไม่ใช่ผู้ประกันตน การปฏิรูปประกันสังคมออกนอกระบบราชการคือทางออกที่สำคัญ

อ่านข่าว

สื่อนอกเปิดตัว "ฟิกเซอร์" มือประสานงานลับเชื่อมสัมพันธ์ ทักษิณ-ฮุน เซน

ส.อ.ท.เสนอนโยบายเร่งด่วน 4 ด้าน ให้ "นายกฯ" คนใหม่ เร่งแก้ใน 4 เดือน

"นพดล ปัทมะ" ลาออก สส.เพื่อไทย ขอไปทำงานด้านกฎหมาย