ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"อนุทิน" ทูลเกล้าฯ ครม.สัปดาห์นี้ จ่อสอบส่งออกทองไปกัมพูชา

การเมือง
13:20
208
"อนุทิน" ทูลเกล้าฯ ครม.สัปดาห์นี้ จ่อสอบส่งออกทองไปกัมพูชา
อ่านให้ฟัง
10:21อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"อนุทิน" เผย ทูลเกล้าฯ ครม. สัปดาห์นี้ แจงสภาอุตสาหกรรมฯ ไม่เปิดด่านไทย-กัมพูชา ในตอนนี้ เหตุไทยไม่ได้เริ่มก่อน และต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด ชี้​ เป็นรัฐบาลมา 6 ปี รู้ปัญหา สั่งว่าที่ขุนคลัง สอบขนทองขายกัมพูชา พร้อมลุยคนละครึ่ง

วันนี้ (15 ก.ย.2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประชุมหารือแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ กับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับว่าที่รัฐมนตรีหลายคน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

ขณะที่ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้มอบกระเช้าแสดงความยินดีและอวยพรวันเกิดให้กับนายอนุทินที่ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พร้อมกล่าวให้การต้อนรับ

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดการประชุม ว่า ในวงหารือวันนี้เป็นพี่น้องกันทั้งนั้นรู้จักกันมานาน หลังจากนี้เป็นช่วงเวลาที่ประเทศต้องขับเคลื่อน ให้ปัญหาที่เกิดขึ้นต้องได้รับการแก้ไข และจะมีการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ แต่เราคงไม่ปล่อยเวลาให้เสียประโยชน์ ได้ประสานกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รัฐบาลกับผู้นำทางเศรษฐกิจต้องไปคู่กัน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทย ให้เกิดความมั่นคงแข็งแรงในมิติอื่นๆ เช่น หากเศรษฐกิจดีคุณภาพชีวิตก็จะดี สังคมก็จะมีความสงบสุข

นายอนุทิน กล่าวว่าจริงๆ วันนี้ต้องการมารับฟังข้อกังวลข้อเสนอแนะ จากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเราได้ประชุม ร่างการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา เนื่องจากเวลามีจำกัด ซึ่งแม้ยังไม่ได้ทำงานแต่หลังไมค์แล้วทำทุกอย่าง เพราะสไตล์ของพวกเราคือต้องทำงานเร็ว นโยบายของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นนั้นมุ่งเน้น แก้ไขเศรษฐกิจระยะสั้น วางรากฐานเพื่อการต่อยอด ให้มีความมั่นคงต่อไปในระยะยาว ปัญหาเฉพาะหน้า ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา โดยเฉพาะปัญหาของผู้ประกอบการ แต่ไทยกัมพูชาก็ต้องมีการค้าขายกันอยู่

แต่ด้วยความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาถึงปัจจุบันนี้ เงื่อนไขข้อจำกัดต่างๆ การที่เราจะต้องรักษาอธิปไตย เกียรติภูมิของประเทศ การเปิดด่านจะไม่เกิดขึ้นในระยะสั้นนี้ ซึ่งก่อนจะเกิดสิ่งเหล่านั้นก็ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข ที่เราเป็นผู้กำหนด เพราะเราไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ต้องพูดให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้เกิดความกังวล อย่างไรก็ตามเราต้องใช้ทุกวิธี เช่นการทหาร การทูต และหารือกับฝ่ายกัมพูชา ใช้องคาพยพทุกอย่างเพื่อแก้ปัญหา ของ 2 ประเทศ โดยเร็วที่สุด

นายอนุทิน​ กล่าวว่า​ ในเรื่องของผู้ประกอบการ ที่อยู่ในโครงการ Thailand Plus One ในส่วนของ กลุ่มประเทศ CLMV มีแนวคิดที่จะต้อง matchingกับเรา โดยเฉพาะ Local Content ที่เราเคยทำกับประเทศเพื่อนบ้าน จะต้องลงทุนผลิตในประเทศไทยแทน

ดังนั้นคำว่า Local Content เป็นคำที่พวกเราต้องให้การสนับสนุน และให้ความสำคัญมาก ด้วยการเจรจากับประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดของเรา ว่าเขามีข้อกำหนดมา ถือว่าประเทศไทยเรา ไม่ได้ด้อยไปกว่าประเทศอื่น แต่ยังมีเงื่อนไข โดยเฉพาะพวกแปลงร่าง Local Content ที่กำหนดเงื่อนไขมา ตนมองว่านี่เป็นโอกาสที่ดี ทำให้เราสามารถผลิตสินค้าส่งไปสหรัฐอเมริกาได้ และหากมีปัญหาก็ควรต้องส่งเสริมการลงทุนเพิ่มมากขึ้น ตนมองว่าเรื่องนี้ไม่แปลก เพราะเมื่อ 20-30 ปีก่อน ที่ไทยเราเริ่มอุตสาหกรรม OEM แต่ครั้งนี้อย่าให้เป็นการรับจ้างทำของ หรือจ้างประกอบ เราต้องเริ่มตั้งแต่ เปิดช่องทางเศรษฐกิจ

ถือเป็นโอกาส ให้ไทยขยายตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาได้วางรากฐานเอาไว้ ของการขยายตัวอุตสาหกรรมของประเทศไทย ซึ่งตนมองว่า เรายังไม่ได้ใช้ประโยชน์ตรงนี้อย่างเต็มที่ ทำให้เกิดการชะลอตัว ซึ่งตอนนี้เราต้องพึ่งพาตัวเองมากขึ้น เพราะคู่แข่งข้างนอกเกิดมากขึ้น เช่น เวียดนาม และ กัมพูชา ก็เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย

นายอนุทิน กล่าวอีกว่า บางครั้งต้องยอมรับ ว่ามีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แม้รัฐบาลชุดนี้เข้ามา ในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า แต่จะทำให้เห็นว่า จะทำให้เป็นตัวอย่าง ให้เห็นว่าเป็นหนึ่งเดียวของรัฐบาล ที่สามารถฟันฝ่าอุปสรรคเหล่านี้ไปได้

"ที่ผ่านมาผมอยู่มา 6 ปี เห็นปัญหาเยอะแยะ ที่สำคัญการหวาดระแวงซึ่งกันและกัน เอาตรงนี้เสนอขึ้นมา เช่น พรรคนี้คุมกระทรวงอุตสาหกรรม แต่นายกฯ เป็นคนละพรรคกัน ก็ไม่สนับสนุนอย่างเต็มที่ เพราะกลัวคะแนนตก ไปที่พรรคอื่น ซึ่งขอเรียนว่าสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลของตน เพราะถือคติ คนละพรรคแต่พวกเดียวกันสำคัญกว่า พรรคเดียวกันคนละพวก"

นายอนุทิน กล่าวว่า ตนอยู่ภาคเอกชนมาก่อน มีความเชื่อมั่น ถ้าเศรษฐกิจดี ประเด็นอื่นเป็นเรื่องเล็ก จะบอกว่าคนมีกินมีใช้ หรือมีเกียรติ มีศักดิ์ศรีด้วยก็ได้ ซึ่งจังหวะนี้ทำให้ผู้ร่วมประชุมหัวเราะขึ้นมา ตนและทีมงานของตนจะเร่งให้เกิดการวางรากฐาน ให้ได้มากที่สุดด้วยสไตล์การทำงานยึดภาพรวมเป็นหลัก ไม่ยึดภาพตัวเองเป็นหลัก ขอให้มั่นใจอะไรที่ดีต่อส่วนรวมจะใช้อำนาจหน้าที่ ของตนในฐานะนายกรัฐมนตรี ช่วยผลักดันความคาดหวังของพวกท่านให้เกิดความสำเร็จ

นายกฯ สั่งว่าที่ขุนคลังสอบขนทองขายกัมพูชา 

นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท.​ว่า วันนี้ได้มาพูดคุยกับประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการวันนี้​ ได้มีโอกาสมาแนะนำตนเอง ซึ่งปกติคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว วันนี้ถือโอกาสมารับฟัง สิ่งที่ภาคอุตสาหกรรมต้องการ รวมถึงปัญหาและข้อกังวลสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาล ได้เร่งแก้ไขปัญหา ถือว่าใช้เวลาหารือกันนานพอสมควร รวมถึงศักยภาพของประเทศ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบอุตสาหกรรมของประเทศไทย การค้าที่มีการแข่งขัน เพิ่มมากขึ้น รวมถึงปัญหาชายแดนไทย กัมพูชา และเรื่องของการทำให้ ความเข้มแข็งในกลุ่มประเทศอาเซียน และทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง การขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม

ส่วนเรื่องค่าเงินบาทที่กำลังแข็งค่าในตอนนี้เป็นอุปสรรคด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องเร่งแก้ไขเรื่องนี้ ซึ่งในวันนี้ (15 ก.ย.) ในช่วงบ่าย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง จะประชุมหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ ได้มีการตรวจสอบการส่งออกทองคำหรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มอบหมายให้นายเอกนิติไปตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีอะไรผิดปกติก็จะดำเนินการ ส่วนมาตรการ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นายอนุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าไปทำงาน แต่เป็นสิ่งที่เราเตรียมพร้อม

หลังไมค์เราเตรียมพร้อม เมื่อเราสามารถเข้าไปบริหารราชการแผ่นดินได้ตามเวลาที่กำหนด จะดำเนินการทันที

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ประชาชนค่อนข้างคาดหวังกับโครงการคนละครึ่ง ทั้งนโยบาย 60-40 และ 50-50 ที่จะสามารถเปิดกระเป๋ารอได้เลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รอได้ครับ รอได้ครับ ซึ่งในรายละเอียดก็จะให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำชี้แจงกับประชาชน ในเรื่องของแผนดำเนินการที่ได้วางไว้ ในวันที่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มตัว แต่ย้ำว่าจะดำเนินการตามนโยบายให้เร็วที่สุด

ส่วนที่คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เรียกร้องให้ชะลอการทำโครงการแลนด์บริดจ์ และผลักดันร่างราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ SEC ผ่านการรับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน นายอนุทิน ว่า ฟังทุกฝ่ายอยู่แล้ว จะพิจารณาแค่มิติเรื่องการลงทุน และความคุ้มค่าอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมองถึงอนาคตด้วย รวมถึงสิ่งที่จะทำให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศด้วย ดังนั้น ต้องมองหลายมิติร่วมกัน ไทยอยู่ในสภาพภูมิรัฐศาสตร์ที่ได้เปรียบอยู่แล้ว ต้องใช้ความได้เปรียบตรงนี้ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ

เราอยู่ตรงกลางเป็นไข่แดงของอาเซียน จึงมีโอกาสมากมายที่จะใช้ข้อได้เปรียบเหล่านี้ เพื่อสร้างการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และมิติอื่นๆ อีกมาก

ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยหารือถึงแผนการรองรับไว้แล้ว แต่ในรายละเอียดขอให้รอทางประธานสภาอุตสาหกรรมฯ เป็นผู้ชี้แจง

อ่านข่าว :

ภท-ปชน.นัดถกแก้ รธน.สัปดาห์นี้ "สิริพงศ์" ยันเห็นตรงกันทำประชามติ 2 รอบ

โพลชี้ "รัฐบาลอนุทิน" ทำงานลำบาก สุดท้ายขัดแย้ง ปชน.-ฉีก MOA

ว่าที่ รมต.ครม.“อนุทิน 1” หารือการทำงาน 120 วัน ก่อนแถลงนโยบาย