เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2568 บรรยากาศการท่องเที่ยวในกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ยังคงเงียบเหงา แม้แหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร และที่พักจะกลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้ว หลังเกิดเหตุประท้วงรุนแรงเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ก่อน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 72 คน บาดเจ็บอีกกว่า 2,000 คน
การประท้วงครั้งนี้นำโดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ กลุ่ม Gen Z เกิดขึ้นในช่วงที่เนปาลกำลังเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว และทำให้ธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลกระทบตามไปด้วย โดยเนปาลรับนักท่องเที่ยวประมาณ 1.2 ล้านคนต่อปี สร้างรายได้คิดเป็นประมาณ 8% ของจีดีพี โดยช่วงเดือน กันยายน- ธันวาคม ถือเป็นช่วงที่มีผู้เดินทางไปเยือนมากที่สุด
ความเสียหายที่เกิดขึ้นหลังการประท้วง ทางการเนปาลกำลังประเมินมูลค่าและผลกระทบทางเศรษฐกิจ คาดว่าสูงถึง 25,000 ล้านรูปีเนปาล หรือประมาณ 5,600 ล้านบาท ตัวเลขนี้มาจากสมาคมโรงแรมเนปาล ที่ระบุว่า มีโรงแรมมากกว่า 20 แห่งที่ได้รับความเสียหาย รวมถึงโรงแรมฮิลตันที่ถูกเพลิงไหม้ ขณะที่อีกหลายแห่งถูกปล้นสะดม เฉพาะที่โรงแรมฮิลตันเพียงแห่งเดียวคาดว่าความเสียหายมีมูลค่าประมาณ 1,800 ล้านบาท ซึ่งโรงแรมนี้เพิ่งจะสร้างเสร็จได้ไม่นาน
นอกจากนี้ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับธุรกิจโรงแรมยังกระทบแรงงานมากกว่า 2,000 คน ซึ่งเป็นสัดส่วนหนึ่งของการจ้างงานในธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศนี้ซึ่งมีตำแหน่งงานรองรับประชากรมากกว่า 370,000 คน ถือเป็นภาคธุรกิจที่จ้างงานประชาชนมากที่สุดเป็นอันดับ 4 สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวซึ่งเข้ามาปีละมากกว่า 1 ล้านคน
ความเสียหายที่เกิดขึ้นยังพบได้ตามจุดต่างๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มผู้มีอำนาจและคนร่ำรวยในบ้านเมือง ทั้งจากการเผาบ้านนักการเมือง โชว์รูมรถยนต์และสำนักงานบริษัทเอกชนหลายแห่ง รวมถึงอาคารรัฐสภา เช่นเดียวกับสถานีตำรวจและศาล นายกรัฐมนตรีรักษาการเนปาล ซึ่งเป็นอดีตประธานผู้พิพากษาศาลสูงสุด ระบุว่า เอกสารประวัติคดีหลักฐานและแฟ้มจำนวนมากเสียหายทั้งหมดระหว่างเกิดความวุ่นวาย
นอกจากนี้ นักโทษมากกว่า 12,500 คนที่หลบหนีไประหว่างเหตุประท้วง ขณะนี้ยังกลายเป็นภัยคุกคามสำคัญที่รัฐบาลต้องเร่งจัดการด้วย
การเปิดเผยข้อมูลนี้มีขึ้นหลังสมาชิกรัฐมนตรีรักษาการชุดใหม่ ซึ่งรวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน, กระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย เข้าสาบานตนในพิธีรับตำแหน่งที่หน้าอาคารรัฐสภา หลังจาก ซูซิลา การ์กิ นายกรัฐมนตรีรักษาการเนปาล แต่งตั้งรัฐมนตรีทั้ง 3 คน เข้าร่วมในรัฐบาลรักษาการ เพื่อดูแลการบริหารประเทศ ปูทางไปสู่การเปลี่ยนผ่านและจัดการเลือกตั้งในอีก 6 เดือนข้างหน้า หรือวันที่ 5 มีนาคม 2569
อ่านข่าว : ปิดตำนาน โรเบิร์ต เรดฟอร์ด สายลับไฮดรา MCU เสียชีวิตในวัย 89 ปี
กัมพูชารับปากแก้ปัญหาคอลเซนเตอร์ เสนอแผนปฏิบัติการให้ไทยใน 1 เดือน
ภูมิใจไทยชง "ตั๋วบุฟเฟต์" รถไฟฟ้า-รถเมล์ 30 บาทโดยสารทั้งวัน
แท็กที่เกี่ยวข้อง: