ขวากหนาม “วรภัค” ย้อนรอยคดีทุจริตกรุงไทยปล่อยกู้ EARTH

ย้อนรอยคดีทุจริตกรุงไทยปล่อยกู้ EARTH อาจกลายมาเป็นขวากหนามชิ้นโตที่ขวางทาง “วรภัค” ในการผงาดขึ้นเป็น ว่าที่ รมช.คลัง เพราะคดีนี้ยังไม่สิ้นสุด โดยดีเอสไอส่งสำนวนให้ ป.ป.ช.ตั้งแต่ปี 2560-2562 และอยู่ในชั้นสอบสวน ป.ป.ช.

คดีนี้เริ่มต้นที่ธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ “บริษัท เอ็นเนอร์ยี่ เอิร์ธ จำกัด (มหาชน)” หรือ หุ้น EARTH ซึ่ง 8 ปีก่อน คดีนี้สร้างบาดแผลให้ตลาดเงิน ตลาดทุน ตลอดจนผู้เสียหายจากการลงทุนหุ้นกู้และตั๋วแลกเงิน มากกว่า 1.6 หมื่นคน

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2560 บริษัทเอิร์ธ ผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงิน หรือ บีอี ชุดแรก จำนวน 2,300 ล้านบาท ซึ่งออกโดยธนาคารกรุงไทย ขายให้ผู้ลงทุนรายย่อย หลังเอิร์ธ ชูจุดขายระดมเงินและกู้เงินจากธนาคารกรุงไทย จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อซื้อเหมืองในอินโดนีเซีย 2 แห่ง

แต่กลับพบปัญหาบริษัท เอิร์ธ ไม่สามารถส่งมอบเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์บนเหมือง ให้กับธนาคารกรุงไทยในฐานะเจ้าหนี้ ประกอบกับแผลที่ปะทุออกมาจากการผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงิน

ก่อนพบว่า เอิร์ธ ออกใบขนสินค้าปลอม สร้างหนี้เทียม 2.6 หมื่นล้านบาท นำไปสู่การตรวจสอบว่า “ปล่อยกู้ไปได้ยังไง” ซึ่งขณะนั้นนายวรภัค ธันยาวงษ์ เป็นผู้จัดการธนาคารกรุงไทย และมีนายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ รองผู้จัดการธนาคารกรุงไทย เป็นผู้รับผิดชอบการปล่อยกู้บริษัทดังกล่าว

วรภัค ธันยาวงษ์

และเป็น 1 ใน 32 คนที่ถูก ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหา สอดคล้องผลตรวจสอบข้อเท็จจริงภายในธนาคารกรุงไทย ระบุว่า มีผู้บริหารและพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องและอาจเข้าข่ายทุจริต รวม 15 คน เป็นเหตุให้นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งอธิบดีสรรพากร และประธานบอร์ดกรุงไทย สั่งเดินหน้าเอาผิดอย่างเต็มที่

สั่งมาแล้ว 6 ปี ธนาคารทำได้เพียงไล่ออกและให้ออกไป พนักงานระดับล่างไปแล้ว 3-4 คน บางคนเกษียณ บางคนเสียชีวิตไปตามกาลเวลา ขณะที่คดีทุจริตปล่อยกู้ “เอิร์ธ” ยังอยู่ใน ป.ป.ช.

สร้างความเสียหายธนาคาร 1.2 หมื่นล้านบาท แบงก์ชาติสั่งกันสำรองเต็มจำนวน ไม่นับรวมผู้ลงทุนรายย่อยที่ต้องตามคดีกันเอง เพราะบริษัทอยู่ระหว่างฟื้นฟูกิจการตามกฎหมายล้มละลาย มาถึงวันนี้วันที่ “วรภัค” กำลังเดินเข้าสู่เส้นทางการเมือง เขามองว่ามีความพยายามจะชูประเด็นนี้กลับมายังกระแสอีกครั้ง

นายวรภัค ชี้แจงในเฟซบุ๊กระบุว่า ตนเองเป็นเพียงผู้ถูก ป.ป.ช.กล่าวหาเมื่อ 2 ปีก่อน พร้อมกับอ้างว่าผลการตรวจสอบภายในของธนาคารไม่ได้ระบุว่าเป็นคนผิด พร้อมกับแสดงผลดำเนินงานของเอิร์ธ ไม่มีสัญญาณใดๆ ที่ทำให้ไม่ปล่อยกู้

วันนี้ เอกนิติ และ วรภัค โคจรกลับมาพบกันอีกครั้งในตำแหน่งที่เข้มแข็งขึ้น ท่ามกลางความหวาดหวั่นว่าปัญหาคดีนี้จะกระทบคุณสมบัติ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ใน ครม.อนุทิน 1 หรือไม่ ตลอดจนผลแห่งคดีทุจริตปล่อยกู้เอิร์ธจะจบอย่างไร ต้องติดตาม