นัด 3 พรรคการเมือง ส่งการบ้าน เรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เมื่อวันที่ 18 ก.ย. พรรคภูมิใจไทย แจ้งลาเหตุติดภารกิจ ขณะที่ภาคประชาชน แจ้งไม่เสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ด้วยเหตุผลไม่ต้องการเป็นตัวถ่วงให้เกิดความล่าช้า
สำหรับพรรคที่เข้าร่วมประชุม "เพื่อไทย" กางโมเดลการเลือกสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. ผ่าน 2 ทางเลือก เช่นเดียวกันพรรคประชาชน แต่ใช้วิธีเลือก สส. เป็นต้นแบบ คือแบบเขตกับแบบบัญชีรายชื่อ
แม้จะเผื่อเหลือเผื่อขาด รอดูคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญฉบับเต็มก่อน แต่พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน ก็ย้ำในความจำเป็นที่จะต้องเร่งขับเคลื่อนเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 พร้อมเสนอหมวด 15/1 คือ ที่มาของคณะผู้ร่าง
สำหรับ "โมเดล" ผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ของพรรคประชาชน จะมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ผ่านรูปแบบการเลือก สส. 2 ระบบ
โดยระบบบัญชีรายชื่อ จะเป็น "กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ" ซึ่งผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด 70 อันดับ จะเป็นชื่อที่ถูกส่งให้รัฐสภา ลงมติเลือกเหลือ 35 คน
ส่วนระบบเขต จังหวัดละไม่เกิน 5 คน จะเลือก 100 คน เพื่อเป็น "สภาที่ปรึกษา" ซึ่งมีหน้าที่รวบรวมและสะท้อนความเห็นประชาชนต่อคณะผู้ยกร่าง
ส่วนรูปแบบของ พรรคเพื่อไทย จะยังคงเรียกว่า สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร. รวม 140 คน ทางหนึ่งประชาชนเลือกโดยตรง 200 คน ก่อนรัฐสภาเลือกให้เหลือ 100 คน
อีกทางหนึ่งคือเลือกผ่านกลุ่มจากภาควิชาการ ทั้งคณะนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ ตัวแทนองค์กรภาคประชาชน ตัวแทนวิชาชีพ 40 คน และในจำนวนนี้ ให้ไปเลือกกันเอง เป็น กรธ. หรือ กรรมาธิการยกร่าง หรือ กรธ. และเพื่อไม่ให้ล่าช้าหรือต้องเริ่มกระบวนการใหม่ ดังนั้นเมื่อยกร่างฯ เสร็จ ส่งให้รัฐสภาพิจารณาเห็นชอบ ถ้าไม่เห็นชอบให้พิจารณาทบทวนใหม่
2 พรรคเสนอรูปแบบหมวด 15/1 ผ่าน วงประชุมกรรมาธิการ การพัฒนาการเมืองฯ ของสภาฯ ตามวาระที่นัดหมาย เพื่อถกแนวทางการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ส่วนพรรคภูมิใจไทยที่แจ้งลา เหตุติดภารกิจ คงต้องรอลุ้น หลังจัดตั้งรัฐบาล จัดสรร ครม.กันแล้วเสร็จ จะเสนอโมเดลรูปแบบไหน
อ่านข่าว : "พริษฐ์" จี้รัฐบาลภูมิใจไทยจริงใจ เดินหน้าเชิงรุกคุย "สว." แก้ รธน.
จริงๆ วันนี้ 19 ก.ย.นัดประชุมกันอีกรอบ โดยพรรคประชาชน ขอให้พรรคภูมิใจไทย เป็นฝ่ายนำเสนอรูปแบบคณะผู้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เอง แม้จะยื่นเอกสารแจ้งมาแล้วก็ตาม
และจากที่รับฟังกัน ก็ยอมรับว่า แต่ละรูปแบบหรือโมเดล เป็นไปตามหลัก 4D คือ ประชาธิปไตยยึดโยงประชาชน หลากหลายครอบคลุม มีส่วนร่วมแบบถกแถลง และส่งมอบได้จริง และทั้งหมดเป็นไปโดยการให้ประชาชนมีส่วนร่วม
ที่เรียกว่า ประชาชนเป็นต้นน้ำ คือการเลือกผู้ร่าง กลางน้ำ คือให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการถกแถลง และปลายน้ำคือการออกเสียงประชามติ สำนักกฎหมายของสภาฯ ไม่ขัดข้อง
กกต.พร้อมจัดการเลือกตั้ง วุฒิสภายอมรับอาจไม่สอดรับกับความต้องการของประชาชน ที่อยากเลือกตั้งโดยตรง ก็ต้องปรับตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญด้วย
ส่วนภาคประชาชน ขอบายเพราะไม่ต้องการให้เกิดความล่าช้า แต่ก็พร้อมจะมีส่วนร่วมไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม
ไทม์ไลน์รัฐบาลขยับ ไทม์ไลน์แก้รัฐธรรมนูญก็อาจต้องขยับตาม ถ้า ครม.เข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ก่อนเข้ารับหน้าที่วันพุธที่ 24 ก.ย. ก็น่าจะแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ก็น่าจะสัปดาห์สิ้นเดือน ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 รัฐสภาอาจได้เห็นชอบวาระแรก ในสมัยประชุมนี้ แต่วาระ 2-3 คงต้องขยับไป สมัยประชุมหน้าเดือน ธ.ค.
อ่านข่าว :
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "ครม. อนุทิน" 36 คน 40 ตำแหน่ง