วันนี้ (22 ก.ย.2568) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้ความรู้แก่พรรคการเมืองและประชาชนทั่วไปเกี่ยวกับระบบ "ไพรมารีโหวต" (Primary Vote) หรือการเลือกตั้งขั้นต้น ซึ่งเป็นกระบวนการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่กฎหมายกำหนดไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566
ไพรมารีโหวต คือ การเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคการเมืองมีสิทธิแสดงความคิดเห็นให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคการเมือง เป็นการส่งเสริมให้สมาชิกพรรคการเมืองได้เข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งถือเป็นการยกระดับประชาธิปไตยภายในพรรคการเมือง และสร้างความโปร่งใสให้กับพรรคการเมือง
หลักการสำคัญ
1. การมีส่วนร่วมของสมาชิกพรรค แสดงความคิดเห็นให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบผู้สมัคร
2. ความอิสระและโปร่งใส กระบวนการต้องไม่ถูกครอบงำจากบุคคลภายนอกหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
3. ความเสมอภาค ต้องคำนึงถึงผู้สมัครจากทุกภูมิภาค และเปิดโอกาสทั้งชายและหญิงอย่างเท่าเทียม
ขั้นตอนการสรรหา
• ผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง (มาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566) พรรคการเมืองต้องให้หัวหน้าสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดจัดประชุมสมาชิกเพื่อรับฟังความคิดเห็นและให้สมาชิกให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบโดยมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 100 หรือ 50 คน ตามลำดับ
• ผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ (มาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566) พรรคการเมืองต้องให้หัวหน้าสาขาพรรคการเมืองหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดจัดประชุมสมาชิกเพื่อรับฟังความคิดเห็นและให้สมาชิกให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบโดยมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 100 หรือ 50 คน ตามลำดับ แสดงความคิดเห็นบุคคลในบัญชีรายชื่อที่คณะกรรมการสรรหาจัดทำ
• คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลก่อนเสนอเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ
ข้อยกเว้น ตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม การสรรหาผู้สมัครไม่จำเป็นต้องทำไพรมารีโหวตในกรณีต่อไปนี้
1. การเลือกตั้งแทนการเลือกตั้งที่เป็นโมฆะ
2. การเลือกตั้งใหม่กรณีไม่มีผู้ใดได้รับเลือกตั้ง
3. ผู้สมัครตายก่อนปิดการรับสมัครรับเลือกตั้ง
ข้อห้ามและบทลงโทษ
• ห้ามบุคคลภายนอกซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคการเมืองเข้ามามีบทบาทในกระบวนการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง
• ผู้ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 5 ปี
นอกจากนี้ หากพรรคการเมืองไม่ดำเนินการตามมาตรา 50 หรือ 51 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม คณะกรรมการการเลือกตั้งมีหน้าที่กล่าวโทษหัวหน้าพรรคการเมืองและกรรมการบริหารพรรคการเมืองต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย (มาตรา 56)
การทำไพรมารีโหวตเป็นกลไกที่ยกระดับประชาธิปไตย เพราะทำให้สมาชิกพรรคการเมืองได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง สร้างความโปร่งใสในการเลือกผู้สมัคร และสะท้อนเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชนในพรรคการเมืองสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอเน้นย้ำว่า พรรคการเมืองทุกพรรคควรเตรียมความพร้อมและปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้กระบวนการไพรมารีโหวตดำเนินไปอย่างสุจริตเที่ยงธรรม และเสริมสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการเลือกตั้ง
อ่านข่าว : เอาใจช่วย "น้องข้าวต้ม" ลูกช้างป่าพลัดหลง-บาดเจ็บขาหลัง
ไข้หวัดใหญ่ และ RSV แนวโน้มป่วยเพิ่ม สธ.เตือนอย่าปล่อยการ์ดตก