ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

นายกฯ ยันคุมสถานการณ์ถนนทรุดได้แล้ว สั่งเร่งหาสาเหตุ ห่วง สน.สามเสนเสาเข็มขาด

สังคม
11:34
2,758
นายกฯ ยันคุมสถานการณ์ถนนทรุดได้แล้ว สั่งเร่งหาสาเหตุ ห่วง สน.สามเสนเสาเข็มขาด
อ่านให้ฟัง
01:55อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
นายกรัฐมนตรี รุดตรวจจุดเกิดเหตุถนนทรุด ถ.สามเสน หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ชี้ควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว บอกไม่มีผู้บาดเจ็บแต่ทรัพย์สินเสียหาย ห่วง อาคาร สน.สามเสนเสาเข็มขาด 2-3 ต้น ประสานโรงพยาบาลในเครือรองรับผู้ป่วย มอบโยธารวบรวมผู้เชี่ยวชาญ หาสาเหตุที่แท้จริง

วันนี้ (24 ก.ย.2568) เวลา 10.35 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ถนนสามเสน บริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล โดยมี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รอรายงานสถานการณ์

โดยทันทีที่นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงได้กล่าวว่า รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้า จึงรีบเดินทางมา และเดินเข้าไปดูในจุดที่ทรุดตัวทันที

จากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะ ได้ขึ้นไปยังชั้น 6 อาคารเพชรรัตน์ วชิรพยาบาล เพื่อติดตามสถานการณ์จากมุมสูง และร่วมประชุมวอร์รูมติดตามสถานการณ์ โดยผู้บริหารกระทรวงคมนาคม และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และ เจ้าหน้าที่วชิรพยาบาล บรรยายสรุปเหตุการณ์

นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ว่า เช้าวันนี้มีเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น ที่บริเวณ ถ.สามเสน หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เหตุที่เกิดคือการทรุดตัวของถนนอันเนื่องมาจากการสไลด์ของดิน ในโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วงใต้ แต่โชคดีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่เกิดความเสียหายทางทรัพย์สิน และคาดว่า ในส่วนที่มีคนอาศัยอยู่ เช่น ในตัวอาคารโรงพยาบาลวชิรพยาบาลหากหันไปด้านใต้ที่ติดถนนไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากการทรุดตัวคงหยุดเพียงเท่านี้

ส่วนด้านที่อยู่กลางถนนซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้า มีโครงสร้างคอนกรีตที่รับการสไลด์ได้อยู่แล้ว แต่ที่น่าห่วงคืออาคารของสถานีตำรวจนครบาลสามเสน มีความสูง 5-6 ชััน ส่วนตัวเสาเข็มลึกลงไป 26 เมตร การสไลด์ของดินทำให้เข็มขาดไป 2-3 ต้น แต่มีการอพยพเจ้าหน้าที่ผู้คนออกจากอาคารหมดแล้ว

อ่านข่าว : รฟม. สั่งหยุดก่อสร้าง หลังถนนทรุดหน้า รพ.วชิรพยาบาล ถ.สามเสน

ขณะนี้ควบคุมสถานการณ์ไว้ได้หมดแล้วจากนี้เป็นเรื่องทางเทคนิคโดยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีความรู้ด้านวิศวกรรม และผู้ว่าการรถไฟขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะชี้แจงเชิงเทคนิค และรายละเอียดต่อไป

ส่วนโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ได้ขอปิดการให้บริการผู้ป่วยนอก (OPD) ในช่วงวันถึงสองวันนี้ก่อน แต่มีการประสานงานกับโรงพยาบาลเครือข่าย และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข มาประสานความร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลของกรุงเทพมหานคร เช่น โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลเลิดสิน ซึ่งอยู่กลางเมือง มั่นใจว่าสามารถรองรับ และให้บริการผู้ป่วยได้โดยที่ไม่มีอุปสรรคใดๆ

เมื่อถามว่า จะต้องมีเจ้าภาพในการดูแลความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นทรัพย์สินของ รฟม. ที่จะเป็นผู้รวบรวม และจะต้องไล่เช็กว่าใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบบ้าง นอกจากนี้ ต้องดูว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ทั้งทางธรรมชาติหรือการออกแบบ ซึ่งจะมีทีมงานเข้ามาตรวจสอบ โดยได้ขอความร่วมมือไปครบทุกที่ ทั้งวิศวกรรมสถาน สภาวิศวกร กรมโยธาธิการและผังเมือง และสำนักโยธาธิการและผังเมือง กรุงเทพมหานคร รวมถึงอาจต้องใช้คณะวิศวกรรมที่เราเคยแสวงหาความร่วมมือเหมือนช่วงที่มีเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ซึ่งต้องระดมกำลังมีรูปแบบที่คล้ายกัน

ที่สำคัญต้องเคลียร์พื้นที่ให้กลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็วที่สุด และเยียวยาผู้เสียหาย ทั้งยานพาหนะ และการพิสูจน์สาเหตุ ซึ่งขณะนี้ขออย่าเพิ่งพูดว่าเกิดหรือผิดพลาดจากอะไร ยืนยันว่าเราต้องหาสาเหตุได้แน่นอนเพราะเป็นเรื่องทางวิศวกรรมศาสตร์ล้วนๆ

ส่วนที่มีการระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ถนนทรุดเกิดจากมีดินสไลด์เข้าไปในสถานีรถไฟฟ้า นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้น ซึ่งมีจุดเริ่มต้นจากการที่มีคนเห็นน้ำเอ่อขึ้นมาบนพื้นถนน มีความผิดปกติ และถนนสุดตัว ซึ่งต้องไล่ความผิดปกติไปเรื่อยๆ ขณะเดียวกันมีอุโมงค์ถึงสองชั้นที่ซ้อนกัน และอยู่กันคนละระดับ จะต้องมาดูว่าชั้นดินที่คั่นระหว่างอุโมงค์ในช่วงของการถมดินแน่นหรือไม่ และปริมาณน้ำที่ไหลเข้ามามาได้อย่างไร

"ตอนที่ที่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ผมเชื่อ รฟม. จะเร่งสำรวจแนวเส้นรถไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมด ทั้งที่ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังก่อสร้างอยู่ เราต้องเร่งดำเนินการให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่พี่น้องประชาชน วันสองวันนี้ต้องหาสาเหตุที่ทำให้เกิดดินทรุดตัวให้ได้ว่าเกิดจากอะไร"

ขณะที่การตรวจสอบและซ่อมแซมต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากจะต้องมีการใช้งานต่อไป ซึ่งไม่เหมือนกับอาคาร สตง. ที่ถล่มลงมาทั้งหมด แต่ส่วนนี้เป็นส่วนที่ชำรุดเสียหายซึ่งต้องเร่งบูรณะ และเชื่อมต่อเพื่อให้โครงการสามารถใช้งานต่อไป ส่วนทางด้านเทคนิคยังไม่มีใครสามารถฟันธงได้ โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง จะต้องเป็นเจ้าภาพ ในการรวบรวมนักวิชาการ และมีความรู้ด้านเทคนิคการเจาะอุโมงค์ใต้ดินเพื่อเร่งหาสาเหตุ

อ่านข่าว :

สน.สามเสน เสี่ยงทรุด "สุทธิศักดิ์" แนะเร่งหาสาเหตุถนนยุบ-อพยพคนด่วน

"ชัชชาติ" ชี้ถนนทรุดเกิดจากดินไหลเข้าอุโมงค์ก่อสร้างรถไฟฟ้า