วันนี้ (25 ก.ย.2568) นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ประกาศไม่เจรจากับ นายอุม เรียไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจยอีกแล้ว แม้ว่าทางกัมพูชาจะพยายามส่งหนังสือเชิญประชุมระหว่างผู้ว่าฯ 2 จังหวัดก็ตาม ขณะที่หน้าด่านคลองลึก อรัญประเทศ พบว่า เจ้าหน้าที่ทหารฝั่งไทย-ล่ามทหารไทย ได้ไปยื่นหนังสือให้ฝั่งกัมพูชา เนื่องจากผู้ว่าฯสระแก้วยืนยันปฏิเสธการเจรจา
ใจความในหนังสือ กล่าวว่า "ตามหนังสือที่อ้างถึง จ.สระแก้ว ได้พิจารณาข้อเสนอของ จ.บันเตียเมียนเจย จำนวน 4 ข้อ ที่เสนอในการประชุมร่วมระหว่าง ผวจ.สระแก้ว กับ ผวจ.บันเตียเมียนเจย เมื่อวันพุธที่ 17 ก.ย.2568 พร้อมทั้งได้แจ้งยืนยันข้อเสนอของ จ.สระแก้ว จำนวน 3 ข้อ ให้ จ.บันเตียเมียนเจย ได้ทราบและพิจารณาดำเนินการ
ทั้งนี้ จ.บันเตียเมียนเจย ได้มีหนังสือตอบกลับข้อเสนอของ จ.สระแก้ว โดยได้เสนอข้อเสนอเดิม จำนวน 4 ข้อ ให้ จ.สระแก้ว พิจารณานั้น
จ.สระแก้ว ขอยืนยันว่า พื้นที่ที่ราษฎรกัมพูชารุกล้ำตลอดแนวชายแดน จ.สระแก้ว อยู่ในเขตอธิปไตยของราชอาณาจักรไทยและอยู่นอกเขตพื้นที่อ้างสิทธิ์ จึงขอให้ จ.บันเตียเมียนเจย ดำเนินการตามข้อเสนอของ จ.สระแก้วทั้ง 3 ข้อ ดังกล่าว จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและพิจารณาดำเนินการ
ลงชื่อ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว
ข้อเสนอ 3 ข้อดังกล่าว ประกอบด้วย
- ขอให้ชาวกัมพูชาอพยพออกไปให้พ้นจากพื้นที่อ้างสิทธิ์ใน จ.สระแก้ว ทุกพื้นที่ โดยส่งแผนการอพยพให้ จ.สระแก้ว ก่อนการประชุม GBC ในวันที่ 10 ต.ค.2568
- ให้ ผวจ.บันเตียเมียนเจย ปฏิบัติตาม 8 ข้อที่ ผวจ.สระแก้ว เสนอไปในที่ประชุม หากไม่ดำเนินการ ทาง จ.สระแก้ว จะแจ้ง RBC และจะไม่มีการเจรจาในระดับจังหวัดอีกต่อไป
- จ.สระแก้ว พร้อมดำเนินการกับผู้ที่รุกล้ำอธิปไตยไทย ทำลายทรัพย์สินราชการ ทำร้ายเจ้าหน้าที่และประชาชนไทยตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยอย่างเด็ดขาด
ผูวจ.สระแก้ว บอกว่า เอกสารดังกล่าว ล่ามทหารเป็นคนส่ง หนังสือซึ่งเป็นข้อเรียกร้อง 3 ข้อให้กับตัวแทนฝั่งกัมพูชาไปแล้ว ส่วนตัวเองไม่ได้ไปตามที่ประกาศไว้ และหลังจากนี้ต้องรอฟังกัมพูชาส่งรายละเอียดกลับมาหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ฝั่งกัมพูชาต้องส่งแผนอพยพมาให้ถึงจะมีการดำเนินการต่อ ซึ่งหลังจากนี้หากมีรายละเอียดจะแจ้งสื่ออีกครั้ง
อ่านข่าวอื่น :
สวนนงนุชพัทยาส่ง "นมน้ำเหลือง" จากแม่ช้างเพิ่งคลอดช่วย "น้องข้าวต้ม"