วันนี้ (26 ก.ย.2568) นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเดินทางเข้าปฏิบัติหน้าที่ ที่กระทรวงพาณิชย์ เป็นวันแรก ว่า จะเน้นการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างกรมกองภายในกระทรวง ตลอดจนการประสานกับหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ส่วนรายละเอียดเชิงนโยบายจะชี้แจงต่อสาธารณะภายหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งภาพรวมกระทรวงพาณิชย์จะมุ่งสร้างความสมดุลด้านการค้า ทั้งฝั่งผู้ซื้อ ผู้ขาย ผู้บริโภคและผู้ผลิต ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

สำหรับภารกิจเร่งด่วน จะดำเนินการตามนโยบาย นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ที่ดูแลฝ่ายเศรษฐกิจ ที่กำหนดให้มี Quick Winเพื่อสร้างผลลัพธ์เชิงรูปธรรมในระยะสั้น พร้อมวางรากฐานเพื่อการพัฒนาในอนาคต โดยกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว
ช่วง 4 เดือนข้างหน้า จะเร่งมาตรการสำคัญ อาทิ การบริหารจัดการสินค้าเกษตรตามฤดูกาล เช่น ข้าว การดูแลค่าครองชีพ การผลักดันการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ทั้งในระดับ Joint Agreement หรือ Trade Mission ซึ่งมีประเทศเป้าหมายชัดเจนแล้ว แต่จะเปิดเผยรายละเอียดหลังการแถลงนโยบายรัฐบาล
ส่วนประเด็นการค้าชายแดนด้านกัมพูชา กระทรวงจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่เพียงเกี่ยวข้องกับการค้าข้ามแดนเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อวิถีชีวิตประชาชนในพื้นที่ชายแดน จึงต้องทำงานประสานกับพาณิชย์จังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด และกระทรวงมหาดไทย เพื่อหามาตรการช่วยเหลืออย่างรอบด้าน

ส่วนค่าเงินบาทแข็งค่า ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออก รัฐบาลกำลังหารือร่วมกันในทุกกระทรวงเศรษฐกิจ โดยกระทรวงพาณิชย์มีหน้าที่สนับสนุนและผลักดันให้นโยบายออกมาอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกให้ได้มากที่สุด
การทำงานในกระทรวงพาณิชย์ ไม่หนักใจ แม้จะไม่มีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเหมือนในอดีต โดยตนยึดหลักไม่ได้ทำงานคนเดียวอยู่แล้ว เพราะเรามีความรู้น้อย เข้ามาที่กระทรวงที่มีคนที่มีความรู้เยอะมากกว่า เราก็มีหน้าที่ทำในสิ่งที่เรามี เอาสิ่งที่เรามีมาช่วยสอดประสาน เอามุมมองจากสิ่งที่ทางกระทรวงอาจจะไม่เคยมองมุมนี้ แต่ก็ต้องยึดทางท่านปลัดกระทรวง อธิบดีกรมต่าง ๆ เป็นคนช่วย
ทั้งนี้ ในวันที่ 1 ต.ค. 2568 รมว.พาณิชย์จะมีการมอบนโยบายการบริหารอย่างเป็นทางการต่อผู้บริหารและข้าราชการของกระทรวงพาณิชย์
อ่านข่าว:
หนี้ครัวเรือนไทยสูงสุดรอบ 4 ปี เฉลี่ยบ้านละ 7.4 แสนบาท
FTA กุญแจปลดล็อกการค้า-ลงทุน ศูนย์วิจัยกรุงไทยฯแนะใช้รับมือสงครามการค้า
รมว.คลัง จ่อชง ครม.พิจารณา "คนละครึ่ง พลัส" คาดลงทะเบียน ต.ค.นี้