ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ทบ.โต้ "ฮุน มาเนต" ย้ำกัมพูชาสร้างปัญหาซ้ำซากหวังผลประโยชน์การเมือง

การเมือง
09:11
117
ทบ.โต้ "ฮุน มาเนต" ย้ำกัมพูชาสร้างปัญหาซ้ำซากหวังผลประโยชน์การเมือง
กองทัพบก โต้ "ฮุน มาเนต" นายกรัฐมนตรีกัมพูชา 2 ประเด็น พร้อมย้ำข้อเท็จจริง ปัญหาชายแดนไทย–กัมพูชา ไม่ใช่ความขัดแย้งของประชาชน แต่เป็นผลจากการละเลยและเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการสร้างปัญหาซ้ำซากเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

วันนี้ (27 ก.ย.2568) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ระบุถึงกรณีที่วานนี้ (26 ก.ย.) สมเด็จฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความเรื่องการปักปันเขตแดนระหว่างไทย–กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว อ้างคำชี้แจงของฝ่ายไทยไม่ถูกต้องและอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสนว่า มีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และก็มีอีกหลายส่วนที่ยังเป็นลักษณะของการกล่าวอ้างเฉพาะในมุมที่ต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว มีลักษณะพาดพิงฝ่ายไทย จึงขอชี้แจงให้สังคมได้ทราบ เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างเหมาะสม ในประเด็นสำคัญ ดังนี้

ประการที่ 1 จากการที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวว่า ตาม MOU นี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะรักษาสถานะเดิม จนกว่างานปักปันเขตแดนจะเสร็จสมบูรณ์ นั้น

ขอย้ำว่า การที่นำข้อตกลงใน MOU มาอ้างเหตุการณ์ในขณะนี้ ก็ต้องย้อนไปดูฝ่ายกัมพูชาเองว่าทำตามข้อตกลงได้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมากว่า 20 ปี กัมพูชาเป็นฝ่ายเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ ด้วยการสร้างบ้านเรือนและตั้งชุมชน ไม่เพียงเฉพาะในพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ หรือพื้นที่ที่อยู่ในกรอบเงื่อนไขข้อตกลง MOU เท่านั้น แต่ยังมีการรุกล้ำเกินเลยเข้ามากินพื้นที่ในอาณาเขตดินแดนประเทศไทย ทั้งที่พื้นที่ส่วนนี้ไม่ได้เป็นพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกัน

หากดูหลักฐานด้วยภาพถ่ายทางอากาศแล้วเปรียบเทียบระหว่างอดีตกับปัจจุบัน จะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่อย่างชัดเจนจากการละเมิดของฝ่ายกัมพูชา ฝ่ายไทยได้ดำเนินการประท้วงมาแล้วมากกว่า 500 ครั้ง ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของ MOU ที่กำหนด แต่กลับไม่ได้รับการแก้ไขจากฝ่ายกัมพูชา

และในทางกลับกัน พบว่าหลายพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย มีกัมพูชารุกล้ำเข้ามาในเขตไทยอย่างชัดเจน เช่น พื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ที่เข้ามาขุดคูติดต่อทางทหาร และพื้นที่ชุมชนใน จ.สระแก้ว ตามที่เกิดประเด็นความขัดแย้งในปัจจุบัน ซึ่งเห็นได้ชัดว่านายกรัฐมนตรีกัมพูชาหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึง

ประการที่ 2 จากการที่กล่าวหาว่าฝ่ายไทยลากเส้นเขตแดนเอง จากพิกัดหลักเขตที่คณะกรรมการสำรวจหลักเขตร่วมทั้งสองฝ่ายตกลงกันแล้วนั้น ขอยืนยันว่า เขตแดนไทย–กัมพูชาตลอดแนว ในส่วนที่ภูมิประเทศเป็นภูเขาจะใช้สันปันน้ำเป็นตัวแบ่ง ส่วนภูมิประเทศที่เป็นลักษณะที่ราบจะใช้หลักเขตแดนเชื่อมต่อกันเป็นตัวระบุเขตแดน ซึ่งจะไม่ค่อยมีความซับซ้อน หรือต้องอาศัยองค์ประกอบงานเทคนิคด้านแผนที่ขั้นสูงอย่างที่กล่าวอ้าง อาศัยแค่ความซื่อสัตย์และจริงใจ ตรงไปตรงมา ก็จะสามารถหาข้อสรุปในเรื่องเขตแดนสำหรับพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นพื้นราบได้อย่างสมบูรณ์ อีกทั้งจะช่วยสามารถลดเวลาขั้นตอนการทำงานของคณะกรรมาธิการร่วมปักปันเขตแดนทางบก (JBC) ได้เป็นอย่างดี

โดยพิกัดหลักเขตตามแนวชายแดนทั้งหมด 74 หลักเขต ได้มีการสำรวจและบันทึกพิกัดโดยคณะกรรมการสำรวจหลักเขตร่วมของทั้งสองประเทศเรียบร้อยแล้ว และมีเอกสารระบุไว้อย่างชัดเจน ทั้งพิกัดหลักเขตที่เห็นตรงกันและเห็นต่างกัน ในส่วนที่เห็นต่างก็กลายเป็นพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ ซึ่งตาม MOU ได้ตกลงกันว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนสภาพพื้นที่ใด ๆ

ดังนั้น การที่กล่าวว่าฝ่ายไทยลากเส้นเขตแดนเองนั้นจึงไม่ถูกต้อง เพราะทางการกัมพูชาก็ทราบดีว่าหลักเขตใดอยู่พิกัดใด ส่วนเส้นตรงที่ลากเชื่อมต่อระหว่างหลักเขต ก็เป็นเส้นอ้างอิงที่ใช้ในการกำหนดเขตแดนตามหลักการในกรณีที่พื้นที่บริเวณนั้นเป็นพื้นที่ราบ ไม่ใช่สิ่งที่ฝ่ายไทยวาดเส้นเขตแดนขึ้นเองตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง

ในกรณีของหลักเขตที่ 42 ถึง 43 เมื่อลากเส้นตรงในแผนที่ เพื่อเชื่อมโยงตำแหน่งของหลักเขต 43 ที่คณะสำรวจของทั้งสองประเทศเห็นตรงกัน ไปยังตำแหน่งของหลักเขตที่ 42 ไม่ว่าจะเป็นในตำแหน่งที่กัมพูชากล่าวอ้าง หรือตำแหน่งที่ไทยกล่าวอ้างก็ตาม ก็จะพบว่ามีพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ซ้อนทับกันอยู่

และที่สำคัญที่สุด พื้นที่พิพาทบ้านหนองหญ้าแก้ว รวมถึงบริเวณบ้านหนองจาน ที่ฝ่ายไทยยืนยันต้องดำเนินการ ให้ชาวกัมพูชาย้ายออกไป ตามประกาศของ จ.สระแก้ว นั้น อยู่ในเขตดินแดนไทยชัดเจน ไม่ได้เป็นพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายได้อ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันอยู่

โฆษกกองทัพบก ยังย้ำว่า ปัญหาข้อพิพาทชายแดนไม่ได้เกิดขึ้นจากประชาชนทั้งสองประเทศตามที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชาพยายามจะสื่อ แต่เป็นการละเลยในการแก้ไขปัญหาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา

ประเทศไทยมีความมุ่งมั่นที่จะหาทางออกข้อพิพาทเขตแดนกับกัมพูชาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้หลักสากลและกฎหมายระหว่างประเทศ และเคารพต่ออธิปไตยบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศเพื่อนบ้าน จึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทยอย่างเต็มที่ด้วยเช่นเดียวกัน

อ่านข่าว :

ทบ.รับแจ้งได้ยินเสียงระเบิดพื้นที่ตาควาย 1 ครั้ง - เสียงปืนเล็กพื้นที่จุ๊บอั่งกุย 6 ครั้ง

"ผู้ว่าฯสระแก้ว" ยันไม่ประชุมร่วมผู้ว่าฯ "บันเตียเมียนเจย" หากไม่ส่งแผนอพยพชาวบ้านรุกพื้นที่ไทย

"นายกฯ" ยกหูคุย "ผบ.ทบ." สร้างความเข้าใจทำงานชายแดน​ไทย-กัมพูชา