ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

1 ต.ค.68 นี้ หน่วยปฐมภูมิ 25 แห่ง ออกจาก "ระบบบัตรทอง"

สังคม
14:24
217
1 ต.ค.68 นี้ หน่วยปฐมภูมิ 25 แห่ง ออกจาก "ระบบบัตรทอง"
อ่านให้ฟัง
09:25อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
1 ต.ค.68 นี้ หน่วยปฐมภูมิ 25 แห่ง ออกจาก "ระบบบัตรทอง" อย่าลืมตรวจสอบสิทธิการรักษา ก่อนใช้บริการ สปสช. เขต 13 กทม. เร่งจัดระบบช่วงเปลี่ยนผ่าน ดูแลผู้ป่วยสิทธิบัตรรักษาต่อเนื่อง แจ้งประชาชนรอการจัดสรรหน่วยบริการใหม่ ย้ำไม่ต้องย้ายสิทธิ รอหน่วยบริการใหม่

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) แจ้ง  "หน่วยฯปฐมภูมิ 25 แห่ง" ในเขตพื้นที่ของ กรุงเทพมหานคร ที่ "ลาออกจากระบบบัตรทอง" จึงมีการปรับเปลี่ยนหน่วยฐมภูมิใหม่ ซึ่งประชาชนตรวจสอบสิทธิ์หน่วยปฐมภูมิใหม่ของตัวเอง ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 ผ่านเว็บไซต์ สปสช.

เช็กสิทธิได้ที่ eservices.nhso.go.th

รายชื่อหน่วยปฐมภูมิ 25 แห่งออกจาก "ระบบบัตรทอง"

เขตดอนเมือง -  1. คลินิกเวชกรรมเดอะเมอริเดียน 2. คลินิกเวชกรรมพีเอ็มซี 3. คลินิกเวชกรรมเทพรักษ์

เขตดินแดง -  4. คลินิกเวชกรรมกล้วยน้ำไท สาขาสุทธิสาร

เขตดุสิต - 5. นครไชยศรีคลินิกเวชกรรม

เขตทุ่งครุ - 6. คลินิกเวชกรรมไอเอ็มเอช วิเศษสุขนคร 25

เขตบางพลัด - 7. คลินิกเวชกรรมอนันต์เฮลท์แคร์ สาขาบางอ้อ 8. คลินิกเวชกรรมอนันต์เฮลท์แคร์

เขตบางขุนเทียน - 9. คลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจ 19

เขตบางแค - 10. มิตรไมตรีคลินิกเวชกรรม สาขาบางไผ่ 11. มิตรไมตรีคลินิกเวชกรรม สาขา ม.เศรษฐกิจ

เขตบางบอน - 12. ดีแค 15 คลินิกเวชกรรม

เขตพระนคร - 13. บูรพาภิรมย์คลินิกเวชกรรม

เขตพญาไท - 14. คลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจ 1

เขตราชเทวี - 15. รักษ์สุขภาพเพชรบุรี 7 คลินิกเวชกรรม

เขตราษฎร์บูรณะ - 16. คลินิกเวชกรรมไอเอ็มเอช ราษฎร์บูรณะ 27, 17. คลินิกเวชกรรมไอเอ็มเอช สุขสวัสดิ์ 36, 18. รพ.ไอเอ็มเอช ธนบุรี (เฉพาะหน่วยฯปฐมภูมิ)

เขตลาดพร้าว -19. คลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจ 9, 20. คลินิกเวชกรรมใกล้บ้านใกล้ใจ 11

เขตสายไหม - 21. พร้อมแพทย์สหคลินิก, 22. รวมแพทย์สหคลินิก

เขตสาทร - 23. อยู่ดีมีสุขคลินิกเวชกรรม

เขตหนองแขม - 24. คลินิกเวชกรรมรักประชา มาเจริญ 25. มิตรมวลชนคลินิกเวชกรรม สาขามาเจริญ 

กรณีการส่งตัว จากคลินิกเดิม 

  • กรณีมี ใบส่งตัวจากคลินิกเดิม สามารถไปใช้บริการโรงพยาบาลได้ตามปกติ
  • กรณีมี ใบนัดของโรงพยาบาลรับส่งต่อแต่ยังไม่มีใบส่งตัว ให้ขอประวัติการรักษาและการใช้ยาจากคลินิกเดิมไปให้คลินิกใหม่เพื่อออกใบส่งตัว หรือ ขอให้คลินิกแห่งใหม่เปิดดูข้อมูลจาก Health Link

นอกจากนี้ สปสช. ยังมีข้อแนะนำในการใช้สิทธิ 

1. ก่อนวันที่ 1 ตุลาคม 2568 รอการจัดสรรคลินิกใกล้บ้าน ยังไม่ต้องย้ายสิทธิ์

2. ก่อนไปคลินิกใหม่ ขอประวัติการรักษา หรือ ประวัติยาที่ใช้จากคลินิกเดิมนำไปให้คลินิกใหม่ หรือ ร้องขอให้คลินิกใหม่ดูข้อมูลจาก Health Link

3. วันที่ 1 ตุลาคม 2568 สามารถตรวจสอบสิทธิผ่านทางเว็บไซต์ สปสช.ได้ คลิกที่นี่

หากไม่สะดวกรับบริการในคลินิกที่จัดสรรไว้ สามารถย้ายสิทธิได้ด้วยตนเอง ไม่กระทบสิทธิ์การเปลี่ยนหน่วยบริการ 4 ครั้ง/ปี

อ่านข่าว : อัปเดต 2568! บัตรทองอัปเกรดสิทธิ 30 บาทครอบคลุมทั่วไทย

สปสช. เร่งจัดระบบดูแลสิทธิบัตรทอง รักษาต่อเนื่อง

พ.ท.ทพ.ธนศักดิ์ ถัมภ์บรรฑุ ผู้อำนวยการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 13 กรุงเทพมหานคร (สปสช. เขต 13 กทม.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 2569 นี้ มีคลินิกชุมชนอบอุ่น 24 แห่งและหน่วยฯ ปฐมภูมิ รพ.เอกชน ในพื้นที่ กทม. จำนวน 25 แห่ง ขอถอนตัวจากระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) และจะยกเลิกการเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่

โดยเมื่อวันที่ 29 ก.ย.2568 ได้จัดประชุมชี้แจงแนวทางดำเนินการ โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยบริการที่ยกเลิกสัญญา พร้อมด้วยหน่วยบริการที่ยังอยู่ในระบบบัตรทอง ทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ กทม. เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย ผู้แทนจากโรงพยาบาล ศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) และคลินิกชุมชนอบอุ่น เพื่อร่วมกันวางมาตรการให้ผู้ป่วยยังคงเข้าถึงสิทธิและได้รับการดูแลต่อเนื่อง

ในส่วนของคลินิกชุมชนอบอุ่น รวมหน่วยฯ ปฐมภูมิ รพ.เอกชน 25 แห่งที่ออกจากระบบนั้น มีประชาชนได้รับผลกระทบราว 220,982 คน ทางสำนักงานฯ ได้เร่งรัดและพยายามหาหน่วยบริการปฐมภูมิ แห่งใหม่ใน 3 แบบ คือ 1. จัดสรรประชากรให้หน่วยฯปฐมภูมิภายในเขตพื้นที่คลินิกเอกชนที่ลาออกจำนวน 95,796 คน 2. จัดสรรประชากรให้หน่วยฯปฐมภูมิเขตรอยต่อ จำนวน 73,312 คน และ 3. ศูนย์บริการสาธารณสุข สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร รับดูแลประชากรให้ก่อน 51,874 คน ซึ่งสำนักงานอยู่ระหว่างจัดหาหน่วยบริการปฐมภูมิมารองรับ

ทั้งนี้ ทางสำนักงานฯ ได้ขอความร่วมมือให้คลินิกเดิมจัดเตรียมประวัติการรักษาเพื่อให้ผู้ป่วย ใช้ในการรักษาต่อเนื่องโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ป่วยรับทราบแนวทางการไปใช้สิทธิหลังวันที่สัญญาสิ้นสุด และขอความร่วมมือไม่ให้คลินิกแนะนำผู้ป่วยย้ายสิทธิก่อน เนื่องจากสำนักงานฯ จะดำเนินการจัดการให้ในวันที่ 1 ต.ค.2568 โดยไม่นับครั้งการเปลี่ยนสิทธิตามรอบปกติ 4 ครั้ง/ปี ส่วนการออกหนังสือส่งตัว ในช่วงระยะเปลี่ยนผ่าน 1-31 ต.ค. 2568 ได้ขอให้คลินิกออกหนังสือส่งตัวให้ผู้ป่วยตามใบนัดและส่งข้อมูลการออกหนังสือส่งตัวทั้งหมดกลับมายังสำนักงานฯ

สำหรับหน่วยบริการที่ร่วมให้บริการในระบบนั้นในช่วงเปลี่ยนผ่าน 31 วัน คือตั้งแต่วันที่ 1-31 ต.ค. 2568 สำนักงานฯ ขอความร่วมมือ ดังนี้ ผู้ป่วยที่มีใบส่งตัวจากคลินิกปฐมภูมิเดิม ขอให้โรงพยาบาลให้บริการตามใบนัด โดยไม่ต้องให้ผู้ป่วยกลับไปขอเอกสารจากคลินิกใหม่ พร้อมกันนี้ทางสำนักงานฯ จะส่งข้อมูลผู้ป่วยจากคลินิกเดิมให้กับหน่วยบริการปฐมภูมิแห่งใหม่ที่รับผิดชอบประชากร เพื่อใช้เป็นข้อมูลตั้งต้นในการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลแก่โรงพยาบาล สำหรับการรับบริการในกรณีเหตุจำเป็น (OP Anywhere) และกรณีอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน (OPAE) ขอให้หน่วยบริการให้บริการตามปกติ พร้อมบันทึกค่าใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์

รอการจัดสรรหน่วยบริการใหม่ ย้ำไม่ต้องย้ายสิทธิ  

ส่วนประชาชนที่ขึ้นทะเบียนสิทธิในคลินิกชุมชนอบอุ่น และหน่วยฯปฐมภูมิ รพ.เอกชน รวม 25 แห่งที่ยกเลิกสัญญานั้น ขอให้รอการจัดสรรหน่วยบริการปฐมภูมิแห่งใหม่ก่อนวันที่ 1 ต.ค.2568 โดยยังไม่ต้องทำการย้ายหน่วยบริการ ซึ่งจะสามารถตรวจสอบสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2568 เป็นต้นไป

ในการเข้ารับบริการที่คลินิกแห่งใหม่ ให้ขอประวัติการรักษาและประวัติการใช้ยาจากคลินิกเดิม หรือให้คลินิกใหม่ดึงข้อมูลผ่านระบบ Health Link เพื่อใช้ประกอบการรักษาต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ในกรณีการส่งตัวผู้ป่วยที่มีใบส่งตัวจากคลินิกเดิม สามารถเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลตามนัดได้ตามปกติ ส่วนผู้ที่มีใบนัดของโรงพยาบาลรับส่งต่อแต่ยังไม่มีใบส่งตัว สามารถขอประวัติการรักษาและประวัติการใช้ยาจากคลินิกเดิมไปให้คลินิกใหม่ เพื่อพิจารณาออกใบส่งตัว หรือขอให้คลินิกใหม่ดึงข้อมูลผ่านระบบ Health Link ได้เช่นกัน ทางสำนักงานฯ จะจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อสนับสนุนการใช้ระบบ Health Link ของหน่วยบริการปฐมภูมิภายในครึ่งเดือนแรกของ เดือน ต.ค.2568

สปสช. เปิดรายงานใช้งบ "กองทุนบัตรทอง ปี 67" กว่า 2 แสนล้าน

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. กล่าวว่า สปสช. ได้มีการจัดทำรายงานการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2567 เผยแพร่บนเว็บไซต์ของ สปสช. (คลิก https://shorturl.asia/XcDgB)  

ทั้งนี้ ในรายงานจะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลการดำเนินงานบริหารจัดการกองทุนบัตรทอง เช่น ปีงบประมาณ 2567 สปสช. ได้รับจัดสรรงบประมาณกองทุนบัตรทอง 217,628.96 ล้านบาท (รวมเงินเดือนบุคลากรหน่วยบริการ) และงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

สำหรับดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล 30 บาทรักษาทุกที่ จำนวน 5,924.41 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 223,553.37 ล้านบาท จากงบประมาณในส่วนแรกนั้น คิดเป็นงบเหมาจ่ายรายหัว อัตรา เฉลี่ยจำนวน 3,472 บาท ต่อผู้มีสิทธิบัตรทอง จำนวน 47.67 ล้านคน

จากผู้มีสิทธิบัตรทอง 47 ล้านคนนั้น ได้ลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการประจำ 46.9 ล้านคน ความครอบคลุมสิทธิบัตรทอง ร้อยละ 99.64 รวมถึงด้านการนำงบประมาณมาดูแลประชาชนให้เข้าถึงบริการ เช่น ในปีงบประมาณ 2567 มีจำนวนผู้มารับบริการผู้ป่วยนอก (OP) 176.535 ล้านครั้ง หรือคิดเป็นอัตรา 3.754 ครั้งต่อคนต่อปี

บริการผู้ป่วยใน (IP) 6.918 ล้านครั้ง หรือ คิดเป็นอัตรา 0.147 ครั้งต่อคนต่อปี บริการผู้ป่วยนอกแบบปฐมภูมิไปที่ไหนก็ได้ 10.39 ล้านครั้ง มะเร็งรับบริการที่ไหนก็ได้ 2.44 ล้านครั้ง ผ่าตัดต้อกระจก 195,391 ครั้ง หรืออย่างบริการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง มีผู้รับบริการ 113,274 คน

นอกจากผลการดำเนินงานดังกล่าวแล้ว ยังมีการนำเสนอผลงานเด่น ๆ ด้วย เช่น การเชื่อมโยงข้อมูลบริการสุขภาพของหน่วยบริการทุกแห่งกับระบบเบิกจ่ายชดเชยค่าบริการของ สปสช. ผ่านระบบ API เพื่อลดภาระในการบันทึกและส่งข้อมูลของหน่วยบริการ

โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่ 1 โรงพยาบาลของรัฐในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ส่งข้อมูลผ่านระบบ Financial Data Hub (FDH) กลุ่มที่ 2 โรงพยาบาลรัฐนอกสังกัด สธ. ส่งข้อมูลผ่านระบบ API สปสช. และกลุ่มที่ 3 หน่วยบริการนวัตกรรม 7 ประเภท ส่งข้อมูลผ่าน AnyPlatform เช่น เป๋าตัง, Dent Cloud หรือ A-MED

นอกจากนี้ จะมีในส่วนของการเพิ่มสิทธิประโยชน์ในระบบบัตรทอง ประจำปีงบประมาณ 2567 เช่น การผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ (Robotic Surgery) แผ่นปิดกะโหลกศีรษะไทเทเนียมในผู้ป่วยผ่าตัดสมอง คัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมนโมแกรมและอัลตราซาวนด์ คัดกรองโรคพยาธิใบ้ไม้ตับด้วยตนเอง ฉายรังสีด้วยอนุภาคโปรตอนรักษาผู้ป่วยมะเร็ง วางแร่เฉพาะที่เพื่อใช้รักษาผู้ป่วยที่มีเนื้องอกในตาและมีภาวะเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งที่ตา การตรวจวินิจฉัยโรคหยุดหายใจขณะหลับและรักษาด้วยเครื่องอัดอากาศแรงดันบวก บริการสุขภาพสำหรับกลุ่มคนข้ามเพศ บริการรักษาภาวะมีบุตรยาก ฯลฯ

โฆษก สปสช. กล่าวว่า ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการนำเสนอข้อมูลสำคัญอย่างการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การอภิบาลระบบบัตรทอง ปัญหาอุปสรรค และความท้าทายในการขับเคลื่อนระบบบัตรทองปีงบประมาณ 2567 ไปจนถึงแนวทางแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาขับเคลื่อนการดำเนินงานในปี 2568 และระยะต่อไป

อ่านข่าว : ราคา“ทองคำ” บวก 700 บาท ลุ้น “รูปพรรณ” ทะลุ 60,000 บาท

นย.เร่งสร้างถนนเลียบชายแดนไทย-กัมพูชา 15 กม. พบวัตถุระเบิด-ทุ่นระเบิด จำนวนมาก

ดินสไลด์ทับบ้าน อ.แม่สะเรียง แม่ฮ่องสอน เสียชีวิต 1 คน