วันนี้( 30 ก.ย.2568) นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าภายหลังการประชุมเจรจาจัดทำความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุม (Comprehensive Economic Partnership Agreement: CEPA) ไทย-เกาหลีใต้ รอบที่ 7 เมื่อวันที่ 22-25 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี โดยการเจรจามีความเข้มข้นอย่างมาก ทั้งสองฝ่ายพยายามที่จะสรุปผลให้ได้โดยเร็วตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยรอบนี้สามารถเจรจาได้จบอีก 1 บท คือ บทบริการทางการเงิน ส่งผลให้ขณะนี้ มีข้อสรุปร่วมกันได้แล้ว 20 บท จากทั้งหมด 24 บท

ปัจจุบันยังคงเหลือประเด็นที่จะต้องเจรจาร่วมกันต่อ ได้แก่ การค้าสินค้า กฎถิ่นกำเนิดสินค้า การลงทุน และการค้าดิจิทัล โดยทั้งสองฝ่ายพยายามอย่างเต็มที่และมุ่งมั่นที่จะสรุปผลการเจรจาให้ได้ภายในปลายปี 2568 ทั้งนี้ การเจรจา CEPA ไทย-เกาหลีใต้ เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่รัฐบาลปัจจุบันผลักดันเพื่อขยายโอกาสการค้าและการลงทุนของไทย
“หากการเจรจา CEPA ฉบับนี้สำเร็จ จะช่วยต่อยอดและขยายโอกาสในการส่งออกสินค้าและบริการของไทย ยกระดับมาตรฐานและอำนวยความสะดวกให้กับภาคเอกชน สร้างแต้มต่อทางการค้าให้กับผู้ประกอบการของไทย โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจโลกมีความไม่แน่นอน รวมทั้งจะดึงดูดการลงทุนจากเกาหลีใต้ให้มายังไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากผลการศึกษาคาดว่าความตกลง CEPA ไทย-เกาหลีใต้ จะทำให้ GDP ของไทยขยายตัวถึงร้อยละ 0.32-0.44”

ทั้งนี้ ปี 2567 เกาหลีใต้เป็นคู่ค้าอันดับ 13 ของไทย การค้าระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ มีมูลค่า 15,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ มูลค่า 5,957 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 9,343 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
สำหรับในช่วง 7 เดือน (ม.ค.-ก.ค. 2568) การค้าระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ มีมูลค่า 9,098.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ มูลค่า 3,496.74 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 5,602.00 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ ผลิตภัณฑ์ยาง ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม น้ำตาลทราย แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ แผงวงจรไฟฟ้า เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช และเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ
อ่านข่าว:
บาทแข็ง-ผลผลิตล้น ฉุดส่งออกข้าว 8 เดือน ร่วง 23.98%
พ.ร.บ. ประมงใหม่ผ่านสภาฯ ปรับ 71 มาตรา ลดโทษ–เพิ่มสิทธิทำประมงพื้นบ้าน