ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

วันแรก ผู้หนีภัยสู้รบเมียนมา ทำงานนอกพื้นที่

ภัยพิบัติ
11:46
70
วันแรก ผู้หนีภัยสู้รบเมียนมา ทำงานนอกพื้นที่
อ่านให้ฟัง
05:41อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
วันแรก ผู้หนีภัยสู้รบเมียนมาในพื้นที่พักพิงชั่วคราว 9 แห่ง ใน 4 จังหวัด สามารถออกมาทำงานนอกพื้นที่ได้ 1 ปี แก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในประเทศ

วันนี้ ( 1 ต.ค.2568) หลังจากที่ ครม.มีมติเห็นชอบ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.2568 ให้ผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาที่อยู่ในพื้นที่พักพิงชั่วคราว 9 แห่ง ใน 4 จังหวัด ได้แก่ จ.แม่ฮ่องสอน จ.ตาก จ.กาญจนบุรี และ จ.ราชบุรี สามารถออกมาทำงานนอกพื้นที่ได้ 1 ปี เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในประเทศขณะนี้ หลังแรงงานกัมพูชาเดินทางกลับประเทศจำนวนมาก

ต่อมา กระทรวงมหาดไทยได้ออกประกาศ ลงวันที่ 8 ก.ย.2568 และกระทรวงแรงงาน ลงวันที่ 5 ก.ย.2568 ให้มาตรการนี้ มีผลบังคับใช้วันนี้วันแรก (1 ต.ค.68) ซึ่งการสำรวจของกรมการปกครอง พบว่า มีผู้หนีภัยการสู้รบจากเมียนมาที่เป็นวัยแรงงาน อายุ 18-59 ปี ทั้งสิ้น 42,601 คน เป็นทั้งแรงงานมีทักษะฝีมือ กึ่งทักษะฝีมือ และไร้ทักษะฝีมือ

นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ อธิบดีกรมการจัดหางาน

นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ อธิบดีกรมการจัดหางาน

นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ อธิบดีกรมการจัดหางาน

แม้จะมีวัยแรงงานจำนวนมาก แต่ในระยะแรกที่เป็นช่วงทดลอง นายพิเชษฐ์ ทองพันธ์ อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า จะคัดเลือกแรงงานไร้ทักษะฝีมือออกมาทำงานก่อน โดยขณะนี้มีนายจ้างยื่นความประสงค์ต้องการแรงงานเข้ามาแล้ว 6,152 คน ส่วนใหญ่เป็นงานภาคการก่อสร้าง ภาคผลิตหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ภาคเกษตร ปศุสัตว์ และประมง ซึ่งมีแรงงานที่ตรงตามความต้องการกว่า 12,000 คน

สำหรับประเภทกิจการที่มีความต้องการแรงงานมากที่สุด คือ ภาคก่อสร้าง และภาพผลิตหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยในที่พักพิงฯ อาจจะมีการแบ่งคนต่างด้าวตามทักษะฝีมืออยู่แล้วและคนต่างด้าวที่อยู่ในพื้นที่พักพิงฯ ก็อาจจะมีความคุ้นเคยทางด้านภาษา สามารถสื่อสารได้

ทั้งนี้ การจ้างงานผู้หนีภัยการสู้รบเมียนมาในพื้นที่พักพิงชั่วคราวมี 6 ขั้นตอน ดังนี้

1. ผู้ประสงค์จะจ้าง (นายจ้าง / นายหน้า) คัดเลือกแรงงานในพื้นที่พักพิงชั่วคราว

2. แจ้งรายชื่อแรงงาน พร้อมทั้งสถานที่ทำงาน และระยะเวลาที่จะจ้างให้สำนักงานจัดหางานจังหวัดต้นทางทราบ พร้อมออกใบรับแจ้ง โดยนายจ้างเตรียมเอกสาร ได้แก่ ใบรับแจ้ง สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน กรณีเป็นนิติบุคคล ใช้หนังสือรับรองบริษัทที่อายุไม่เกิน 6 เดือน

3. ขออนุญาตออกนอกพื้นที่กับนายอำเภอหรือปลัดอำเภอ

4. แรงงานรายงานตัว ณ กรมการปกครอง ภายใน 48 ชั่วโมง โดย กทม. รายงานตัวต่อ ผอ.สำนักกิจการมั่นคงภายใน ส่วนจังหวัดอื่น รายงานตัวต่อนายอำเภอ

5. ตรวจสุขภาพและทำประกันสุขภาพ โดยกระทรวงสาธารณสุข

6. แรงงานขออนุญาตทำงาน ณ สำนักงานจัดหางานจังหวัดที่ทำงาน (มีค่ายื่นคำขอ 100 บาท) พื้นที่ที่กรมการปกครองกำหนดให้ผู้หนีภัยการสู้รบเมียนมาในพื้นที่พักพิงชั่วคราวมีสิทธิทำงาน

1. ภาคเหนือ 17 จังหวัด ประกอบด้วย กำแพงเพชร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี

2. ภาคกลาง 18 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดกรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี ชัยนาท นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ราชบุรี ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง และ

3. ภาคตะวันออก จำนวน 8 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดจันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ตราด นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง และสระแก้ว

อธิบดีกรมการจัดหางาน ยังเปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าว เป็นเพียงบางส่วนในการแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในประเทศ ซึ่งนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีแนวทางแก้ปัญหานี้ 4 แนวทาง คือ

1. การรักษาการจ้างงานแรงงานข้ามชาติ ที่อยู่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา

2. จ้างงานผู้หนีภัยสงครามจากเมียนมาในพื้นที่พักพิงชั่วคราว

3. นำเข้าแรงงานสัญชาติใหม่มาทำงาน จากเดิมที่มีเพียง ลาว กัมพูชา เมียนมา และเวียดนาม

4. เปิดขึ้นทะเบียนแรงงานข้ามชาติใหม่

อ่านข่าว : สหรัฐฯตัดงบฯช่วยเหลือ 7 รพ.พื้นที่พักพิงฯ ชายแดนไทย-เมียนมา ปิดตัว

 ผู้หนีภัยการสู้รบทยอยกลับภูมิลำเนา - ฝ่ายความมั่นคงยังคุมเข้มชายแดน

 กมธ.มั่นคงฯ จี้รัฐบาลอนุมัติ SOP ฉบับใหม่ รับมือผลกระทบสู้รบในเมียนมา