วันนี้ (2 ต.ค.2568) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และประธานคณะกรรมการความมั่นคงแห่งรัฐ สภาผู้แทนราษฎร พูดถึงรายงานของ New york times ที่เปิดเผยว่าจีนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กัมพูชาว่า เป็นข้อมูลที่ได้ยินมานาน แต่ครั้งนี้ยืนยันโดยสื่อที่น่าเชื่อถือ ทำให้กังวลจุดยืนของจีนต่อความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ต้องดูว่ารายงานนี้เป็นการให้เปล่าหรือซื้อขายล่วงหน้า และจีนรู้หรือไม่ว่าอาวุธจะถูกใช้ต่อไทย
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ไม่ว่าอย่างไร ถ้ากัมพูชาซื้ออาวุธ ก็คาดได้ว่าอาจใช้เล่นงานไทย ไม่ใช่เวียดนามหรือลาว จึงรอจีนชี้แจง คิดว่าน่าจะเร็ว ๆ นี้ เพราะกระทบภาพลักษณ์ต่อคนไทย ชี้ฝ่ายความมั่นคงไทยต้องเตรียมรับมือ เพราะอาจมีมหาอำนาจแทรกแซง ต้องลงทุนเรื่องบุคลากรและข่าวกรองให้ดีขึ้น เพื่อแก้ปัญหาล่วงหน้า ไม่ใช่แค่คลี่คลาย รายงาน New york times ยังชี้กัมพูชาเสริมกำลังพร้อมกว่าทีมไทย แต่ไทยมีอาวุธทันสมัยกว่า จึงรับมือได้
อย่างไรก็ตาม ต้องทบทวนงานข่าวกรองว่าทำไมปล่อยให้กัมพูชาเตรียมตัวเร็วกว่า ทั้งกองทัพและหน่วยข่าวกรองต้องปรับปรุง
สำหรับการสร้างกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา นายรังสิมันต์ชี้ว่ากำแพงอย่างเดียวไม่พอ ต้องติดกล้องวงจรปิด โดยพิจารณาภูมิศาสตร์ให้เหมาะสม เพื่อจับตาการลักลอบข้ามแดน และสั่งจับจากส่วนกลางได้ทันที ชมกองทัพที่ดำเนินการตามข้อเสนอของเขา และคาดหวังให้เน้นกล้องเป็นหลักเพื่อเก็บข้อมูล
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องเดียวกันว่า บ่ายนี้จะประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อรับรายงานจากฝ่ายความมั่นคง โดยเชิญสมาชิก สมช. เหล่าทัพ และทุกหน่วยงาน ส่วนกัมพูชาไม่ปฏิเสธข่าว ยืนยันไทยรับทราบศักยภาพฝ่ายตรงข้ามและพร้อมเสมอ เห็นได้จากรัฐบาลอนุมัติงบป้องกันประเทศในช่วงขัดแย้งไทย-กัมพูชา
นายอนุทินยอมรับว่าการประชุม สมช. วันนี้ จะหารือตั้งประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ที่ครบวาระแล้ว แต่ขอรอหลังประชุม โดยเน้นรักษาอธิปไตย เตรียมความพร้อม และกรอบพูดคุยเพื่อลดอันตราย ให้ไทยได้ประโยชน์สูงสุด และคืนสันติภาพเร็วที่สุด พรุ่งนี้จะลงพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา นอกจากนี้ ยังหารือตั้งคณะเจรจาสันติสุขชายแดนใต้ ขอรอรายละเอียดหลังประชุม
อ่านข่าวอื่น :
"อนุทิน" ไม่กังวล "นิพิฏฐ์" ยื่น ป.ป.ช.สอบ "ไชยชนก" ปมสินบน 40 ล้านแลกไม่เอาผิด "สแกมเมอร์"