ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"สีกายุ" นำหลักฐานมอบให้ตำรวจ ปมเงิน 12 วัดนาป่าพง

อาชญากรรม
16:22
1,010
"สีกายุ" นำหลักฐานมอบให้ตำรวจ ปมเงิน 12 วัดนาป่าพง
อ่านให้ฟัง
04:52อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
"สีกายุ" นำหลักฐานพบตำรวจ เผยเงินกว่า 12 ล้านไม่ได้อยู่ในบัญชีวัด แต่ถูกพระคึกฤทธิ์นำไปลงทุนในกองทุน ปัจจุบันขาดทุนอยู่ 10,000 ยูโร หรือกว่า 300,000 บาท พร้อมยืนยันไม่ได้ยักยอกเงิน มีเอกสารรับรองจากรัฐบาลเยอรมนี

วันนี้ (2 ต.ค.2568) น.ส.กัญญาภัค ชไนเดอร์ หรือสีกายุ เดินทางจากประเทศเยอรมนีมาไทย เพื่อเข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อให้ข้อมูลกรณีของพระคึกฤทธิ์ เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี หลังส่งทนายเข้าแจ้งความให้ตำรวจตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงินของวัดนาป่าพง ที่มีการโอนเงินไปประเทศเยอรมนีผ่านสีกายุ และมูลนิธิพุทธวจน โดยตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นการฟอกเงินหรือไม่

สีกายุใช้เวลานานเกือบ 5 ชั่วโมง ในการชี้แจงพยานหลักฐานต่าง ๆ และให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนออกมาเปิดเผยว่า รู้จักพระคึกฤทธิ์ผ่านรายการโทรทัศน์ ศรัทธาเพราะเห็นว่าเทศน์ดี และได้ช่องทางติดต่อจากเพื่อนมา จนได้คุยไลน์กับพระคึกฤทธิ์ และมีการนิมนต์พระไปยุโรป ปี 2559 เพื่อเผยแผ่พุทธวจน โดยตัวเองเป็นคนออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดหลายหมื่นยูโร

หลังจากนั้นพระคึกฤทธิ์ เห็นว่าคนยุโรปศรัทธาเยอะ จึงให้คำแนะนำเรื่องการเปิดเป็นองค์กร ซึ่งพระคึกฤทธิ์สนใจ และได้มอบหมายให้เปิดสมาคม ต่อมาพฤติกรรมหลายอย่างของพระคึกฤทธิ์กดดันให้ทำทุจริต ไม่ยอมให้ทำใบปวารณาให้ผู้บริจาค จึงเริ่มเกิดความสงสัย

กระทั่งตัวเองถูกทางการเยอรมนีดำเนินคดีฟอกเงินและยักยอกเงิน ทั้งที่เงินจำนวนดังกล่าวถูกนำไปจัดทำกิจกรรมของมูลนิธิที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เกือบ 200,000 ยูโร ซึ่งตัวเองถูกผู้ตรวจสอบบัญชีเรียกไปสอบ และพระคึกฤทธิ์ ได้แจ้งความตัวเองด้วย

แต่สุดท้ายผลการตรวจสอบก็ไม่พบการใช้เงินผิดวัตถุประสงค์ใด ๆ จึงเป็นเหตุให้ภายหลังตัวเองแจ้งความกลับพระคึกฤทธิ์ฐานยักยอกแทน ในฐานะที่เป็นผู้สั่งการ แต่ไปแจ้งความที่ประเทศเยอรมนี ทั้งที่เหตุเกิดที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ทำให้สุดท้ายศาลยกฟ้อง เพราะเหตุเกิดคนละอำนาจเขตศาล

สีกายุ กล่าวอีกว่า พระคึกฤทธิ์ยังฟ้องทั้งอาญาและแพ่ง ความเสียหาย 13 ล้านบาท อยู่ระหว่างพิจารณาคดี ยังไม่มีคำพิพากษาใด ๆ และไม่ได้เป็นไปตามที่ทนายวัดออกมาแถลงก่อนหน้านี้ สีกายุยังมั่นใจในพยานหลักฐาน เพราะเป็นเอกสารที่มีการรับรองจากรัฐบาลต่างประเทศและศาล รวมทั้งยังมีบัตรเอทีเอ็มธนาคารเยอรมนี ซึ่งมีเงิน 90,000 ยูโร มาเป็นหลักฐานด้วยว่าเงินไม่ได้หายไปไหน

ขณะที่นายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายความมูลนิธิกองทัพธรรม ชี้แจงหลักฐานที่ทนายวัดนำมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยเฉพาะประเด็นเงิน 12,200,000 บาท ที่ทนายวัดอ้างว่าอยู่ในบัญชีธนาคารเยอรมนี แต่จากเอกสารที่ทนายวัดนำมาแสดง พบว่าเงินไม่ได้อยู่ในบัญชีธนาคาร แต่เป็นการนำเงินไปลงทุนกองทุน 4 พอร์ต จำนวนรวมเกือบ 200,000 ยูโร และปรากฏว่าขาดทุน 10,000 ยูโร หรือติดลบ 4.73% ดังนั้นจึงเป็นจำนวนเงินที่วัดบอกว่าหายไป

นอกจากนี้ ตามกฎหมายแล้วเงินของวัดไม่สามารถนำไปแสวงหาประโยชน์ใด ๆ หรือลงทุนลักษณะนี้ได้ และมูลนิธิคือสมาคมไม่แสวงหาผลกำไร อีกทั้งเป็นมูลนิธิต่างประเทศที่กฎหมายไทยไม่รองรับ เมื่อพระคึกฤทธิ์มีอำนาจเบิกจ่ายคนเดียว เพราะเป็นประธานมูลนิธิ และเงินไม่มีอยู่ในบัญชีมูลนิธิแล้ว แต่อยู่ในพอร์ตการลงทุน เป็นเพียงมูลค่า ส่วนจะผิดหรือไม่ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

อ่านข่าว : ตร.พบ 9 คน เกี่ยวข้อง ข้อกล่าวหา "วัดนาป่าพง" เงินวัด - สีกา 

ทนายวัดนาป่าพง ชี้แจง "พระคึกฤทธิ์" โอนเงินให้สีกาในเยอรมนี 12 ล.ตั้งมูลนิธิสร้างวัด