ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ครบรอบ 23 ปี "กรมอุทยานฯ" เดินหน้า 8 งานหลัก สร้างขวัญกำลังใจพิทักษ์ป่า

ครบรอบ 23 ปี "กรมอุทยานฯ" เดินหน้า 8 งานหลัก สร้างขวัญกำลังใจพิทักษ์ป่า
อ่านให้ฟัง
05:15อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
ครบรอบ 23 ปี กรมอุทยานฯ เดินหน้า 8 งานหลัก อนุรักษ์-ปกป้องผืนป่า, ใช้ E-Tracking, แก้ปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ พร้อมสร้างขวัญกำลังใจดูแลสวัสดิการเจ้าหน้าที่

วันนี้ (2 ต.ค.2568) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (อส.) จัดพิธีทำบุญเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสถาปนากรมฯ ครบรอบ 23 ปี ณ ที่ทำการกรมฯ โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธาน รวมทั้งผู้บริหารระดับสูง ทั้ง ดร.ชญานันท์ ภักดีจิตต์ ปลัดกระทรวง ทส. และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานฯ พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่และภาคีเครือข่าย เข้าร่วมงาน

ทั้งนี้ภายในงานมีการจัดแสดงนิทรรศการสรุปผลงานเด่นตลอด 23 ปี พิธีมอบรางวัลเชิดชูเกียรติแก่ข้าราชการพลเรือนดีเด่น ผู้ปฏิบัติงานดีเด่น และผู้ช่วยเหลือราชการกรมอุทยานฯ ประจำปี 2567 รวมถึงการมอบเครื่องหมายเชิดชูเกียรติ “พิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้”

นายสุชาติ กล่าวว่า ตลอด 23 ปีที่ผ่านมา กรมอุทยานฯ ได้ทำหน้าที่ปกป้องดูแลพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของประเทศไว้ได้อย่างดีเยี่ยม โดยรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ถือเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาประเทศ

ช่วง 4 เดือนระยะสั้น ตนเองจะเดินหน้าโครงการที่จับต้องได้ และดูแลขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ สวัสดิการต่าง ๆ การใช้ระบบ E-Tracking ที่โปร่งใส ตรวจสอบได้

นอกจากนี้ รมว.ทส.ยังได้เน้นย้ำและมอบ 8 แนวทางการทำงานหลัก แก่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ดังนี้ การอนุรักษ์และปกป้องพื้นที่ป่า น้อมนำแนวพระราชดำริมาเป็นหลักในการจัดการ พร้อมใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มประสิทธิภาพการลาดตระเวนและการบริหารจัดการพื้นที่, ป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ ให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงาน ติดตั้งระบบเตือนภัย และใช้พื้นที่ป่าเป็นแนวกันชนทางธรรมชาติ

การป้องกันและควบคุมไฟป่า โดยการจัดการเชื้อเพลิงก่อนฤดูไฟ และปรับยุทธวิธีเป็นการตรึงกำลังที่จุดเฝ้าระวัง รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้เผาป่า, ฟื้นฟูพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพการอนุรักษ์ดินและน้ำ ลดความเสี่ยงอุทกภัยและดินถล่ม และช่วยเพิ่มการกักเก็บคาร์บอน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ

ส่งเสริมเศรษฐกิจจากนิเวศบริการ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยเน้นการจัดทำมาตรการควบคุมในพื้นที่เปราะบาง และนำเทคโนโลยีมาช่วยเรื่องการจัดเก็บเงินรายได้ให้เกิดความโปร่งใส, แก้ไขปัญหาช้างป่าและสัตว์ป่า บูรณาการความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่เพื่อเป็นเครือข่ายเฝ้าระวัง พร้อมมีมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบอย่างรวดเร็ว

พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ เร่งรัดการจัดระเบียบการอยู่อาศัยให้ถูกต้องตามกฎหมาย และส่งเสริมการถ่ายทอดองค์ความรู้ เพื่อให้ประชาชนเป็นกำลังสำคัญในการดูแลทรัพยากรป่าไม้ และดูแลขวัญและกำลังใจเจ้าหน้าที่ จัดให้มีสวัสดิการและมาตรการสนับสนุนที่เหมาะสม เพื่อเสริมพลังในการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ

ด้านนายอรรถพล กล่าวว่า กรมอุทยานฯ มีวิสัยทัศน์คุ้มครอง ฟื้นฟู ป่าอนุรักษ์ให้มีความสมบูรณ์ เพื่ออำนวยประโยชน์ร่วมกันอย่างยั่งยืน และได้ดำเนินภารกิจสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการสนองงานโครงการพระราชดำริกว่า 178 โครงการ, การแก้ไขปัญหาที่ดินราษฎรในเขตป่าอนุรักษ์ตามกฎหมายใหม่, การรักษาและเพิ่มพื้นที่ป่าเพื่อเป็นแหล่งดูดกลับคาร์บอนสำคัญของประเทศ, และการใช้เทคโนโลยีในการปกป้องรักษาทรัพยากร

กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะยังคงยืนหยัดในภารกิจองค์กรแห่งการอนุรักษ์ พิทักษ์ คุ้มครอง ป้องกัน และฟื้นฟูของผืนป่าอนุรักษ์ไทย ส่งเสริมสร้างสมดุลให้คนกับป่า อยู่ร่วมกันได้อย่างเกื้อกูล เกิดเป็นความยั่งยืนอย่างสูงสุด เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติคงอยู่เป็นมรดกแห่งความอุดมสมบูรณ์ให้แก่คนรุ่นต่อไปอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

อ่านข่าว : “ชีวะภาพ” ห่วงร่างกฎหมาย “นิรโทษกรรมคดีรุกป่า” เอื้อประโยชน์นายทุน 

ลูกช้างป่า "ข้าวต้ม" ฝึกหัดเดินโดยใช้นั่งร้าน-จนท.ช่วยพยุงตัว 

"ช้างป่าแก่งดินสอ" ทำร้ายชาวบ้านอายุ 79 ปีเสียชีวิต