ทั่วโลกได้เห็นความตระการตาของสะพานฮวาเจียง หรือ ฮวาเจียงแกรนด์แคนยอนด์ (Huajiang Grand Canyon Bridge) เจ้าของสถิติสะพานแขวนสูงสุดในโลกไปแล้ว ด้วยความสูง 625 เมตร ที่เทียบได้ว่าสูงกว่าสะพานโกลเดนเกต 9 เท่า ถือเป็นการทุบสถิติของตนเอง หลังจากปี 2016 จีนเคยสร้างสะพานตู้เก๋อที่มีความสูง 565 เมตรมาแล้ว ห่างออกไปจากสะพานแชมป์แห่งใหม่ราว 200 กิโลเมตร ในมณฑลกุ้ยโจว ซึ่งเป็นมณฑลเดียวกันกับที่ตั้งสะพานฮวาเจียง
เพียง 3 ปี นับจากโครงสร้างใหญ่ชิ้นแรก หนักถึง 215 ตันถูกดึงขึ้นไปประกอบโครงสร้าง สะพานเหล็กทั้งหมดก็ค่อย ๆ ถักทอขึ้นด้วยเหล็กที่เป็นโครงสร้างหลัก ในทางการก่อสร้างเรียกว่าเหล็กถัก ที่จะต้องแข็งแกร่ง ทนทาน รับน้ำหนัก แรงสั่นสะเทือน ความสั่นไหว เพราะต้องไม่ลืมว่านี่คือสะพานแขวนที่ลอยเหนือจากพื้นล่างที่เป็นหุบลึกหรือโกรกธาร มีแม่น้ำเป่ยผานอยู่เบื้องล่าง

ความยากอีกอย่างที่มีนัยสำคัญคือ “ไม่มีสลิงที่ใหญ่มากพอสำหรับสะพานที่สูงที่สุดในโลก” ทำให้นายช่างจีนต้องทำงานถักสลิงอยู่ท่ามกลางความสูง จนเกิดสะพานที่กล่าวขานได้ว่าเป็นที่ที่เป็นที่สุดของโลกใบนี้ได้
สถิติน่าทึ่งของสะพานฮวาเจียง 9,000 ล้านบาท สร้างเสร็จใน 3 ปี
การเก็บบันทึกสถิติการสร้างสะพานฮวาเจียง มีมาก่อนการเปิดใช้อย่างเป็นทางการ ไม่ว่าจะเป็นความยาว 2,890 เมตร กลางสะพานหลักยาว 1,420 เมตร ทำให้โครงการนี้กลายเป็นสะพานแขวนแบบโครงสร้างเหล็กถักที่มีช่วงสะพานยาวที่สุดในโลกที่สร้างบนพื้นที่ภูเขา ด้วยมูลค่าการก่อสร้าง 2,000 ล้านหยวน หรือราว 9,000 ล้านบาท ด้วยเวลาเพียง 3 ปี สร้างสะพานพาดข้ามโกรกธารฮวาเจียง หรือแกรนด์แคนยอนฮวาเจียง เจ้าของฉายา “รอยแยกที่สวยที่สุดบนโลก”
ทั้งโครงการใช้เหล็กกว่า 22,000 ตัน ซึ่งปัจจุบันถือว่าเป็นเหล็กในยุคปฏิรูปเศรษฐกิจของจีน ปลายศตวรรษที่ 20 โดย “เติ้ง เสี่ยวผิง” อดีตผู้นำสูงสุดของจีนและรัฐบุรุษ ใช้อำนาจนำพาประเทศจีนสูงการปฏิรูปและเปิดประเทศ อันเป็นยุคที่ทำให้อุตสาหกรรมเหล็กได้รับการปรับปรุงอย่างมีนัยสำคัญ เกิดการลงทุนจากต่างประเทศ มีเทคโนโลยีใหม่ และการเปิดตลาดการค้า

นอกจากนี้ยังช่วยให้การผลิตเหล็กเพิ่มขึ้นอย่างมีคุณภาพและรวดเร็ว ปฏิรูปเหล็กที่มีปัญหาคุณภาพในห้วงสงครามกลางเมืองจีน ซึ่งตอนนั้นเน้นการผลิตเหล็กเช่นกัน ทำให้ถูกบันทึกอยู่ในพัฒนาการประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมเหล็กจีน ซึ่งที่จริงย้อนไปได้หลายพันปี สมัยราชวงศ์ฮั่น ที่การหลอมเหล็กเริ่มมีบทบาทด้านการเกษตรและการสงคราม แต่หากนับอุตสาหกรรมเหล็กสมัยใหม่ของจีน ต้องนับจากการเริ่มพัฒนาปลายศตวรรษที่ 19 ที่ได้รับอิทธิพลจากเทคโนโลยีตะวันตก
เปิดใช้งาน “สะพานฮวาเจียง” อย่างเป็นทางการ
ช่วงเวลาของพิธีเปิดสะพานฮวาเจียงอย่างเป็นทางการ เกิดขึ้นในวันที่ 28 ก.ย.2568 ตามที่ทางการจีนเคยให้ข่าวสารกับสื่อจีนก่อนหน้านี้ว่า จะเปิดใช้งานได้ในช่วงกลางปี 2568 ซึ่งก่อนเปิดใช้งานได้ทดสอบการรับน้ำหนักของสะพานมาก่อน ด้วยการใช้รถบรรทุก 96 คัน รวมน้ำหนักกว่า 3,000 ตัน เข้าไปในพื้นที่ที่กำหนดบนตัวสะพาน ในลักษณะเป็นชุด ๆ เพื่อวัดการขยับและแรงกดในส่วนช่วงสะพานหลัก เสา สายเคเบิล และสายแขวน เพื่อทดสอบขีดความสามารถสูงสุดของโครงสร้างสะพานภายใต้การใช้งานปกติ

เน้นการติดตามการขยับของเสาหลักบน 2 ฝั่ง การงอที่ฐานเสาและแรงดึงสูงสุดในสายเคเบิลของช่วงยึดสะพาน ใช้เวลาทดสอบ 5 วัน โดยในวันเปิดสะพานอย่างเป็นทางการ มีคณะผู้บริหารของมณฑลกุ้ยโจว นำโดยนายไช่ เฉาหลิน รองผู้ว่าราชการมณฑลกุ้ยโจวแห่งรัฐบาลประชาชน มณฑลกุ้ยโจว และนายหลู หยงเจิ้ง สมาชิกคณะกรรมการประจำพรรคคอมมิวนิสต์จีนมณฑลกุ้ยโจว และหัวหน้าสำนักงานประชาสัมพันธ์ พรรคคอมมิวนิสต์จีนมณฑลกุ้ยโจว ร่วมพิธี
พร้อมกล่าวถึงความมั่นใจในความมั่นคงแข็งแรง แสดงถึงความก้าวหน้าในทางวิศวกรรมที่น่าทึ่งของจีนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานขนาดมหึมา ท่ามกลางพื้นที่ภูเขาสูงชันและหุบเขาลึก ที่ถือว่าไม่ใช่แค่การสร้างสะพานแต่เป็นการสร้างอนาคตของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวให้กับมณฑลกุ้ยโจว
สะพานฮวาเจียงย่นเวลาเดินทางจาก 2 ชั่วโมงเหลือ 2 นาที
การเดินทางด้วยระยะเวลาที่น้อยลงไปอย่างชัดเจน จาก 2 ชั่วโมงกว่า ๆ เหลือเพียง 2 นาที ในทันทีที่เปิดใช้สะพานฮวาเจียง คือสิ่งที่ทำให้ประชาชนที่เดินทางข้ามสะพานด้วยรถยนต์ ลดเวลาการเดินทางได้มากหลายเท่าตัว และลดการใช้พลังงานจากรถยนต์ ประหยัดน้ำมันได้อีกมาก

ขณะที่การวางโครงข่ายเส้นทางถนนของจีน เป็นการเชื่อมระหว่างมณฑล จากที่เคยต้องขับรถอ้อมไปยังเส้นทางเก่า ซึ่งอ้อมไกลจากหุบเขาลึก ก็สามารถข้ามสะพานได้อย่างรวดเร็ว
ในเรื่องนี้ “เฉา จิง” นายกสมาคมพรรคและผู้จัดการทั่วไป บริษัท พัฒนาและท่องเที่ยวภูมิทัศน์กุ้ยโจว จำกัด ในฐานะประธานบริษัท การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงบูรณาการสะพานฮวาเจียงกุ้ยโจว จำกัด ให้ข้อมูลว่า การเปิดสะพานเป็นการเริ่มต้นการพัฒนาการท่องเที่ยว เนื่องจากสะพานแห่งนี้เชื่อมต่อระหว่าง 2 พื้นที่คือ เมืองอันซุ่น และอำเภอกว้านหลิง มณฑลชานซีหนาน ช่วยให้พื้นที่ใกล้เคียงถูกวางแผนพัฒนาเป็นเขตการท่องเที่ยวแบบบูรณาการทั้งบนและใต้สะพาน

บนจุดสูงสุดได้ออกแบบให้มีร้านกาแฟ สร้างโดยบริษัทท้องถิ่นของมณฑลกุ้ยโจว ร่วมกับแบรนด์กาแฟระดับโลก เพื่อสร้างประสบการณ์ดื่มกาแฟบนสะพานสูงสุดของโลก สูงกว่าพื้นน้ำเป่ยผานที่อยู่เบื้องล่างถึง 800 เมตร และกีฬาเอ็กซ์ตรีม เช่น บันจีจัมป์ จากความสูงกว่า 500 เมตร มากกว่าการกระโดดบันจีจัมป์ที่ Bloukrans Bridge คือสะพานที่สูง กับความสูง 216 เมตร นี่เป็นสิ่งที่ผู้บริหารด้านการท่องเที่ยวจีนกำลังสื่อว่า สะพานฮวาเจียงสำคัญต่อการท่องเที่ยวจีนในอนาคต
“คนไทย” กลุ่มแรก ร่วมพิธีเปิดสะพานฮวาเจียง
บรรยากาศในพิธีเปิดสะพานค่อนข้างเรียบง่าย มีการแสดงสื่อวัฒนธรรมของมณฑลกุ้ยโจว ที่นับว่าอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีชนเผ่าท้องถิ่นอาศัยอยู่อย่างกลมกลืน มีสื่อจากที่ต่าง ๆ ทั้งสื่อจีน ฮ่องกง และไทยไปร่วมงาน

องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย หรือสถานีโทรทัศน์ Thai PBS เป็นองค์กรสื่อแห่งเดียวจากประเทศไทย ได้รับเชิญไปร่วมพิธีเปิดและถ่ายทอดภาพสำคัญในวันนั้น ในฐานะแขกของรัฐบาลท้องถิ่นและสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์กุ้ยโจว พร้อมกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวอีก 9 แห่งและอินฟลูเอนเซอร์ด้านการท่องเที่ยว รวม 21 คน ได้รับเชิญไปในงานในฐานะคนไทยกลุ่มแรกที่ไปเยือนสะพานฮวาเจียง โดยจัดทำเป็นโครงการ “Bond of Friendship in Natural Landscape and Works of Video and Audio – International Youth Traditional Villages Travel”
หลายเสียงของผู้ประกอบการไทยสะท้อนว่า ความสูงที่สุดในโลกของสะพานแขวนแห่งนี้ น่าจะเป็นจุดดึงดูดสำคัญ จากเส้นทางท่องเที่ยวกุ้ยโจวที่กำลังเปิดเส้นทางใหม่ ๆ ออกจากเมืองหลวง “กุ้ยหยาง” (Guiyang) จากเดิมที่กุ้ยโจวเป็นพื้นที่ภูเขานับล้านลูก สลับสันเขา ที่ราบสูงและลำธาร ที่นี่มีน้ำตกและหุบเขาตระการตา มีแหล่งท่องเที่ยวที่นิยม เช่น เสี่ยวชีคง หรือสะพานเจ็ดช่อง มีภูเขาฝานจิ้ง และน้ำตกหวงกั่วซู่ หนึ่งในน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก

รวมถึงวัฒนธรรมชนเผ่าอย่าง ชนเผ่าม้ง ชนเผ่าต่ง และชนเผ่าปู้ยี ที่อยู่ในแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวแลนด์มาร์คใหม่ “สะพานฮวาเจียง” ซึ่งที่นี่มีแคมป์ธรรมชาติ ออกแบบจุดชมวิวพร้อมน้ำตก ให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสทัศนียภาพของธรรมชาติและชมทิวเขาทอดยาวอันเกิดจากรอยแยกของโลก เชื่อมกับการท่องเที่ยว หมู่บ้านชนเผ่าปู้ยีของท้องถิ่น ซึ่งทางการจีนมุ่งหวังสืบสานวัฒนธรรมดั้งเดิม ช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนและเรียนรู้วัฒนธรรมมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่น
ความหวังด้านการท่องเที่ยวจีนที่แสดงผ่านไปกับพิธีเปิดสะพาน เชื่อมโยงถึงวิสัยทัศน์และความกล้าลงทุน แม้กับพื้นที่กุ้ยโจวที่เคยเป็นพื้นที่ห่างไกล รายได้ของประชากรต่ำ วัด GDP ต่อหัวเคยรั้งท้ายจาก 31 มณฑลในเขตจีน แต่ในที่สุดก็ขยับขึ้นแซงหน้ามณฑลอื่น ส่วนภูเขาที่เคยเป็นอุปสรรคกั้นขวางการคมนาคม ก็เปลี่ยนโฉมหน้ามาสู่ภูมิทัศน์ท่องเที่ยวอย่างน่าจับตามอง
น้ำอ้อย บุลสถาพร ผู้สื่อข่าว ศูนย์สื่อศิลปวัฒนธรรม
อ่านข่าว
"เชื่อในสิ่งที่อยากเล่า" สู่หนังแห่งปีของ 4 ผู้กำกับรุ่นใหม่
ศิลปะบนกีตาร์ของ "บอม สินเจริญ" แฟมิลี่ แต้มสีสันเล่างานศิลป์
เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ 2568 เชื่อมต่อคนทำหนังกับนักลงทุนทั่วโลก