วันนี้ (4 ต.ค.2568) สถานการณ์การเมืองสหรัฐฯ ตึงเครียดหนัก เมื่อรัฐบาลกลางยังคงเผชิญภาวะชัตดาวน์ หรือการปิดการดำเนินงานชั่วคราว หลังจากร่างแผนฟื้นฟูงบประมาณที่พรรครีพับลิกันเสนอ ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเพียงพอในวุฒิสภา ผลการลงมติล่าสุดอยู่ที่ 54 ต่อ 44 เสียง ซึ่งไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ 60 เสียงตามกฎ ทำให้รัฐบาลต้องหยุดกิจกรรมหลายส่วนอย่างน้อยจนถึงวันจันทร์หน้า
ภาวะชัตดาวน์นี้เริ่มมาตั้งแต่วันพุธตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ (1 ต.ค.2568) หลังวุฒิสภาที่มีสมาชิกพรรครีพับลิกันเป็นเสียงข้างมาก 53 เสียง ล้มเหลวในการผ่านร่างงบประมาณ เนื่องจากขาดเสียงสนับสนุนจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย ส่งผลให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางนับแสนคนต้องพักงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน และบริการสาธารณะหลายอย่างถูกระงับชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานสำคัญ ๆ ยังคงทำงานได้ตามปกติภายใต้กฎหมายพิเศษ เช่น หน่วยงานด้านความมั่นคง ป้องกันประเทศ การจราจรทางอากาศ และสาธารณสุข ซึ่งได้รับงบประมาณล่วงหน้า แต่สำหรับหน่วยงานที่ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน เจ้าหน้าที่จะถูกสั่งหยุดงานชั่วคราวและไม่มีเงินเดือน จนกว่ารัฐสภาจะหาทางออกได้ ชาวอเมริกันหลายล้านคนอาจได้รับผลกระทบทางอ้อม เช่น การชะลอโครงการสาธารณะหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลกลาง
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐฯ เจอปัญหานี้ ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อเกือบ 7 ปีก่อน หรือปลายปี 2561 ยืดเยื้อถึง 35 วัน สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่จำนวนมาก ตอนนั้นเกิดจากความขัดแย้งเรื่องงบประมาณกำแพงชายแดนเม็กซิโกที่ทรัมป์ผลักดัน และตอนนี้ปัญหาก็คล้ายกัน คือความชะงักงันระหว่าง 2 พรรคใหญ่ โดยรีพับลิกันที่ครองเสียงข้างมากในวุฒิสภา ถูกกล่าวหาว่าจัดการงบประมาณไม่ดีพอ
ขณะที่ชาวอเมริกันมีความเห็นแตกต่างกันเกี่ยวกับวิกฤตนี้ ผลสำรวจล่าสุดจากเดอะ วอชิงตัน โพสต์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 ต.ค.2568 พบว่าชาวอเมริกันถึงร้อยละ 47 โทษความผิดพลาดไปที่พรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ขณะที่ร้อยละ 30 โทษพรรคเดโมแครตที่เป็นฝ่ายค้าน อีกร้อยละ 23 ไม่เห็นด้วยกับทั้ง 2 ฝ่าย โพลนี้ทำจากกลุ่มตัวอย่างกว่า 1,000 คนทั่วประเทศ แสดงให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ไม่พอใจกับรีพับลิกันที่นำโดย ปธน.ทรัมป์ ซึ่งเพิ่งชนะเลือกตั้งปี 2567 กลับมาบริหารประเทศ
นักวิเคราะห์การเมืองชี้ว่าปัญหานี้มาจากความแตกแยกภายในรีพับลิกันเอง โดยสมาชิกสายอนุรักษ์นิยมสุดโต่งไม่ยอมรับร่างงบที่ตัดลดน้อยเกินไป ขณะที่เดโมแครตยืนกรานให้เพิ่มงบด้านสวัสดิการสังคมและสิ่งแวดล้อม ประธานวุฒิสภา ชัค ชูเมอร์ จากเดโมแครต กล่าวหาว่ารีพับลิกัน "เล่นการเมืองมากเกินไป" และเรียกร้องให้หาทางออกด่วนเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบรุนแรงขึ้น
ด้านทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า กำลังเร่งเจรจากับผู้นำรัฐสภาเพื่อหาข้อตกลงชั่วคราว โดยคาดว่าจะมีร่างงบใหม่เสนอในวันศุกร์นี้ แต่ถ้าล้มเหลวอีก ชัตดาวน์อาจยืดเยื้อเกินสัปดาห์ สร้างความกังวลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดัชนีดาวโจนส์ร่วงร้อยละ 1.2 เมื่อวานนี้จากความไม่แน่นอน
ชาวอเมริกันหลายคนแสดงความเห็นบนโซเชียลมีเดีย เช่น X ว่า "พอแล้วกับการเมืองเด็ก ๆ รีพับลิกันต้องรับผิดชอบ" ขณะที่บางส่วนปกป้องรีพับลิกัน โดยชี้ว่าเดโมแครตจงใจขัดขวาง แต่วิกฤตนี้ย้ำเตือนถึงความเปราะบางของระบบการเมืองสหรัฐฯ ที่พึ่งพาการลงมติเกณฑ์สูงในการผ่านงบประมาณ
หากการชัตดาวน์ยืดเยื้อเกิน 10 วัน อาจกระทบเศรษฐกิจหนักขึ้น เช่น GDP หดตัวร้อยละ 0.1-0.2 และเพิ่มภาระให้ครอบครัวเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีรายได้ รัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งเริ่มเตรียมช่วยเหลือ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าปัญหานี้จะไม่จบง่าย หากสองพรรคไม่ยอมประนีประนอม สถานการณ์นี้จึงเป็นบททดสอบใหญ่สำหรับรีพับลิกันในสมัยทรัมป์รอบ 2
อ่านข่าวอื่น :
ฮามาสรับแผนสันติภาพทรัมป์ ยอมปล่อยตัวประกัน แลกหยุดยิงกาซา
วันเกิด "เนวิน" 67 ปี คึกคักชื่นมื่น "อนุทิน"- รมต.ใหม่อวยพรถ้วนหน้า