ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปิดไทม์ไลน์ปล้นทองกลางห้างสุไหงโก-ลก กวาด 600 บาท

ภูมิภาค
19:25
208
เปิดไทม์ไลน์ปล้นทองกลางห้างสุไหงโก-ลก กวาด 600 บาท
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงเหตุปล้นร้านทอง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ขณะที่ แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งหน่วยกำลังในพื้นที่เข้าช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมให้หน่วยกำลังทุกหน่วยเข้ากดดันเต็มพื้นที่ พร้อมประณามการกระทำหวังนำทรัพย์เป็นท่อน้ำเลี้ยงกลุ่มขบวนการ

วันนี้ (6 ต.ค.2568) พ.อ.ยุทธนาม เพชรม่วง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ชี้แจงเหตุผู้ก่อเหตุไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด บุกปล้นร้านทองภายในห้างสรรพสินค้า อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 5 ต.ค.2568

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 5 ต.ค.2568 เวลาประมาณ 18.29 น. ผู้ก่อเหตุไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ปล้นร้านทองภายในห้างสรรพสินค้า อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน คือ ส.อ.บุริศวร์ ระดาชัย สังกัดหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ขณะพยายามนำอาวุธประจำกายจากรถยนต์ของตนเองเข้าขัดขวาง เบื้องต้นได้นำส่งผู้บาดเจ็บไปรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ซึ่งอาการล่าสุดพ้นขีดอันตรายแล้ว

พล.ท.นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ขอแสดงความเสียใจต่อผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ที่ประกอบการที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากเหตุการณ์ของกลุ่มผู้ไม่หวังดี

ไล่ไทม์ไลน์ปล้นร้านทอง

จากการตรวจสอบมีเหตุการณ์ต่อเนื่องอีกหลายเหตุการณ์ พบว่า เวลา 18.30 น. เจ้าหน้าที่ อส. รายงานพบวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายถังแก๊ส ขนาด 15 กิโลกรัม วางไว้บริเวณจุดกลับรถหน้าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสุไหงโก-ลก

เวลา 18.33 น. พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยสวมหมวกคลุมศีรษะ ซึ่งคาดว่าเป็นผู้วางวัตถุดังกล่าวและยิงปืนขึ้นฟ้า สร้างสถานการณ์หวาดกลัว

เวลา 18.36 น. เกิดเหตุปล้นร้านทองภายในห้างสรรพสินค้า ผู้ก่อเหตุชิงทองคำไปได้จำนวนหนึ่ง

เวลา 18.47 น. ส.อ.บุริศวร์ ถูกยิงจากอาวุธปืนพกและอาวุธปืนขนาด 5.56 มม. ขณะพยายามนำอาวุธประจำกายจากรถยนต์ของตนเองเข้าขัดขวาง

เวลา 18.55 น. รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดบริเวณทางรถไฟโต๊ะลือเบ เขตเทศบาลสุไหงโก-ลก

เวลา 19.45 น. เกิดเหตุระเบิดอีกครั้งในพื้นที่ชุมชนเคหะ เขตเทศบาลสุไหงโก-ลก

เจ้าหน้าที่ตรวจพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดแสวงเครื่อง บริเวณจุดกลับรถหน้าห้างสรรพสินค้า รวมทั้ง ตะปูเรือใบ วางตามถนนหลายจุด ซึ่งคาดว่าถูกใช้เพื่อสกัดการติดตามของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นได้ปิดกั้นพื้นที่และประสานหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) เข้าดำเนินการอย่างเร่งด่วน

สำหรับยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ คาดว่าทำการปล้นรถยนต์จากพื้นที่ ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส และขับมาก่อเหตุในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก

โดยเมื่อเวลา 19.20 น. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่าเกิดเหตุปล้นรถยนต์ในพื้นที่ จำนวน 2 คัน คือ

- คันที่ 1 เป็นรถยนต์ในพื้นที่ ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เหตุเกิดเวลาประมาณ 17.00 น.
- คันที่ 2 เป็นรถยนต์กระบะ เหตุเกิดเวลาประมาณ 17.20 น.

ความคืบหน้าล่าสุดเจ้าหน้าที่ ตรวจพบรถต้องสงสัยดังกล่าว จำนวน 2 คัน จอดทิ้งไว้บริเวณบ้านตอออ หมู่ที่ 1 ต.กายูคละ อ.แว้ง จ.นราธิวาส

เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการควบคุมพื้นที่เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับพี่น้องประชาชน พร้อมทั้งประสานชุด EOD เก็บกู้วัตถุระเบิด และชุดเก็บพยานหลักฐานเข้าดำเนินการตามกระบวนการต่อไป

มทภ.4 สั่งเร่งติดตามผู้ก่อเหตุ-เพิ่มความเข้มแนวชายแดน

พล.ท.นรธิป ได้สั่งการให้หน่วยกำลังในพื้นที่ ทั้งพลเรือน ตำรวจ และทหาร เข้าช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ หน่วยกำลังทุกหน่วยเข้ากดดันเต็มพื้นที่ ทั้งในพื้นที่ป่าเขา และในเขตเมือง ปฏิบัติตามแผนป้องกันเมืองเศรษฐกิจ ในระดับเตรียมพร้อม 100%

และเน้นย้ำหน่วยป้องกันชายแดน เพิ่มความเข้มการปฏิบัติตามแนวชายแดน ไทย-มาเลเซีย เพื่อป้องกันการหลบหนี เพ่งเล็งยานพาหนะที่ก่อเหตุ บุคคลต้องสงสัย รวมถึงเส้นทางที่อาจใช้ในการหลบหนี

ตลอดจนประสานขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านในการติดตามผู้ก่อเหตุ และรวบรวมหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงการติดตามทางกล้องวงจรปิด เพื่อบังคับใช้กฎหมายต่อไป

เหตุการณ์ในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการสร้างสถานการณ์เท่านั้น แต่ยังสะท้อนเจตนาที่ชัดเจนของผู้ก่อเหตุในการใช้ความรุนแรงเพื่อหวังประโยชน์ทางการเงิน เพื่อมาหล่อเลี้ยงกลุ่มขบวนการของตน โดยมิได้คำนึงถึงความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและระบบเศรษฐกิจในพื้นที่

ซึ่งจากการตรวจสอบและวิเคราะห์พฤติกรรมย้อนหลัง พบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้การปล้น ลักทรัพย์ และจี้ชิงทรัพย์เพื่อนำเงินมาใช้ในการก่อเหตุรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการจัดซื้ออาวุธ วัสดุประกอบระเบิด ยานพาหนะเพื่อทำระเบิด และใช้ในการก่อเหตุร้าย

โดยที่ผ่านมาเคยเกิดเหตุลักษณะต่อระบบเศรษฐกิจ เช่น ปล้นตู้ ATM หลายจุดในวันเดียว เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2568 , ปล้นห้างทอง มูลค่ากว่า 60 ล้านบาท ในพื้นที่ อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2562

และลักษณะการก่อเหตุต่อที่ว่าการอำเภอตากใบ ซึ่งรูปแบบการก่อเหตุเป็นลักษณะเดียวกัน คาดว่าเป็นการกระทำของกลุ่ม BRN สิ่งบอกเหตุแสดงว่ากลุ่มขบวนการขาดเงินทุนในการก่อเหตุ เป็นผลจากการที่เจ้าหน้าที่ เข้าดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเส้นทางการเงินซึ่งเป็นท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มขบวนการ อาทิ ภัยแทรกซ้อนที่ผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด สินค้าที่ผิดกฎหมาย และ น้ำมันเถื่อน ซึ่งเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มขบวนการ

จึงเป็นสิ่งบ่งชี้ว่ากลุ่มขบวนการดังกล่าว มิได้กระทำตามอุดมการณ์ที่อ้างต่อพี่น้องประชาชน เป็นเพียงกลุ่มซึ่งกระทำทุกอย่างเพียงประโยชน์ของกลุ่มตนเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนและระบบเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอประณามการกระทำเยี่ยงดังกล่าว ซึ่งส่งผลต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน รวมถึงการไม่คำนึงปากท้องของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ

และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องดูแลพื้นที่หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัยหรือวัตถุต้องสงสัยหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการติดตามผู้ก่อเหตุ สามารถแจ้งเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. โทร.1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจใกล้บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง และย้ำว่า ผู้สนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการให้ที่พักพิง ซ่อนตัว หรือจัดหาเสบียง ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 อาจถูกจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อ่านข่าว : 

ปล้นร้านทองสุไหงโก-ลก อาจเชื่อมโยงกลุ่มก่อการร้าย 3 จว.ใต้

อัปเดตปล้นร้านทอง! คนก่อเหตุแบ่ง 3 ทีม กวาดทองคำไป 600 บาท 35.6 ล้าน

พบรถผู้ก่อเหตุปล้นร้านทอง อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส