วันนี้ (8 ต.ค.2568) BBC รายงาน เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ในเมียนมา โดยอ้างว่ากองทัพรัฐบาลทหารใช้ร่มร่อนติดเครื่องยนต์ทิ้งระเบิด 2 ลูกใส่ฝูงชน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 คน บาดเจ็บ 47 คน โฆษกรัฐบาลพลัดถิ่นแจ้งต่อ BBC Burmese ว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเย็นวันจันทร์ที่ 6 ต.ค. ขณะที่ประชาชนราว 100 คนรวมตัวในอำเภอจองอู กลางพม่า เพื่อเฉลิมฉลองวันหยุดชาติและประท้วงต่อต้านรัฐบาลทหาร
ตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจในปี 2564 สงครามกลางเมืองระหว่างกองทัพกับกลุ่มต่อต้านติดอาวุธและชาวต่างชาติได้คร่าชีวิตผู้คนนับพันราย และทำให้ประชาชนนับล้านต้องพลัดถิ่น หลังจากสูญเสียการควบคุมพื้นที่กว่าครึ่งหนึ่งของประเทศ กองทัพกำลังรุกคืบกลับมาอีกครั้ง ด้วยแคมเปญโจมตีทางอากาศและระเบิดหนักที่โหดร้ายยิ่งขึ้น ภูมิภาคสะกาย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ถูกโจมตี ถือเป็นสมรภูมิหลัก โดยส่วนใหญ่ถูกควบคุมโดยกองกำลังป้องกันประชาชน (PDF) ที่ตั้งขึ้นหลังรัฐประหาร เพื่อต่อสู้กับรัฐบาลทหาร
เจ้าหน้าที่ PDF ในท้องถิ่นแจ้ง BBC Burmese ว่า พวกเขาได้รับแจ้งล่วงหน้าถึงความเสี่ยงโจมตีทางอากาศระหว่างการชุมนุม จึงพยายามยุติกิจกรรมให้เร็ว แต่ร่มร่อนของกองทัพมาถึงเร็วกว่าคาด "ทุกอย่างเกิดขึ้นใน 7 นาที" พร้อมเล่าว่าอาการบาดเจ็บที่ขาจากระเบิดทำให้เขารอดตาย แต่คนใกล้เคียงเสียชีวิตทันที ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์บอกว่า ยากที่จะจำแนกศพหลังจากเกิดเหตุ
องค์การนิรโทษกรรมระหว่างประเทศ (Amnesty International) ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ระบุว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของ "แนวโน้มที่น่าตกใจ" ที่กองทัพใช้ร่มร่อนโจมตีชุมชน BBC Burmese รายงานก่อนหน้านี้ว่ากองทัพหันมาใช้อาวุธนี้มากขึ้น เนื่องจากขาดเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์จากมาตรการคว่ำบัญชาการค้าของนานาชาติ
แต่เทคโนโลยีโดรนขั้นสูงและอาวุธจากจีนและรัสเซีย ยังช่วยให้กองทัพได้เปรียบในสนามรบตามที่นักวิเคราะห์ชี้ โจ ฟรีแมน นักวิจัยเมียนมาของ Amnesty กล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้ "ควรเป็นสัญญาณเตือนร้ายแรง" ที่ชาวเมียนมาต้องการการปกป้องด่วน และเรียกร้องให้อาเซียน เพิ่มแรงกดดันต่อกองทัพ และปรับแนวทางที่ล้มเหลวมาตั้งแต่ 5 ปีก่อน
การชุมนุมจุดเทียนครั้งนี้จัดขึ้นอย่างสันติ เพื่อประท้วงนโยบายเกณฑ์ทหารของกองทัพ การเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะมาถึง และเรียกร้องปล่อยนักโทษการเมือง รวมถึงอองซาน ซู จี ทั้งนี้ รัฐบาลทหารเมียนมา กำหนดให้มีการเลือกตั้งในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่รัฐประหาร แต่ถูกวิจารณ์จากนานาชาติว่าไม่เสรีและยุติธรรม เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านหลายพรรคถูกแบน และการลงคะแนนจะเกิดขึ้นได้เพียงครึ่งของประเทศ เนื่องจากพื้นที่รบที่ยังเดือดพล่าน
อ่านข่าวอื่น :
"วันนอร์" นัด 14-15 ต.ค.ถกแก้ รธน. - "ภราดร" เชื่อทันกรอบ
ไวรัลคลิป AI "คนแบกช้าง" ว่อนเน็ต ผู้เชี่ยวชาญเตือนอย่าหลงเชื่อ