ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ไวรัลคลิป AI "คนแบกช้าง" ว่อนเน็ต ผู้เชี่ยวชาญเตือนอย่าหลงเชื่อ

สังคม
16:21
3,627
ไวรัลคลิป AI "คนแบกช้าง" ว่อนเน็ต ผู้เชี่ยวชาญเตือนอย่าหลงเชื่อ
อ่านให้ฟัง
06:05อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)
คลิปวิดีโอชายแบกลูกช้างเอเชียไว้บนหลัง ขณะข้ามถนนในกรุงเทพฯ กลายเป็นไวรัลบน TikTok และเฟซบุ๊ก มีผู้ชมจำนวนมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าเป็นผลงาน AI สร้างขึ้นเพื่อยอดวิว ท่ามกลางข้อถกเถียงเรื่องความจริงและผลกระทบต่อสังคมออนไลน์

วันนี้ (8 ต.ค.2568) คลิปวิดีโอสั้นบนแพลตฟอร์ม TikTok ที่โชว์ภาพชายร่างเล็กกำลังแบกลูกช้างเอเชีย ไว้บนหลัง ขณะยืนรอสัญญาณไฟจราจรบนถนนย่านใจกลางกรุงเทพฯ ท่ามกลางรถยนต์และผู้คนพลุกพล่าน กลายเป็นกระแสไวรัลในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมียอดวิวทะลุหลักล้านครั้ง และถูกแชร์ต่อบนเฟซบุ๊กอย่างรวดเร็ว

คลิปดังกล่าวมาพร้อมแคปชั่นภาษาไทยที่ดูเหมือนจริง เช่น "ลูกช้างหลงทาง" "พี่ช่วยแบกข้ามถนน" "คนแบกช้าง" สร้างความฮือฮาและเสียงหัวเราะจากผู้ชมจำนวนมาก แต่ในขณะเดียวกัน ก็จุดประกายข้อถกเถียงรุนแรงระหว่างผู้ที่เชื่อว่าเป็นเหตุการณ์จริง กับผู้ที่สงสัยว่าเป็นภาพปลอมจากปัญญาประดิษฐ์ (AI)

ต้นกำเนิดของคลิปยังคงเป็นปริศนา แม้จะมีผู้พยายามสืบค้น แต่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาที่แน่นอนได้ บัญชี TikTok ที่อัปโหลดดูเหมือนเป็นเพจบันเทิงทั่วไปที่มุ่งเน้นเนื้อหาตลกขบขันและเรียกยอด Engagement โดยคลิปนี้ถูกแชร์ต่อในกลุ่มเฟซบุ๊กต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ โดยฝั่งคนที่เชื่อ ชี้ว่าภาพดูสมจริงและสะท้อนวัฒนธรรมไทยที่รักสัตว์ ขณะที่กลุ่มคนฝั่งไม่เชื่อ จะบอกถึงความผิดปกติ เช่น สัดส่วนร่างกายที่ไม่สมส่วน พื้นหลังที่ดูเบลอผิดธรรมชาติ

ล่าสุด เพจเฟซบุ๊ก Amorn Chomchoey พล.อ.ต.อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ได้โพสต์ชี้แจงอย่างละเอียดถึงคลิปไวรัลดังกล่าวว่า คลิปนี้ถูกสร้างขึ้นโดย AI อย่างชัดเจน ด้วยเหตุผลทางฟิสิกส์และชีววิทยาที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง โดยเฉพาะน้ำหนักของลูกช้างเอเชียที่ปรากฏในคลิป ซึ่งดูมีขนาดเท่าลูกช้างอายุประมาณ 6 เดือน

ข้อมูลจาก SeaWorld ระบุว่าลูกช้างแรกเกิดมีน้ำหนักเฉลี่ย 120 กิโลกรัม สอดคล้องกับลูกช้างป่า "ข้าวต้ม" ที่พบว่าหนัก 116 กิโลกรัม ในวันที่ถูกส่งตาเข้ารับการรักษา ส่วนข้อมูลจาก Oregon Zoo ยืนยันว่าลูกช้างเอเชียวัย 6 เดือนมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า หรือราว 295 กิโลกรัม

ส่วนผู้ชายในคลิปซึ่งมีรูปร่างผอมบาง ไม่มีทางแบกน้ำหนักขนาดนั้นได้ในท่าทางตั้งตรงและเป็นธรรมชาติ โดยไม่ล้มครืนตามกฎแรงโน้มถ่วง นอกจากนี้ ยังพบร่องรอยการรวมภาพที่ไม่เนียนบริเวณจุดเชื่อมระหว่างตัวช้างกับหลังคน รวมถึงข้อความภาษาไทยในคลิปที่สะกดผิด ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของเนื้อหา AI ที่สร้างเพื่อความบันเทิง

พล.อ.ต.อมร ยังให้คำแนะนำเชิงปฏิบัติสำหรับผู้ใช้โซเชียลมีเดียชาวไทยในยุคที่ AI อย่าง Veo หรือ Sora สามารถสร้างวิดีโอสมจริงได้ง่าย โดยยึดหลัก 3 ข้อหลัก ได้แก่

  1. Sense Check หยุดตรวจสอบความสมเหตุสมผลทางฟิสิกส์และตรรกะ เช่น ถามตัวเองว่าการแบกลูกช้างหนักหลายร้อยกิโลกรัมบนถนนสาธารณะเป็นไปได้จริงหรือไม่ และตรวจแหล่งที่มาของบัญชีโพสต์ว่ามีประวัติผลิตเนื้อหาตลกหรือไม่
  2. Tool Check ใช้เครื่องมือค้นหาย้อนกลับภาพ (Reverse Image Search) บน Google Image หรือ TinEye เพื่อหาต้นตอ และซูมดูรายละเอียดพิกเซลเพื่อหาจุดผิดปกติ เช่น รอยต่อหรือเบลอที่ AI ยังทำได้ไม่สมบูรณ์ 
  3. Responsibility Check พิจารณาผลกระทบก่อนแชร์ หากเป็นเนื้อหาตลกชัดเจนอาจไม่เป็นไร แต่ถ้าดูจริงและอาจก่อความเข้าใจผิด เช่น สร้างข่าวลองหรือบิดเบือนข้อเท็จจริง ควรหลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้เข้าข่ายผิดกฎหมายหรือขัดศีลธรรม

บทเรียน "เช็กก่อนแชร์"

กระแสคลิปนี้ยังชี้ให้เห็นแนวโน้มที่น่ากังวลในวงการเนื้อหาออนไลน์ มีผู้แสดงความคิดเห็นหลายคนกล่าวว่า หลังจากนี้ อาจมีคลิปที่เลียนแบบลักษณะคนแบกสัตว์ขึ้นอีก แต่เปลี่ยนจากช้างเป็นสัตว์ตัวเล็กกว่า เช่น ลิง หมา แมว เพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหาเรื่องฟิสิกส์ แต่ยังคงมุ่งหวังให้คนเชื่อ หวังยอดวิว ยอดไลก์ และ การเข้าถึงเพจของตัวเอง

ในขณะที่โดยผู้สร้างส่วนใหญ่อาจไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบระยะยาว เช่น การแพร่กระจายข่าวปลอมที่นำไปสู่ความสับสนในสังคม หรือแม้กระทั่งการลดความเชื่อมั่นในสื่อจริง

แต่ถ้ามองในมุมของนักพัฒนา AI การสร้างผลงานที่หลอกตาให้คนเชื่อถือได้ ถือเป็นความสำเร็จทางเทคนิค แต่ก็ต้องชั่งน้ำหนักให้มาก เพราะมนุษย์สามารถกำกับ AI ได้ หากยึดพื้นฐานที่ไม่เดือดร้อนผู้อื่น เช่น ใส่ watermark หรือ disclaimer ชัดเจน

แต่ถ้า "จุดไฟ" เพื่อต้องการแสงสว่างเพียงชั่วคราว
ก็อาจกลายเป็น "ไฟลามทุ่ง" ที่ควบคุมไม่ได้
สร้างความเสียหายต่อสังคมดิจิทัลทั้งหมด

อ่านข่าวอื่น : 

ทรัมป์บุกอาเซียน! ขอเป็น ปธ.สันติภาพไทย-กัมพูชา ลุ้น "โนเบล"

ทร.สอบสวนเหตุเครื่องบิน T337 ล้อไม่กาง-นักบินปลอดภัย