โครงการคนละครึ่งพลัส ที่มีกำหนดเปิดลงทะเบียนร้านค้า วันที่ 15 ต.ค. นี้ เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ ใช้จ่ายได้วันที่ 29 ต.ค. จนถึงเดือน ธ.ค. 2568 แต่ดูเหมือนว่า จะสร้างความกังวลแก่ผู้ค้าจำนวนหนึ่ง ซึ่งเคยถูกตรวจสอบภาษีในอดีต แต่รัฐบาลยืนยันว่า จะไม่มีการส่งข้อมูลให้สรรพากร
ร้านค้าปลีก-ค้าส่งท้องถิ่นรายใหญ่ ภายในตลาดพิมายเมืองใหม่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ซึ่งเคยร่วมโครงการคนละครึ่ง แต่ถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลังจากกรมสรรพากร จึงรู้สึกกังวลกับการเข้าร่วมโครงการอีกครั้ง
กนกวรรณ ปานวัชรากม เจ้าของร้านค้าปลีก-ค้าส่ง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า หากยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับการจ่ายภาษี ก็อาจจะยังไม่ตัดสินใจ เพราะร้านได้กำไรไม่มาก เมื่อนำรายได้จากการขายสินค้าในโครงการฯ มาหักค่าใช้จ่าย ทำให้มองว่า อาจไม่คุ้มค่าจึงต้องการให้มีรัฐบาลมีมาตรการลดหย่อนภาษีให้กับร้านค้า หรือผู้ประกอบการที่เข้าร่วม
เช่นเดียวกับพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ที่ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ส่วนร้านค้าเก่าและใหม่ สนใจเข้าร่วมโครงการ แต่บางส่วนยังกังวลในเรื่องการเสียภาษี
แต่สำหรับผู้ค้าบางกลุ่มกลับเต็มใจที่จะเข้าโครงการคนละครึ่งพลัส เช่น พลอย พรหมพิทักษ์ เจ้าของร้านขายของชำในชุมชน ต.ตะหลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ที่เชื่อว่าจะเพิ่มกำลังซื้อถึง 2 เท่า หากเทียบกับช่วงเวลาปกติ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนได้จริง แต่ห่วงเรื่องระบบล่ม
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกฯ และ รมว.คลัง ให้ความมั่นใจกับข้อกังวลของผู้ประกอบการที่ลังเลจะเข้าร่วมโครงการ“คนละครึ่ง พลัส” ว่า รัฐบาลมีเงื่อนไขพิเศษ คือข้อมูลรายได้ หรือรายละเอียดทุกอย่างของผู้ประกอบการ ที่ถูกใช้ในโครงการฯ แต่จะไม่ถูกนำส่งให้กับกรมสรรพากรตรวจสอบ หรือจัดเก็บภาษี เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการรายย่อย สามารถเข้าร่วมโครงการได้มากยิ่งขึ้น
ส่วนผู้บริโภคที่เข้าร่วมโครงการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังยืนยันว่า จะได้รับเงินวันละ 200 บาท/วัน และไม่จำเป็นต้องใช้ให้หมด 200 บาทภายในวันเดียว สามารถสะสมอยู่ในแอปเป๋าตังฯ ได้
อ่านข่าว : มติ ครม.ไฟเขียว "คนละครึ่งพลัส" หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ 0.3 - 0.4 ของ GDP
เปิดรายละเอียด "คนละครึ่งพลัส" ใครได้สิทธิ ? ตรวจคุณสมบัติด่วน
เปิดขั้นตอนลงทะเบียน "คนละครึ่ง พลัส" ผ่านแอปฯ "เป๋าตัง"