สำนักข่าวเอพีรายงาน เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2568 ว่า รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรมีหลักฐานเพียงพอในการดำเนินคดีกับกลุ่มบริษัทพรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป (Prince Holding Group) และประธานบริษัท เฉิน จื้อ (Chen Zhi) หลัง 2 ประเทศประกาศมาตรการคว่ำบาตรร่วมกัน โดยกล่าวหาว่าบริษัทดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงทางออนไลน์และการใช้แรงงานบังคับในระดับนานาชาติ
โฆษกกระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ทัช สุขะ (Touch Sokhak) ระบุว่า Prince Holding Group ปฏิบัติตามกฎหมายของกัมพูชาอย่างครบถ้วน และได้รับการปฏิบัติไม่ต่างจากนักลงทุนรายใหญ่อื่น ๆ พร้อมยืนยันว่า การมอบสัญชาติกัมพูชาให้กับเฉิน ซึ่งเป็นชาวจีนโดยกำเนิด เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย
"เราจะให้ความร่วมมือ หากมีคำร้องขออย่างเป็นทางการพร้อมหลักฐานที่ชัดเจน รัฐบาลกัมพูชาไม่ปกป้องบุคคลที่ละเมิดกฎหมาย" ทัชกล่าว
คำแถลงมีขึ้นหลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และสำนักงานการต่างประเทศของสหราชอาณาจักรประกาศคว่ำบาตรเฉินและบริษัทของเขาเมื่อวันที่ 14 ต.ค. โดยกล่าวหาว่าเป็น “เครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ” ที่ฉ้อโกงเหยื่อทั่วโลกและแสวงหาผลประโยชน์จากแรงงานที่ถูกค้ามนุษย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
หน่วยงานสหรัฐฯ ยังยึดทรัพย์สินมูลค่ากว่า 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในรูปของบิตคอยน์ และตั้งข้อหาเฉินวัย 38 ปี ฐานฉ้อโกงทางการเงินและสมรู้ร่วมคิดฟอกเงิน โดยกล่าวหาว่า เขาอนุมัติให้ใช้ความรุนแรงต่อแรงงานจ่ายสินบนเจ้าหน้าที่ และใช้ธุรกิจอื่น เช่น การพนันออนไลน์และเหมืองคริปโต เพื่อฟอกเงินผิดกฎหมาย อัยการสหรัฐฯ โจเซฟ โนเซลลา เรียกคดีนี้ว่า “หนึ่งในปฏิบัติการฉ้อโกงการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์”
ขณะเดียวกัน ทางการอังกฤษได้อายัดทรัพย์สินของเฉินในสหราชอาณาจักร รวมถึงคฤหาสน์มูลค่า 12 ล้านยูโรในลอนดอน อาคารสำนักงานมูลค่า 100 ล้านยูโรในย่านการเงิน และอพาร์ตเมนต์หรูอีกหลายแห่งทั่วเมืองหลวง
สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรกล่าวหาว่า เครือข่ายของเฉินดำเนินศูนย์หลอกลวงในกัมพูชา โดยใช้แรงงานต่างชาติที่ถูกค้ามนุษย์ให้ทำงานหลอกลวงทางออนไลน์ ทั้ง “โรแมนซ์สแกม” และการลงทุนในคริปโตปลอม ซึ่งเหยื่อถูกลวงให้โอนเงินลงทุนจำนวนมาก ขณะที่แรงงานถูกบังคับให้ก่ออาชญากรรมภายใต้การข่มขู่และทรมาน
มาร์ค เทย์เลอร์ (Mark Taylor) อดีตผู้เชี่ยวชาญด้านการค้ามนุษย์ในกัมพูชาขององค์กร Winrock International กล่าวว่า เฉินมีความเชื่อมโยงแน่นแฟ้นกับชนชั้นนำทางการเมืองในกัมพูชา และเคยเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต “สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นบทบาทของกัมพูชาในฐานะศูนย์กลางที่ปลอดภัยของอุตสาหกรรมหลอกลวงออนไลน์ในภูมิภาค”
“สำหรับกัมพูชา เราพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกประเทศ หากมีหลักฐานเพียงพอ” ทัช สุขะ กล่าวย้ำ
ที่มา : สำนักข่าวเอพี
ทันโลกกับไทยพีบีเอส แปล/เรียบเรียง
อ่านข่าว : เส้นทาง “เฉิน จื้อ” CEO ปริ๊นซ์ กรุ๊ป สหรัฐฯฟ้องริบทรัพย์ครั้งแรกโลก
ฮุน เซน VS "เครื่องราชฯ -ออกญา" ชั้นยศ ต่างตอบแทน ในกัมพูชา
ผ่าอาณาจักร Call center- Scammer ศูนย์กลาง “เขมร-เมียนมา”











