วันนี้ (18 ต.ค.68) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงกรณีที่นายเพ็ญ โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ออกแถลงการณ์ไม่ยอมรับว่าพื้นที่บ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว รวมถึงพื้นที่ที่ฝ่ายไทยวางลวดหนาม และใช้รถปรับพื้นดินเพื่อกวาดล้างทุ่นระเบิดอยู่ในเขตแดนไทย
โดยโฆษกกองทัพบก ย้ำว่า ฝ่ายกัมพูชาพยายามที่จะไม่เข้าใจ ทั้งที่กองทัพบกเคยชี้แจงไปแล้วหลายครั้ง ทั้งนี้พื้นที่ที่ชาวบ้านกัมพูชาบุกรุกและเป็นข้อพิพาทกันอยู่ในขณะนี้อยู่นอกเขตพื้นที่ที่กัมพูชาอ้างสิทธิ์ ถึงแม้ว่า กัมพูชาจะนำแผนที่มาตราส่วน 1 : 200,000 มาใช้อ้างอิงก็ตาม
โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ชายแดนที่มีลักษณะเป็นพื้นที่ราบตามสนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส ซึ่งระบุให้ใช้หลักเขตแดนที่เคยปักปันกันไว้แล้วในอดีตเป็นหลัก บางหลักเขตอาจมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง จึงเกิดเป็นพื้นที่ที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ ทำให้ต้องใช้กลไก JBC มาร่วมแก้ปัญหา
แต่พื้นที่ที่มีปัญหาและข้อพิพาทนั้นอยู่ลึกเข้ามาในฝั่งประเทศไทยอย่างชัดเจน จึงไม่จำเป็นต้องรอให้กลไก JBC มาใช้แก้ปัญหา ในบริเวณพื้นที่ส่วนนี้ และการรุกล้ำดังกล่าวย่อมมีผลทางกฎหมายของไทย และไม่เป็นการละเมิดในบทบัญญัติของกฎบัตรสหประชาชาติ และกฎหมายระหว่างประเทศอย่างที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง
อ่านข่าว : ทบ.ชี้กัมพูชายังไม่หยุดจัดฉากสร้างสถานการณ์ ปลุกระดมมวลชนจัดตั้ง
ทภ.2 เลื่อนคุย RBC ไม่มีกำหนด หลัง "กัมพูชา" ไม่เสนอแผนเก็บกู้ทุ่นระเบิด
ทภ.2 พบโดรน 28 ลำ-รถบรรทุกขนแผ่นโลหะคล้ายสังกะสีเข้าพื้นที่ชายแดนกัมพูชา