ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ทรัมป์สั่งยิงเรือ 2 ลำ เชื่อเป็นพาหนะลักลอบขนยาเสพติดเข้าสหรัฐฯ

ต่างประเทศ
16:21
170
ทรัมป์สั่งยิงเรือ 2 ลำ เชื่อเป็นพาหนะลักลอบขนยาเสพติดเข้าสหรัฐฯ
กองทัพสหรัฐฯ ขยายแคมเปญต้านยาเสพติด โจมตีเรือลักลอบ 2 ลำในแปซิฟิกตะวันออกเป็นครั้งที่ 8 และ 9 สังหารผู้คน 5 คนทั้งหมด การโจมตีครั้งนี้เป็นครั้งแรกนอกทะเลแคริบเบียน รวมผู้เสียชีวิต 37 คนตั้งแต่ ก.ย.

วันนี้ (23 ต.ค.2568) CNN รายงานว่า สหรัฐฯ ขยายโจมตีเรือลักลอบยาเสพติดสู่แปซิฟิก สังหารผู้คน 5 รายใน 2 วัน-รวมตาย 37 คน ตั้งแต่เดือน ก.ย.ที่ผ่านมา

กองทัพสหรัฐอเมริกา เพิ่มความเข้มข้นในการต่อสู้กับการลักลอบยาเสพติด โดยเพิ่งโจมตีเรือ 2 ลำที่ถูกสงสัยในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออก ส่งผลให้ผู้คนบนเรือทั้ง 2 ลำเสียชีวิตทั้งหมด 5 คน ตามที่ พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศผ่าน X ว่าเรือลำแรกถูกโจมตีเมื่อวันอังคาร (21 ต.ค.2568) สังหารผู้ชาย 2 คน ซึ่งหน่วยข่าวกรองยืนยันว่าเรือนี้ถูกดำเนินการโดย "องค์กรก่อการร้ายที่ถูกกำหนด" (DTO) และกำลังขนยาเสพติดตามเส้นทางที่รู้จัก ตามด้วยลำที่ 2 ในวันพุธ (22 ต.ค.) สังหารอีก 3 คน

เฮกเซธ ระบุว่า "ผู้ก่อการร้ายด้านยาเสพติดที่นำพิษมาสู่ชายฝั่งสหรัฐฯ จะไม่มีที่หลบภัยในซีกโลกนี้" และเปรียบกลุ่มเหล่านี้กับอัลกออิดะห์ว่าพวกเขากำลังทำสงครามต่อชายแดนและประชาชนเรา ไม่มีที่ให้หลบหรืออภัย มีแต่ความยุติธรรม

การโจมตีทั้ง 2 ครั้งนี้ไม่มีกำลังพลสหรัฐฯ ได้รับบาดเจ็บ และเป็นครั้งที่ 8-9 นับตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย. โดยก่อนหน้านี้ทั้ง 7 ครั้งเกิดในทะเลแคริบเบียนเท่านั้น ทำให้ถือเป็นการขยายขอบเขตแคมเปญทางทหารครั้งใหญ่

ตั้งแต่เดือน ก.ย.2568 จนถึงวันนี้ (23 ต.ค.) กองทัพสหรัฐฯ ได้โจมตีเรือลักลอบยาเสพติดทั้งหมด 9 ครั้ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 37 คน การดำเนินการนี้มาจากนโยบายของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมี "ความเห็นทางกฎหมายลับ" ที่จัดผู้ลักลอบยาเสพติดเป็น "ศัตรู" สามารถสังหารได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านศาล ตามรายงานของ CNN ผู้เชี่ยวชาญกฎหมายมองว่านโยบายนี้สำคัญเพราะขยายอำนาจทางทหารอย่างกว้างขวาง

  1. ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 1 ก.ย. โจมตีเรือเร็วของกลุ่มเวเนซุเอลาในแคริบเบียน สังหาร 11 คน
  2. ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 15 ก.ย. สังหาร 3 คนจากเวเนซุเอลา
  3. ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 16 ก.ย. สังหารไม่ระบุจำนวน (อาจรวมชาวประมงโคลอมเบีย)
  4. ครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 19 ก.ย. สังหาร 3 คน ยึดโคเคน 1 ตันใกล้โดมินิกัน
  5. ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 3 ต.ค. สังหาร 4 คน ใกล้เวเนซุเอลา
  6. ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 14 ต.ค. สังหาร 6 คน ใกล้เวเนซุเอลา
  7. ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 16 ต.ค. โจมตีเรือดำน้ำ สังหาร 2 คน แต่มีผู้รอด 2 คนจากโคลอมเบียและเอกวาดอร์ที่ถูกส่งตัวกลับเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 
  8. ครั้งที่ 8 เมื่อวันที่ 21 ต.ค. สังหาร 2 คน
  9. ครั้งที่ 9 เมื่อวันที่ 22 ต.ค. สังหาร 3 คน

แคมเปญนี้มุ่งเป้าตัดเส้นทางยาเสพติดจากโคลอมเบียและเวเนซุเอลา โดย รมจ.กลาโหมสหรัฐฯ ย้ำว่าเรือเหล่านี้เชื่อมโยงกับคาร์เทลและ DTO ที่ถูกจัดเป็นผู้ก่อการร้าย แม้จะมีเสียงวิจารณ์เรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ แต่รัฐบาลทรัมป์ยืนยันว่าเป็นการปกป้องชายแดนและประชาชนจาก "พิษยาเสพติด" ที่ไหลเข้าสหรัฐฯ ต่อไป

อ่านข่าวอื่น :

ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่ง "ทรัมป์" สั่งแบนน้ำมันรัสเซีย ชี้ "ปูติน" ไม่จริงใจ

สแกมเมอร์จีนหนีทหารเมียนมา ข้ามแม่น้ำเมยเข้าฝั่งไทยกว่า 100 คน