"ผมไม่คิดว่าจะมีพระราชินี หรีอเชื้อพระวงศ์ท่านไหน ในสากลโลก หรือ บนโลกที่มอบสมบัติส่วนตัว หรือ เกาะส่วนตัวให้กับเต่า สิ่งที่พระองค์ท่าน ได้พระราชทานให้เมื่อหลายปีก่อน มันเป็นเมล็ดพันธุ์ที่สำคัญมาก ในเรื่องการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหากยากของไทย ผมมั่นใจว่าพระองค์ รักทะเล"
ผศ.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ย้อนตำนาน "เกาะมันใน" จ.ระยอง ซึ่งปัจจุบัน คือ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งอ่าวไทยฝั่งตะวันออก กับ The Active สถานีโทรทัศน์ไทยพีเอส เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา
เกาะแห่งนี้มีพื้นที่ 134 ไร่ ชื่อเกาะมันใน ตั้งอยู่ที่ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง สภาพภูมิประเทศเป็นชายฝั่งยาว 1,200 เมตร กว้าง 550 เมตร มีหาดทรายและโขดหินน้อยใหญ่จำนวนมาก ในอดีตพื้นที่เกาะแห่งนี้เคยเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชินีในรัชกาลที่ 9
ต่อมาในปี 2518 ได้พระราชทานเกาะแห่งนี้ให้กับกรมประมง เพื่อเป็นสมบัติของแผ่นดิน และเป็นประโยชน์ในการดูอนุรักษ์เต่าทะเล เช่น เต่ากระ เต่าตนุ เต่าหญ้า เต่ามะเฟือง หลังก่อนหน้านี้เคยเกิดปัญหา เต่าทะเลลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว แม้กรมประมงจะแก้ไขกฎหมายประมง พ.ศ.2493 ให้ผู้ครอบครองเต่าทะเลมีความผิดตามกฎหมาย แต่สถาน การณ์ก็ไม่ดีขึ้น กรมประมง จึงดำเนินการจัดตั้งเป็นศูนย์อนุรักษ์พระราชทาน บนพื้นที่เกาะมันใน ใช้ชื่อว่า โครงการสมเด็จฯ อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล
การงานและภารกิจของพระองค์ท่านมีหลากหลาย มากมายมหาศาล แต่พระองค์ก็ยังให้ความสนใจเกี่ยวกับทะเลมาตลอด…ศูนย์วิจัย ปัจจุบันไม่ได้ แค่การอนุรักษ์เต่าทะเล แต่ยังเป็นเกาะพื้นที่สีเขียว ใช้พลังงานไฟฟ้าสะอาด เป็นศูนย์ ศึกษาการขยายพันธุ์สัตว์ทะเลหายากชนิดอื่นด้วย ทั้ง พะยูน, โลมา, วาฬบลูด้า หอยมือเสือ, ปะการัง งานวิจัยด้านสมุทรศาสตร์ และสิ่งแวดล้อมทางทะเล ด้วย
นอกจากการอนุรักษ์พันธุ์เต่าแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ยังมีโครงการฟื้นฟูทรัพยากรชายฝั่งทะเล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ หลังชาวประมงพื้นบ้าน จ.นราธิวาส ประสบปัญหาจากเรืออวนลาก อวนรุน ที่เข้ามาจับปลาตามชายฝั่ง ส่งผลกระทบต่อวิถีการทำประมงพื้นถิ่น
"ชาวประมงได้มาเข้าพระองค์ท่าน และบอกเล่าถึงความเดือดร้อน พระองค์ท่านได้เรียกหน่วยงานเกี่ยวข้องมารับฟัง และรับสั่งให้เร่งแก้ปัญหาให้ชาวบ้านโดยเร็วที่สุด จึงเป็นที่มาของการวางปะการังเทียม เพื่อป้องกันไม่ให้เรืออวนลากเข้าใกล้ชายฝั่ง ทำให้ชาวประมงประกอบอาชีพได้ หากไม่มีคีนนั้น ชาวประมงก็คงไม่มีความสุขเหมือนในทุกวันนี้" ผศ.ธรณ์ กล่าว
การพลิกฟื้นสภาพความเป็นอยู่ของชาวประมงทะเลพื้นบ้านให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ไม่ได้ทำเฉพาะพื้นที่จ.นราธิวาสเท่านั้น เมื่อปี 2544 ราษฎรบ้านละเวง อ. ไม้แก่น จ.ปัตตานี ยังมีชาวประมงชายฝั่งได้ขอพระราชทานความช่วยเหลือจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ในเรื่องการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำที่ลดลง และการแก้ปัญหาด้วยการทำแหล่งปะการังเทียมก็ถูกนำไปให้แก้ไขปัญหาด้วยเช่นกัน
แม้กระทั่งเหตุการณ์มหาภัยพิบัติ "สึนามิ" เมื่อปี 2547 มีการส่งทหารเข้าไปช่วยดูแลประชาชนในพื้นที่เดือนร้อน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ได้รับสั่งให้เรียกผู้เกี่ยวข้องมาซักถามถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า มีแนวโน้มเป็นอย่างไร และจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่
"นอกจากท่านจะห่วง ประชาชน เจ้าหน้าที่และทหารที่ลงไปปฏิบัติงานแล้ว พระองค์ท่านได้ถามถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับแนวปะการัง โดยรับสั่งให้สำรวจและประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น …ผมมั่นใจว่าพระองค์รักทะเล และให้ความสนใจเกี่ยวกับทะเลมาก"
โครงการในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ นอกจากพลิกฟื้นคืนชีวิตให้สิ่งมีชีวิตในมหาสมุทรแล้ว ยังได้ส่งผลต่อพัฒนาชีวิตชาวประมง ควบคู่พร้อมกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนด้วย
อ่านข่าว
19 ปีโครงการกำลังใจ "เจ้าฟ้านักกฎหมาย" ผู้พลิกโฉมงานราชทัณฑ์
รถแห่ หมอลำ ลิเก ปรับรูปแบบถวายอาลัย “พระพันปีหลวง”
"สมเด็จพระพันปีหลวง" ไม่เคยทิ้งชาวบ้าน ภาพจำในใจ คนแดนใต้
พระราชกรณียกิจ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง











