ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“หัวหน้า” และ “หัวจ่าย” 2 ปัจจัยสำคัญแรก ”เพื่อไทย”

การเมือง
14:45
149
“หัวหน้า” และ “หัวจ่าย” 2 ปัจจัยสำคัญแรก ”เพื่อไทย”
แม้นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย จะเป็นหนึ่งในชื่อคู่ชิงหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้วยจุดเด่น นอกจากความรู้และประสบการณ์การเมืองโชกโชนแล้ว ยังมีภาพพจน์การเป็นนักการเมืองประชาธิปไตย

แม้จะเป็นหนึ่งในนักการเมือง ที่พยายามปกป้องนายทักษิณ ชินวัตร บ่อยครั้ง แต่นายจาตุรนต์ ถือเป็นหนึ่งไม่กี่คน ที่กล้าฟาดกลับนายทักษิณ เมื่อครั้งที่พูดในรายการ แคร์ทอล์ค & แคร์คลับเฮาส์ หลังพรรคแพ้เลือกตั้งปี 2566 นอกจากระบุแพ้กระสุนแล้ว พรรคกำลังเจอศึกใหญ่ 2 ด้าน จึงต้องดิสรัปชันใหญ่ และขอให้คนแก่ๆ ในพรรคถอยไปหน่อย

จึงโดนนายจาตุรนต์ ทวีตข้อความกลับ ทำนองทำไมต้องเป็นคนแก่ ๆ ไม่เป็นคนอื่น ทั้งทิ้งปมคำถาม

อย่าไปโทษใคร เพราะเพื่อไทยไม่พูดให้ชัดเจนแต่ต้นจะร่วมกับ 2 ป.หรือไม่ มาพูดทีหลังคนไม่เชื่อแล้ว

ส่อเค้ามีโอกาสเข้าสูตรเดิม คือดึงคนนอกวงที่คอนโทรลไม่ได้ เหมือนเมื่อครั้งนายสมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และขึ้นเป็นนายกฯ หลังเลือกตั้งปี 2550

เป็นโมเดลที่พรรคเพื่อไทย ไม่เคยนำมาใช้อีกเลย แต่จะเลือกคนในตระกูลว่านเครือตลอด

เป็นเหตุให้ชื่อ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรค ที่มีภาพการเป็นคนรุ่นใหม่กว่า มีความรู้เชี่ยวชาญทั้งด้านเศรษฐกิจและประสานกับคนเจนใหม่ๆ ซึ่งจะสอดคล้องกับการเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร สส. 2 ระลอกของพรรค ส่วนใหญ่จะเป็นคนรุ่นใหม่ ๆ

แต่นายจุลพันธ์จะต้องเจอกับความท้าทาย ตั้งแต่การเจรจาปรับความเข้าใจกับนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้เป็นบิดา หลังจากทิ้งบอมบ์ใส่พรรคเพื่อไทย โดยมีเป้าใหญ่อยู่ที่ ”เจ๊แดง” นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เรื่องจัดสรรคนลงสมัคร สส.

กับการพิสูจน์ศักยภาพในฐานะหัวหน้าพรรค จะรักษาฐานไข่แดงและเมืองเมืองหลวงสำคัญของพรรค ตั้งแต่สมัยไทยรักไทยที่เชียงใหม่ได้หรือไม่

หลังเลือกตั้งปี 2566 เพื่อไทยได้ สส.เขตแค่ 2 คน จาก 10 เขต และหนึ่งในนั้น คือ นายจุลพันธ์ ที่ชนะคู่แข่งแค่สองร้อยกว่าคะแนน

ขณะที่พันธมิตรท้องถิ่น ”บ้านใหญ่บุรณุปกรณ์” ก็น่าแปรพักตร์ไปแล้ว หลังจากเพื่อไทยไปสนับสนุนอดีต สว.ก๊อง เป็นนายก อบจ. ติดต่อกัน 2 สมัยเข้าไปแล้ว

ยิ่งเมื่อขาดนายทักษิณ ที่ยังอยู่ในระหว่างต้องโทษจำคุก ยิ่งเป็น ”งานยาก” สำหรับพรรคเพื่อไทย ที่เชียงใหม่

แม้นายจุลพันธ์ หากได้เป็นหัวหน้าพรรคแล้ว ย่อมได้สิทธิ์เป็นผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ โดยไม่ต้องไปลุ้นสู้ในเขตเลือกตั้ง แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเจอแรงกดดันเรื่องวัดบารมีในฐานะเป็นคนเชียงใหม่

นอกจากนี้ ยังจะรวมถึง จ.เชียงราย ที่นายจุลพันธ์เป็นเขย ”บ้านใหญ่” เตชะธีราวัฒน์ ซึ่งในการเลือกตั้งนายก อบจ. ถูกบ้านใหญ่ “วันไชยธนวงศ์” ที่มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับค่ายสีน้ำเงิน แย่งเก้าอี้ไปได้ 2 สมัยติดแล้ว

ก่อนหน้านี้ มีการพูดถึงจุดที่น่าจะลงตัวในพรรค คือนายจุลพันธ์ ในฐานะตัวเลือกจากตระกูลชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค ตำแหน่งเลขาธิการพรรค น่าจะเป็นของกลุ่มของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ที่เป็นกลุ่มใหญที่สุดในพรรค โดยมีชื่อ นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ หลานนายสุริยะ จะรับตำแหน่งนี้

แต่วงในกลับยังมีชื่อนายสรวงศ์ เทียนทอง ทายาท นายเสนาะ เทียนทอง เป็นหนึ่งในตัวเต็งในตำแหน่งนี้เช่นเดิม เนื่องจากทำหน้าที่ได้ดีในช่วงที่ผ่านมา ทั้งประสานในพรรคและนอกพรรค

แต่สูตรนี้ มีคำถามสำคัญ คือนายพงศ์กวิน ในฐานะตัวแทนสปอนเซอร์ใหญ่ จะไปอยู่ตรงไหน

นำไปสู่เรื่องสำคัญ ใครจะเป็น “หัวจ่าย”ในการเลือกตั้ง สส.ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า การแข่งขันจะดุเดือดกว่าที่ผ่านมา และค่ายสีแดงหากหวังจะสู้เต็มที่ ก็มี “ท่อน้ำเลี้ยง” ที่ไม่ด้อยกว่าพรรคอื่น

แม้อาจมีข้อตกลงกับนายสุริยะ ให้เป็นหนึ่งในแคนดิเดตนายกฯ และเป็นผอ.เลือกตั้งของพรรค แต่ถ้าจะให้ลื่นไหลกว่านั้น ต้องมีคนในกลุ่มดูแลควบคุม “หัวจ่าย” โดยตรง

จึงเป็นโจทย์ใหญ่ของพรรคเพื่อไทยที่ต้องเร่งเคลียร์ให้จบก่อนถึงวันประชุมใหญ่วิสามัญ 31 ต.ค. หากยังหวังจะรักษา ”บ้านใหญ่” ที่คาดหมายว่า อาจจะยังเหลืออยู่ไม่มาก ให้ยังคงมั่นใจว่ามี”ทรัพยากร”ไม่ติดขัด

จากนั้น ค่อยไปว่ากันต่อ ที่รายชื่อ “แคนดิเดตนายก” อีกทีหนึ่ง

วิเคราะห์ : ประจักษ์ มะวงศ์สา บรรณาธิการอาวุโส

อ่านข่าว : ม.หอการค้าไทย คาดเงินสะพัด 9,677 ลบ. ลอยกระทงปี 68 ช่วงไว้อาลัย

หมายกำหนดการ พระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลสัตตมวาร ถวายพระบรมศพ "สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง"

"กกต." ประกาศพร้อมจัดเลือกตั้ง ควบประชามติ

แท็กที่เกี่ยวข้อง: