ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เปิดเหตุผลฝ่ายหนุน-ค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีรุกป่า

เปิดเหตุผลฝ่ายหนุน-ค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีรุกป่า
อ่านให้ฟัง
11:08อ่านข่าวให้ฟังโดย Botnoi Voice เว็บแอปพลิเคชันสำหรับสร้างเสียงจากข้อความด้วย AI (Text to Speech)

แม้จะเริ่มมีเสียงคัดค้านมากขึ้นจากสายนักวิชาการด้านป่าไม้และเครือข่ายองค์กรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่แสดงความกังวลต่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีรุกป่า 2 ฉบับ ที่ผ่านการลงมติจากสภาเมื่อ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวล่าสุดรายการสถานีประชาชน จัดเวที พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีรุกป่า ช่วยชาวบ้านหรือเอื้อนายทุน โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเสวนา

ถ้าโยนหินในน้ำแล้วบอกว่าจะนิรโทษกรรมคนรุกป่า แล้วค่อยเอามาเข้าซองคัดกรอง โดยไม่รู้เป้าหมายว่าเป็นใคร กลุ่มไหนก็ไม่ควรต้องนิรโทษกรรม เพราะแม้ผ่อนผันมาตลอดหลังปี 2557 ก็ยังมีที่ดินบุกรุก 2 ล้านไร่

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมผู้ถูกดำเนินคดีบุกรุกป่า ระบุว่า จากการร่วมประชุม กมธ.วาระ 2 พิจารณาร่างฯ ตามที่ 2 พรรคการเมืองเสนอเข้ามา ยังยืนยันว่า ไม่มีเหตุผลที่จะนิรโทษกรรมคดีรุกป่า เพราะแม้กลุ่มที่เสนอก็ยังไม่เข้าใจในกระบวนของรัฐในการแก้ปัญหาคดีที่ดินและป่าไม้ ขณะนี้ไทยเหลือป่าเพียง 31% จากพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งไม่เพียงพอแล้วกับคนทั้งประเทศ หากออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยไม่มีเป้าหมาย ก็ไม่ยุติธรรมกับคนส่วนใหญ่

ชัยวัฒน์ ระบุว่า ตัวเลขที่ระบุว่าช่วงปี 2557-2562 มี 30,000 คดี และหลังปี 2557 จะได้รับการนิโทษกรรมทั้งหมด แสดงว่าคนที่ยกร่างยังไม่รู้เป้าหมายกลุ่มคนว่าจะนิรโทษกรรมใคร ทั้งที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ใช้มาตรา 67 ตาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 และมาตรา 121 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 กลั่นกรองคนที่อยู่ในป่าและให้สิทธิทำกิน แต่ต้องไม่ซื้อขายเปลี่ยนมือ

นายวีระภาส คุณรัตนสิริ รองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ระบุข้อห่วงใยต่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 2 ฉบับ โดยเฉพาะที่ระบุว่าให้มีผลไปจนถึง พ.ร.บ.ประกาศใช้ ผู้กระทำความผิดจะได้รับการนิรโทษกรรม ซึ่งกว้างมาก ดังนั้นถ้ามองการแก้ปัญหาคนอยู่ในป่า มี พ.ร.บ.อุทยานฯ ที่มีความความต่อเนื่องกฎหมาย

ยอมรับว่าใน กมธ.วิสามัญพิจารณาวาระ 2 มาแล้ว 10 ครั้ง โดยเฉพาะในมาตรา 5 ยังไม่สามารถสรุปได้ชัดเจน เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญ เรื่องนี้ถ้าไม่กำหนดกรอบคนจะเท่ากับยกเว้นทุกกรณี จึงยังไม่ได้ข้อยุติ และมีหลักการที่ใช้ไม่ได้ในร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ

วีระภาส ระบุอีกว่า ขณะนี้ประเทศมีเป้าหมายการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ 40% ของพื้นที่ทั่วประเทศ แต่ปัจจุบันไทยมีป่าพื้นที่ป่า 31.4% ยังขาดพื้นที่ป่าไม้อีก 28 ล้านไร่ที่ต้องเพิ่ม และถือว่ายังห่างไกลมาก ส่วนระยะเวลาในการพิจารณากฎหมายหากดูจากห้วงระยะเวลาทางการเมือง ค่อนข้างสุ่มเสี่ยงไม่ทันการพิจารณาของสภาฯ หากยังไม่ชัดเจนเรื่องกลุ่มคนรับประโยชน์ จึงอยากสะท้อนว่านิรโทษแล้วอย่างไรต่อ สำคัญมากกว่าใครได้รับนิรโทษฯ ซึ่งกลุ่มชาวบ้าน กลุ่มทุน กลุ่มผู้ยากไร้ขนาดเล็กจะต้องกลับเข้าไปในพื้นที่ที่มีการปลูกป่าไว้แล้วหรือไม่ จะเป็นปัญหาหลังพิจารณาคุณสมบัติแล้วเสร็จจะมีขั้นตอนใดอีก เชื่อว่าไม่น่าจะหาข้อยุติได้ง่าย

ด้านนายปราโมทย์คริษฐ ธรรมคุณากร ที่ปรึกษาประจำ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ราษฎรฯ กล่าวว่า จากการร่วมประชุมหลายครั้ง พบว่า ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม 2 ฉบับคล้ายกัน แต่วัตถุประสงค์เพื่อช่วยประชาชนที่ครอบครองให้ได้รับการนิรโทษกรรม และผ่านวาระ 1 เสียงข้างมากแล้วจะเข้าวาระ 2 ในรายมาตรา

สาระคือมาตรา 5 ผู้ที่ถูกดำเนินคดีรุกป่า ประชาชนที่จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาควรเป็นผู้ยากไร้ก่อน แต่คำถามคือหากต่อมาทำมาหากินและมีฐานะดีขึ้น ก็ไม่ถือเป็นนายทุน ยกเว้นกรณีที่เข้าไปรุกป่าในพื้นที่ได้รับการผ่อนผัน ก็ไม่ควรให้โอกาสคนเหล่านี้ได้ประโยชน์

เมื่อถามว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 2 ฉบับ มีความรัดกุมหรือไม่ นายปราโมทย์ ระบุว่า ควรจำกัดว่าผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมเป็นใคร ซึ่งยังไม่ชัดเจน และอยู่ระหว่างกำหนดว่าผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐควรเป็นใคร เมื่อคำว่านิรโทษกรรมที่หมายถึงคนเคยทำผิด และเมื่อได้รับเยียวยาถือว่าไม่เคยกระทำผิดใด ๆ มาก่อนในการบุกรุก จึงควรบัญญัติไม่ให้มีนายทุนได้รับประโยชน์ตรงนี้

ขณะที่นายเลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล รองประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ราษฎรฯ กล่าวว่า ปัญหาป่าทับคน คนทับป่ามีมาอย่างยาวนาน ในยุคสมัยหนึ่งรัฐบาลมีนโยบายออกเอกสารรับรองสิทธิ แต่หลังปี 2540 รัฐบาลไม่มีนโยบายดังกล่าว แต่เป็นนโยบายผ่อนผันให้คนอยู่อาศัย มติ ครม. 30 มิ.ย.41 ผ่อนผันให้คนอยู่อาศัยในป่าต่อไปได้ โดยไม่บุกรุกเพิ่มเติม และคำสั่ง คสช.ที่ 66/57 เร่งรัดให้จับกุมดำเนินคดี แต่ให้ยกเว้นผู้ยากไร้และผู้ไร้ที่ดินทำกิน แต่ในทางปฏิบัติมีผู้ถูกจับกุม ปี 2557-2562 จำนวน 29,000-30,000 คน หรือกว่า 20,000 คดี ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้าน แต่มีนายทุนไม่เกิน 20% จึงต้องหาช่องทางคืนความเป็นธรรมให้กลุ่มคนเหล่านี้ นำไปสู่การร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมคดีทวงคืนผืนป่า

หลักการเนื่องจากคนกลุ่มนี้ได้รับการผ่อนผันตามนโยบายรัฐบาล ไม่ประสงค์เอาผิดคนกลุ่มนี้อยู่แล้ว และกำหนดแนวทางแก้ไขปัญหา และยังถูกจับกุมดำเนินคดี จึงอยากนิรโทษกรรมให้ไม่มีความผิด และให้คนเหล่านี้มีสิทธินำที่ดินกลับสู่ช่องทางให้อยู่อาศัยและทำประโยชน์ตามนโยบายรัฐบาลปกติ

ส่วนประเด็นข้อกังวลเอื้อประโยชน์ให้นายทุน นักการเมือง และผู้มีอิทธิพลนั้น นายเลาฟั้ง กล่าวว่า ตนเองได้ล็อกกลุ่มเป้าหมายนิรโทษกรรม ไม่ใช่การนิรโทษกรรมเป็นการทั่วไป โดยกำหนดช่วงเวลาที่มีการดำเนินคดีตั้งแต่ 30 มิ.ย.2541 ถึงปี 2562 ส่วนช่วงระยะเวลาในการถือครองก่อนปี 2545 และปี 2545-2557 โดยต้องเป็นผู้ยากไร้ มีรายได้น้อย และไร้ที่ดินทำกิน ยืนยันว่าจะไม่มีการเอื้อให้เกิดการบุกรุกป่าเพิ่มเติมเพื่อรอนิรโทษกรรม เพราะการถือครองที่ดินหลังปี 2557 จะเท่ากับบุกรุกใหม่ทั้งหมด ไม่มีสิทธิเข้าเงื่อนไขร่าง พ.ร.บ.นี้ ซึ่งหลักเกณฑ์ที่เข้าข่ายเป็นนายทุน คือ ถือครองที่ดินเกิน 25 ไร่ หรือมีการสร้างบ้านพักตากอากาศ หรือถือที่ดินหลายแปลงรวมกันเป็นแปลงใหญ่ ยืนยันว่าไม่ใช่หลักเกณฑ์ที่คิดมาใหม่ แต่ กอ.รมน.พิจารณาเพื่อใช้ประกอบการตรวจสอบตามคำสั่ง คสช.ที่ 66/57

ส่วนมาตรา 97 พ.ร.บ.ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม นายเลาฟั้ง ยืนยันว่า ร่างกฎหมายนิรโทษจะพิจารณาเฉพาะฐานความผิดบุกรุกป่า ไม่รวมฐานความผิดอื่น ๆ

ด้านชีวะภาพ ชีวะธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา กล่าวว่า ตนเองขอแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน ในฐานะนักวิชาการป่าไม้และนักวิชาการสิ่งแวดล้อม ในวันนี้ระบบสังคมและสิ่งแวดล้อมต้องอยู่ควบคู่กัน และมีกฎหมายคอยถ่วงดุล ซึ่งปัจจุบันไทยมีพื้นที่ป่าทั่วประเทศน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐานถึง 30 ล้านไร่

นายชีวะภาพ ยกตัวอย่างเกาะรอกที่มีหาดสวยที่สุดของโลก และหาดฟรีด้อม จะเข้าหลักเกณฑ์นิรโทษกรรม รวมถึงกรณีคดีมลพิษจากโรงงานทั้งวินโพรเสส, แว็ก กาเบจ, คดีคลิตี้ ที่ฟ้องด้วยมาตรา 97 พ.ร.บ.ส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม จึงตั้งคำถามใส่มาตรานี้ไปทำไม รวมถึง สส.หลายคนถูกดำเนินคดีดังกล่าว และร่าง พ.ร.บ.นี้เอื้อประโยชน์ใคร

เรื่องนี้นอนไม่หลับกันหรอก ต้องแยกการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนด้วยวิธีอื่น เพราะนายทุนเข้าไปหมด ล้านกว่าไร่ที่จับขณะนี้นำไปฟื้นฟูในโครงการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ใช้งบประมาณรัฐ เป็นแสนล้านบาท กฎหมายบอกให้ชาวบ้านกลับเข้าไปทำกินเหมือนเดิม จะจัดการป่าอย่างไร

อ่านข่าว : “ชีวะภาพ” ห่วงร่างกฎหมาย “นิรโทษกรรมคดีรุกป่า” เอื้อประโยชน์นายทุน 

ไทยจ่อชงปมค้าสัตว์แปลกข้ามชาติ ถกเวที “ไซเตส” CoP 20 พ.ย.นี้ 

“ธารา” ชี้ MOU แร่แรร์เอิร์ธ สหรัฐฯ หวังแทรกห่วงโซ่ของจีน