ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

ทีดีอาร์ไอ ห่วงเศรษฐกิจโตช้า กระทบปากท้อง-คนไทยหมดหวังย้ายประเทศ

เศรษฐกิจ
17:25
126
ทีดีอาร์ไอ ห่วงเศรษฐกิจโตช้า กระทบปากท้อง-คนไทยหมดหวังย้ายประเทศ
ทีดีอาร์ไอ ห่วงเศรษฐกิจโตช้า กระทบปากท้องประชาชน ชี้หากไม่เปลี่ยนแนวทางการพัฒนาประเทศใหม่ เสี่ยงเป็นประเทศที่ถูกลืม คนไทยหมดหวังย้ายออกนอกประเทศ เตรียมเสนอโมเดลการพัฒนาใหม่ ผ่าน 5 โจทย์ท้าทาย

วันนี้ (3 พ.ย.2568) ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจท่ามกลางความผันผวนจากสงครามการค้าว่า ในสภาพแวดล้อมการค้าโลกที่เปิดกว้างในอดีต ประเทศไทยเคยประสบความสำเร็จอย่างมากในการสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจด้วยการส่งออก แต่ปัจจุบันทุกประเทศทั่วโลกต่างต้องเผชิญกับสงครามการค้าจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ จัดเก็บภาษีศุลกากรกับประเทศต่าง ๆ รวมทั้งประเทศไทยในระดับที่สูง ดังนั้นหากไทยไม่ปรับโมเดลการพัฒนาประเทศใหม่ อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจะช้าลงเรื่อย ๆ ตามที่มีการคาดการณ์ว่าในปี 2568-2569 นี้เศรษฐกิจจะโตไม่ถึง 2 % และอาจจะเติบโตต่ำที่สุดในเอเซียรองจากญี่ปุ่น

ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)

ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)

ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)

หากไทยมีอัตราการเติบโตเศรษฐกิจที่ช้าลง ในขณะที่จำนวนผู้สูงอายุในประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จะทำให้ประเทศเกิดความเสี่ยงที่จะไม่มีงบประมาณเพียงพอสำหรับสวัสดิการผู้สูงอายุ การรักษาพยาบาล และการยกระดับคุณภาพการศึกษาได้ นอกจากนี้การทำมาหากินของประชาชนยังจะฝืดเคือง กลุ่มคนที่จะได้รับผลกระทบเร็วที่สุดภายใต้โครงสร้างที่มีความเหลื่อมล้ำมาก คือกลุ่มคนที่มีได้น้อย ซึ่งที่ผ่านมาก็รับผลกระทบกันไปบ้างแล้วจนวันนี้ปัญหาลามไปถึงกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง รวมทั้งกลุ่มคนชั้นกลาง

เสียงบ่นดังขึ้นเรื่อย ๆ ว่ารายได้ไม่พอกับรายจ่าย ธุรกิจเงียบเหงา ทำมาค้าขายไม่ค่อยดี สุดท้ายจะหนีไม่พ้นที่จะกระทบกับคนทุกกลุ่มในประเทศ หากเราไม่ทำอะไรเลย จะไม่ฟื้นจากเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ตลาดหุ้นที่อยู่ในภาวะซบเซาก็จะซบเซาต่อไป ประเทศไทยก็จะกลายเป็นประเทศอีกประเทศหนึ่งที่ถูกลืมไป เป็นสิ่งที่คนไทยคงไม่อยากเจอ และประชาชนคนไทยจำนวนหนึ่งที่ไม่เห็นความหวังทางเศรษฐกิจก็อาจจะย้ายออกไปทำมาหากินที่ต่างประเทศแทน

โจทย์ใหญ่ “คนไทย” อยู่รอดอย่างไร ท่วมกลางสงครามการค้า

โจทย์สำคัญคือ คนไทยจะทำมาหากินต่อไปในอนาคตกันอย่างไรท่ามกลางสงครามการค้า และการทะลักเข้ามาตีตลาดไทยของสินค้าจากต่างประเทศ จากโจทย์ดังกล่าว ทีดีอาร์ไอจึงจัดงานสัมมนาสาธารณะประจำปีในหัวข้อ Reimagining Thailand's Development Model: ก้าวข้ามโลกเก่า ด้วยโมเดลใหม่ในการพัฒนาประเทศ ซึ่งจะมีการนำเสนอโมเดลใหม่ในการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้เศรษฐกิจไทยเติบโตไปได้มากกว่านี้ กลับไปยืนในอัตราการเติบโตอยู่ที่ 4-5% ไม่ติดกับดักรายได้ปานกลางอย่างที่เป็นอยู่ วันที่ 17 พ.ย.นี้

โดยทีมวิจัยทีดีอาร์ไอ เตรียมนำเสนอทางออกต่อ 5 ประเด็นท้าทายในโลกที่ไม่เหมือนเดิม ประกอบด้วย 1. การสร้างเครื่องจักรการเติบโตใหม่ในยุคโลกาภิวัตน์ย้อนกลับ 2. การสร้างนโยบายอุตสาหกรรมใหม่เพื่อสร้างการเติบโต 3. การกำหนดนโยบายการค้า-การลงทุนใหม่เพื่อสร้างการเติบโต 4. การพัฒนาทักษะและนวัตกรรมสู่โมเดลการพัฒนาใหม่ และ 5. การปรับบทบาทภาครัฐไทยในโลกใหม่ รวมถึงมีเวทีเสวนา ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่โมเดลใหม่ในการพัฒนา

อ่านข่าว:

 ลุ้นสงครามการค้า 2 มหาอำนาจ คลี่คลายดันเศรษฐกิจทั่วโลกฟื้นตัว

จับตาเจรจาหยุดโลก “ทรัมป์ – สี จิ้นผิง” 30 ต.ค. ชี้ชะตาทิศทางสงครามการค้าโลก

สงครามการค้าระอุอีกรอบ ทรัมป์ ขู่เก็บภาษีจีนเพิ่ม 100% เริ่ม 1 พ.ย.นี้