วันนี้ (3 พ.ย.2568) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการถอนอาวุธที่เป็นอาวุธยิงระยะไกลออกจากพื้นที่ชายแดนก่อนว่า เพราะเป็นอาวุธที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อทรัพย์ของพี่น้องประชาชนคนไทย
เมื่อถามถึงข้อกังวลของประชาชนในการเคลื่อนย้ายยุทโธปกรณ์ออกจากพื้นที่ชายแดนว่าหากเกิดเหตุความไม่สงบจะสามารถดูแลป้องกันชายแดนได้หรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า กำลังทหารตามแนวชายแดนยังอยู่เหมือนเดิม เพียงแค่ถอนอาวุธและระบบยิงบางส่วนเท่านั้น อาวุธยิงสนับสนุนในระยะใกล้ที่ใช้ปกป้องอธิปไตยของแต่ละหน่วยยังมีอยู่ เรื่องนี้มีการแจ้งชาวบ้านและมีการประสานอย่างใกล้ชิด ซึ่งชาวบ้านทราบ ไม่ได้ตื่นตระหนก และมีความเชื่อมั่นเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้ไปไหน มีการเปลี่ยนแค่หน่วยที่อยู่ระยะหลังจากหน้าแนวชายแดนเท่านั้นซึ่งไม่กระทบอะไร
สำหรับการดูแลเชลยศึกทหารกัมพูชาทั้ง 18 คนที่ยังถูกควบคุมตัวอยู่นั้น พล.ต.วินธัย กล่าวว่าการดูแลเป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งองค์กรที่ดูแลเรื่องนี้คือคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) ได้เดินทางไปเยี่ยมเป็นประจำอยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่มีเสียงสะท้อนอะไรที่น่ากังวล
ทั้งนี้เงื่อนไขการปล่อยตัวยังไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตาม 4 ข้อที่ให้ไว้ หากมีการแสดงออกถึงความตั้งใจ ความจริงใจ ทำให้ระดับของการเป็นปฏิปักษ์ต่อกันลดลง ถือว่าเข้าเงื่อนไข สามารถทำได้และช่วงนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา
พล.ต.วินธัย ยืนยันว่าทุกอย่างทำตามกติกาสากล หากพูดถึงประโยชน์ของเชลยศึก 18 คน ที่จับต้องได้มันไม่มี ทุกสิ่งทุกอย่างที่ประเทศไทยดำเนินการในเรื่องนี้อยู่ในมาตรฐานและกติกาสากล ส่วนที่มีข่าวว่าจะคืนเชลยศึกทั้ง 18 คน ในสัปดาห์หน้าเป็นเรื่องจริงหรือไม่ พล.ต.วินธัย กล่าวว่า ต้องติดตามกันต่อไป
อ่านข่าว :
กต.เผยไทย-กัมพูชาเห็นพ้องสำรวจ-เร่งจัดทำหมุดชั่วคราว ย้ำไทยไม่เสียเปรียบ
รัฐบาลโอนเงินผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชาแล้วเกือบ 3 แสนครัวเรือน รวม 1.3 พันล้าน
"อนุทิน" ขอโทษสื่อสารผิดพลาดปมรุกล้ำชายแดนกัมพูชา ย้ำไทยไม่เสียอธิปไตย











